เงินบาทกลับมาอ่อนค่า จับตาแถลงประธานเฟด

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 35.60-36.20 บาท/แ ถือเป็นแนวโน้มที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ก่อน หลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ กลับมาแข็งค่าอีกครั้ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หลายราย เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวต่อไป

ขณะที่เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนกรกฎาคม ที่สะท้อนความมุ่งมั่นในการขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับสูงเท่าที่จำเป็น แม้จะเริ่มออกความเห็นว่าอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยมากเกินไป เนื่องจากเฟดต้องใช้เวลาในการประเมินว่า การคุมเข้มนโยบายกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง โดยผู้ร่วมประชุมส่วนใหญ่เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังไม่ได้สะท้อนถึงผลกระทบส่วนใหญ่จากการที่เฟดขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา และยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า ถึงแม้ภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลง แต่ตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง และอัตราการว่างงานอยู่ใกล้จุดต่ำสุด

ด้านความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อโลก กลับมากดดันตลาดการเงินอีกครั้ง หลังเยอรมันรายงานดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนกรกฎาคม พุ่งขึ้นร้อยละ 37.2 ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคของอังกฤษเองก็เพิ่มขึ้นสูงสุดรอบ 40 ปี โดยธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยอย่างมากต่อไป 

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะได้แรงหนุนต่อเนื่อง ก่อนสุนทรพจน์ของประธานเฟด "เจอโรม พาวเวล" ในงานสัมมนาวิชาการที่เมือง Jackson Hole ช่วงท้ายสัปดาห์ โดยเฟดมักใช้เวทีดังกล่าวในการส่งสัญญาณนโยบายการเงิน นอกจากนี้ตลาดจะจับตาค่าเงินหยวนที่อ่อนลง รวมถึงข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2 และค่าใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคล หรือดัชนี PCE เดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯ รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของยูโรโซน ขณะที่แรงกดดันด้านขาลงต่อค่าเงินยูโรเพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางความเสี่ยงเรื่องภาวะการขาดแคลนพลังงานและภูมิอากาศแปรปรวน

สำหรับไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ที่เติบโตร้อยละ 2.5 จากช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา ต่ำกว่าที่ ธปท.คาด แต่ยังมั่นใจว่าการฟื้นตัวจะดำเนินต่อไป โดยแม้ว่าเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่ผลกระทบต่อไทยยังจำกัด ซึ่งมุมมองเหล่านี้ สนับสนุนมุมมองของกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯที่ว่า ทางการจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปตลอด 2-3 ไตรมาสข้างหน้า 

ข้อมูลจาก : TNN ONLINE

ภาพจาก : TNN