เงินบาทอ่อนรั้งอันดับ 4 ในภูมิภาค ต่างชาติขายหุ้นไทย 1.5 หมื่นล้าน
"รุ่ง" มองเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 36.85-37.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จับตาประชุมเฟด 22 ก.ย.นี้ เผยสถิติตั้งแต่ 1 ก.ย. -16 ก.ย. เงินบาทอ่อนรั้งอันดับ 4 เทียบภูมิภาค ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยไปแล้ว 1.5 หมื่นล้านบาท
น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ ให้กรอบ 36.85-37.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยชี้นำสำคัญอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 21-22 ก.ย. คาดขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.75% สู่ 3.00-3.25%ตลาดจะให้ความสนใจกับประมาณการดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่เฟด (dot plot) เพื่อประเมินทิศทางนโยบายต่อไป
นอกจากนี้เงินบาทยังเผชิญปัจจัยฉุดรั้งจากการที่ราคาทองทำในตลาดโลกร่วงลงแรง ซึ่งกระตุ้นการนำเข้าของผู้ค้าทองในประเทศ อีกทางหนึ่งด้วย โดยมองว่าเป็นไปได้สูง
ที่ทางการเข้ามาดูแลตลาด เพื่อลดความผันผวนและประวิงเวลา ก่อนที่เงินบาทจะอ่อนค่าทะลุ ระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในที่สุด
ขณะเดียวกัน ต้องติดตามเช่นกันว่าต่างชาติจะปรับพอร์ตขายหุ้นและพันธบัตรไทยต่อเนื่องหรือไม่อย่างไรก็ดี หลังข้อมูลเงินเฟ้อ ตลาดรับรู้ข่าวบวกของดอลลาร์ไปพอสมควรแล้ว คาดว่าค่าเงินจะผันผวนสูงหลังประชุมเฟด
สำหรับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาคตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.-16 ก.ย. พบว่า วอน-เกาหลีใต้อ่อนมากสุด 4.19% รองลงมาคือดอลลาร์-ไต้หวัน 2.70% เปโซ-ฟิลิปปินส์ 2.08%หยวน-จีน 1.69% บาท-ไทย 1.4% ริงกิต-มาเลเซีย 1.31% ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.82% ดอง-เวียดนาม 0.80%รูเปียห์-อินโดนีเซีย 0.60% รูปี-อินเดีย 0.44%
" บาทอ่อนค่า สอดคล้องกับทุกสกุลเงินในภูมิภาค และผันผวนสูงโดยเฉพาะหลังดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนส.ค.ของสหรัฐฯออกมาสูงเกินคาด ขณะที่เงินเปโซฟิลิปปินส์แตะระดับอ่อนค่าสุดเป็นประวัติการณ์ เงินบาทซื้อขายที่ระดับอ่อนสุดในรอบเกือบ16 ปี เงินหยวนจีนทะลุผ่าน 7.0 ต่อ 1 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีอย่างไรก็ตาม เดือนนี้ต่างชาติ ขายหุ้นไทยสุทธิ 1.5 หมื่นล้านบาท ซื้อพันธบัตร 1.2 หมื่นล้านบาท"
ที่มา น.ส. รุ่ง สงวนเรือง
ภาพประกอบ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา