ธุรกิจสุขภาพ-ความงามมาแรง รับเทรนด์ผู้สูงวัย
"สินิตย์" เผยยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจบริการด้านสุขภาพและความงาม 8 เดือนทะลุ 970 ล้านบาทรองรับสังคมผู้สูงอายุ นักลงทุนไทยแชมป์ รองลงมาคือจีน และฮ่องกง
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ธุรกิจบริการด้านสุขภาพและความงามมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ประกอบกับไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบทำให้กลุ่มผู้สูงอายุหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น โดยมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย คาดการณ์ว่า ปี 2583 ประเทศไทยจะมีจำนวนผู้สูงอายุประมาณ 20.5 ล้านคน หรือ เกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ
โดยจากข้อมูลสถิติ 8 เดือนที่ผ่านมา( ม.ค. - ส.ค.) มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่สูงถึง 353 ราย ทุนจดทะเบียน 969.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียว กันของปี 64 จำนวน 167 ราย หรือ 90 % และทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 659.32 ล้านบาท หรือ 212.62 % (ปี 2564 จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ 186 รายทุน 310.10 ล้านบาท) เฉพาะเดือนส.ค. จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ 56 ราย ทุนจดทะเบียน 124.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38 ราย หรือ 211.12 % หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 105.10 ล้านบาท หรือ 539%
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจฯ ที่ดำเนินกิจการอยู่ ณ 31 ส.ค.มีจำนวน 1,621 ราย คิดเป็น 0.19% ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินกิจการอยู่ และมีมูลค่าทุน 7,511.48 ล้านบาท คิดเป็น 0.036 % ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินกิจการอยู่ในประเทศไทย
ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร 836 ราย หรือ 51.57 % ทุนจดทะเบียนรวม 5,339.31 ล้านบาทหรือ 71.08 % รองลงมา คือ ภาคกลาง จำนวน 224 ราย หรือ 13.82 % ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 180 ราย หรือ 11.10 % ภาคเหนือ 175 ราย หรือ 10.80% ภาคตะวันออก 101 ราย หรือ 6.23% ภาคใต้ 78 ราย หรือ 4.81% และภาคตะวันตก 27 ราย หรือ 1.67%
สำหรับการลงทุนในธุรกิจฯ ดังกล่าวเป็นนักลงทุนชาวไทยครองแชมป์อันดับ 1 มูลค่าทุน 7,286.32 ล้านบาท หรือ 97 % รองลงมา คือ จีน ทุน 80.92 ล้านบาท 1.08 % ฮ่องกง ทุน 38.69 ล้านบาท 0.52 % อิตาลีทุน 34.00 ล้านบาท 0.45 % และสัญชาติอื่นๆ ทุน 71.55 ล้านบาท 0.96%
ภาพรวมผลประกอบการของธุรกิจฯ รายได้เฉลี่ยช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 15,000 ล้านบาทต่อปี โดยรายได้รวมปี 2562 จำนวน 16,085.25 ล้านบาท ปี 2563 จำนวน 14,316.74 ล้านบาท ลดลง 11 % และปี 2564 จำนวน 15,153.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.85 % ทั้งนี้ คาดว่า ปี 2565 มูลค่าตลาดของธุรกิจฯ ทั่วโลก จะสูงถึง 206 ล้านล้านบาท และจะเติบโตต่อเนื่องตามสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้น
ข้อมูลของสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 พบว่า ประเทศไทยมีประชากรจำนวน 66,171,439 คน จำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุ (อายุตั้งแต่ 60 - 150 ปี) จำนวนทั้งสิ้น 12,241,542 คน หรือ 18.50 % แบ่งเป็นเพศชาย 5,424,781 คน เพศหญิง 6,816,761 คน กรุงเทพมหานครมีจำนวนประชากรผู้สูงอายุสูงสุด 1,171,900 คน รองลงมา คือ นครราชสีมา 495,452 คน เชียงใหม่ 379,118 คน ขอนแก่น 340,855 คน และ อุบลราชธานี 303,720 คน
จากข้อมูลข้างต้น ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ โดยผู้สูงอายุถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มจะเกิดโรคต่างๆ และต้องการการดูแลที่มากกว่าวัยอื่นๆ ดังนั้น ความต้องการธุรกิจด้านการบริการและสุขภาพจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่มา นายสินิตย์ เลิศไกร
ภาพประกอบ พาณิชย์