สนค.เผยเงินเฟ้อไทยยังสูง ปรับกรอบค่าเฉลี่ยเงินทั้งปีเป็น 6%

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ระดับ 107.41 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.61 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงเล็กน้อยหรือราวร้อยละ 0.16 จากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 7 เดือนแรก เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.89

ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน อยู่ที่ระดับ 103.50 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.99 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.50 จากเดือนมิถุนายน ส่งผลให้เงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ย 7 เดือนแรก เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.01

ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า คุณรณรงค์ พูนพิพัฒน์ ได้เปิดเผยว่า สาเหตุหลักต่ออัตราเงินเฟ้อเดือนล่าสุด ยังเป็นสินค้ากลุ่มพลังงาน เพราะเป็นต้นทุนในทุกขั้นตอนการผลิตและโลจิสติกส์ของสินค้าและบริการ ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศปรับตัวดีขึ้น จากการท่องเที่ยว การส่งออก และราคาสินค้าเกษตรสำคัญสูงขึ้น ซึ่งต้นทุนสำคัญในการผลิตและการขนส่งสินค้าอย่างกลุ่มน้ำมันดีเซล น้ำมันเตา และก๊าซหุงต้ม ไม่ได้ปรับลดลงด้วย

ส่วนการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคม เชื่อว่ายังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเหตุผลทางเทคนิคจากฐานต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อในไตรมาส 4 มีโอกาสปรับตัวลดลงจากฐานที่สูงของปีก่อน 

แต่ถึงอย่างไร ยังคงต้องมีการติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด เพราะจะมีผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้นได้ และสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ได้ปรับประมาณการเงินเฟ้อสำหรับปีนี้ใหม่ ขึ้นเป็นร้อยละ 5.5 - 6.5 ด้วยค่าเฉลี่ยที่ร้อยละ 6 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 4.0 - 5.0 ทั้งนี้ โดยการปรับประมาณการเงินเฟ้อใหม่นี้ มาจากสมมติฐานสำคัญ ดังนี้

1. อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ปีนี้ราวร้อยละ 2.5 - 3.5 

2. ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยทั้งปี 90-110 ดอลลาร์/บาร์เรล 

และ 3.อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยทั้งปี 33.50-35.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลจาก : TNN ONLINE

ภาพจาก : TNN, AFP