TNN online พิชิตความผันผวน! ด้วยดาวเด่นกองทุนหุ้นจีน-เวียดนาม

TNN ONLINE

Wealth

พิชิตความผันผวน! ด้วยดาวเด่นกองทุนหุ้นจีน-เวียดนาม

พิชิตความผันผวน! ด้วยดาวเด่นกองทุนหุ้นจีน-เวียดนาม

บลจ.กสิกรไทยื เปิดเผยมุมมองที่ระบุว่าตลาดหุ้น "จีนและเวียดนาม" ถูกกดดันจนมูลค่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวในอดีต และน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว นี่จึงเป็นจังหวะของการซื้อสะสม เพื่อคว้าโอกาสทำกำไรในระยะยาว

กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย หรือคุณสุรเดช เกียรติธนากร ระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวนที่ค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น สถานการณ์โควิด-19 ความตึงเครียดทางการเมือง และภาวะเงินเฟ้อ แต่อย่างไรก็ดี คาดว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงหลังไตรมาสที่ 3 และอัตราการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ จะเริ่มชะลอตัวลง ส่งผลให้ผู้ลงทุนคลายความกังวลลงได้บ้าง และถ้าประเมินจากปัจจัยพื้นฐานในขณะนี้ บลจ.กสิกรไทย เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะในจีนและเวียดนาม โดยมองว่าภายในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้านี้ น่าจะเป็นจังหวะที่ผู้ลงทุนสามารถทยอยลงทุนได้ 


สำหรับตลาดหุ้นจีน มองว่าเริ่มกลับมามีความน่าสนใจอีกครั้ง โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากนโยบายเศรษฐกิจแบบผ่อนคลาย ซึ่งสวนทางกับประเทศอื่นๆ ที่มีทิศทางนโยบายเศรษฐกิจเป็นแบบตึงตัวมากขึ้น และจีนไม่ประสบปัญหาภาวะเงินเฟ้อ เนเพราะไม่ได้อยู่ในวงจรของการขึ้นดอกเบี้ยอย่างสหรัฐฯ และยุโรป นอกจากนี้ ระดับราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวในอดีต และได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ดังนั้นนักลงทุนที่ต้องการจะจับจังหวะการลงทุนในหุ้นจีน บลจ.กสิกรไทยก็มีกองทุนแนะนำ คือ "กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นจีน" (K-CHX) ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นจีนขนาดใหญ่ที่สุด 50 ตัวแรกในตลาด A-Share โดยเน้นหุ้นกลุ่ม Old Economy เช่น การบริโภคและการเงิน ที่จะกลับมาเติบโตสูงจากการบริโภคภายในประเทศ 


สำหรับอีกหนึ่งตลาดที่น่าจับตาในฐานะ “เสือเศรษฐกิจตัวใหม่ของเอเชีย” ก็คือ ตลาดหุ้นเวียดนาม ซึ่งมีความน่าสนใจใน 4 มิติ คือ 1) เศรษฐกิจในประเทศเติบโตได้ดี จากภาคการส่งออกและเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ ในขณะที่ภาวะเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่จัดการได้ 2) นโยบายภาครัฐหนุนให้มีการลงทุนจากต่างชาติ โดยมุ่งเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อยกระดับความสามารถสู่การแข่งขันในระดับภูมิภาค 3) จำนวนประชากรวัยแรงงานมีสัดส่วนสูงที่สุดในอาเซียน เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว และ 4) ระดับราคาหุ้นยังไม่สูงมากนัก ซึ่งปัจจัยหนุนเหล่านี้ คาดว่าจะทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามเติบโตได้ร้อยละ 17.5 ในปีนี้ และร้อยละ 19.2 ในปีหน้า 

ซึ่งกองทุนหุ้นเวียดนาม บลจ.กสิกรไทย ก็มีกองทุนให้เลือกลงทุน 2 รูปแบบ ได้แก่ กองทุนเปิดเค เวียดนาม (K-VIETNAM) และกองทุนเปิดเค เวียดนาม หุ้นทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ (K-VIETNAM-RMF) ซึ่งทั้ง 2 กองทุนมีนโยบายลงทุนเดียวกัน คือ เน้นลงทุนตรงในหุ้นเวียดนาม และลงทุนบางส่วนในกองทุนรวมต่างประเทศที่ลงทุนในหุ้นเวียดนาม ซึ่งรวมถึง ETF ด้วย โดยในช่วงที่ผ่านมากองทุนมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น สามารถเอาชนะดัชนีชี้วัด ได้ในทุกช่วงเวลา 

ข้อมูลจาก : TNN ONLINE

ภาพจาก : TNN

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง