ราคาทองคำผันผวนจับจังหวะทำกำไรช่วงไหนดี !
"วรุต"มองทองคำผันผวน จากปัจจัยบวก-ลบในต่างประเทศ ระวัง ! ถ้าหลุด 1,614 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ราคาร่วงยาว แต่ถ้ายืนได้ไปต่อ จับจังหวะทำกำไรช่วงไหนดี
นายวรุต รุ่งขํา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยถึงทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์หน้ากับ TNNONLINE ว่า ผันผวน เนื่องจากยังต้องดูปัจจัยบวกและลบว่าจะหนุนหรือกดดันทองได้มากน้อยแค่ไหน โดยปัจจัยสำคัญคือ การประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) วันที่ 27 ต.ค. คาดเคาะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ถ้าเป็นจริง จะหนุนให้เงินยูโรแข็งค่า
กดดอลลาร์อ่อนและส่งผลให้ทองคำมีโอกาสฟื้นตัว
รวมถึงการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) วันที่ 28 ต.ค. นี้ ซึ่งที่ผ่านมาเงินเยนอ่อนค่าสุดในรอบ 32 ปีหากเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากบีโอเจยังไม่มีมาตรการแทรกแซงค่าเงิน แม้ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น โดยใช้นโยบายการเงินสวนทางธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด และญี่ปุ่นมีการนำเข้าสินค้าและบริการจำนวนมากต้องรอดูว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาหรือไม่
สำหรับอังกฤษจะมีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่าจะเป็นใครและมีนโยบายทางด้านเศรษฐกิจอย่างไร รวมถึงเงินหยวนของจีนคาดว่าแข็งค่าหากจีนลดการกักตัวกลุ่มเสี่ยงผู้ติดเชื้อโควิดที่เดินทางเข้าจีนทำให้ภาพโดยรวมเศรษฐกิจจีนดีขึ้นและกดดอลลาร์อ่อนค่าหนุนทองคำดีดกลับ
นอกจากนี้ต้องดูว่าทองคำจะหลุดราคาต่ำสุดที่ 1,614 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์หรือไม่ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของเดือนก.ย.และถือจุดต่ำสุดรอบ 2 ปี ถ้าหลุดก็มีโอกาสปรับตัวลงต่อ และแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,596 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ราคาทองแท่งอยู่ที่ 28,950 บาท และแนวรับต่อไปที่ 1,578 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ราคาทองแท่งอยู่ที่ 28,650 บาท
แต่ถ้ายืนได้ก็มีโอกาสไปต่อ โดยแนวต้านแรกอยู่ที่ 1,639 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ราคาทองแท่งอยู่ที่ 29,750 บาทแนวต้านถัดไปที่ 1,654 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ราคาทองแท่งอยู่ที่ 30,050 บาทแนวต้านสุดท้ายที่ 1,688 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ราคาทองแท่งอยู่ที่ 30,300 บาท
" หากราคาดีดปรับตัวขึ้นแนะนำให้ขายทำกำไรออกมาบางส่วน และรอย่อรับเมื่อราคาอ่อนตัวเพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการทำกำไร ซึ่งหากราคาขึ้นอีกรอบก็ทำให้เราได้กำไรเพิ่มขึ้น แต่ถ้าราคาปรับตัวลงก็จะทำให้ไม่ต้องขาดทุนมากนัก และติดตามปัจจัยบวก-ลบในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด"
ที่มา นายวรุต รุ่งขํา
ภาพประกอบ วายแอลจี