TNN online คนละครึ่งเฟส 5 กลุ่มรายได้น้อย เอกชนคาดเป็นการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

TNN ONLINE

Wealth

คนละครึ่งเฟส 5 กลุ่มรายได้น้อย เอกชนคาดเป็นการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

คนละครึ่งเฟส 5 กลุ่มรายได้น้อย เอกชนคาดเป็นการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

ประธานหอการค้าไทย มองรัฐเดินหน้าโครงการ คนละครึ่งเฟส 5 เชื่อเป็นการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในระยะถัดไป

ตามที่คณะรัฐมนตรี ได้อนมัติโครงการ คนละครึ่งเฟส 5 วงเงิน 800 บาท ในระยะเวลาการใช้จ่าย 2 เดือนหรือวันที่ 1 กันยายน - 31 ตุลาคม 2565 นั้น

วันนี้(28 ก.ค.65) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าในแง่เวลาที่กำหนดในแต่ละโครงการใช้จ่ายช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมนั้น ถือว่าเหมาะสม เพราะช่วงนั้นค่าใช้จ่ายประชาชนจะสูงขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น การปรับค่าไฟฟ้า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย การร้องขอปรับค่าจ้างแรงงาน ราคาสินค้าทั่วไปยังสูง และเงินเฟ้อทรงตัวสูง ประกอบกับรัฐบาลมองว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว หลังรัฐคลี่คลายมาตรการต่างๆ กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมามากขึ้น โดบในวงเงิน 800 บาท นั้น เชื่อว่ารัฐบาลต้องประเมินหลายด้านและคิดรอบด้าน โดยเฉพาะด้านงบประมาณภาครัฐ และบรรยากาศใช้จ่ายและเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนตัวมองว่ามาตรการที่ออกมาช่วงกันยายน-ตุลาคม เป็นทั้งการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศ พร้อมกับการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวกลับมาพีคของปี และค่าเงินอ่อนส่งผลดีต่อส่งออกไทยยังแข่งขันได้ดี

สำหรับการเปิดประเทศที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยมากขึ้น แต่มองว่าจำนวนนักท่องเที่ยวมีจำนวนเพิ่มขึ้นหากไม่ติดเรื่องเที่ยวบินและตั๋วโดยสารยังหาได้ยากและมีราคาแพง ส่วนในภาคส่งออกดีขึ้นต่อเนื่อง ตัวเลขที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศออกมา ครึ่งปีแรกขยายตัวได้ 12% แต่ในแง่เงินบาทขยายตัวถึง 20% ดังนั้น ที่ภาคเอกชนประเมินไว้ว่าส่งออกทั้งปี 2565 จะโตได้ 4-5% ตัวเลขใหม่อาจขยายตัวได้ 10% จะทำให้เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ส่งผลต่อการขยายตัวของจีดีพีประเทศไทยตามที่มองไว้เกิน 3% ได้


"การต่อโครงการเพิ่มเงินให้กับคนมีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางอย่างน้อยคนละ 100 บาทต่อวัน ช่วยประชาชนประหยัด 800 บาท ก็จะช่วยค่าครองชีพในช่วง 2 เดือนนั้นที่ยังอาจฟื้นไม่ได้เต็มที่ เพราะเป็นช่วงที่มีต้นทุนเพิ่มจากการปรับค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ ก็จะมีเงินนี้มาช่วยเหลือได้บางส่วน ไม่ทำให้เศรษฐกิจชะงักช่วงนั้น เช่น จากปรับขึ้นดอกเบี้ย ค่าไฟค่าพลังงานอาจสูงขึ้น ซึ่งเงินที่รัฐใช้ครั้งนี้เกือบ 3 หมื่นล้านบาท รวมกับเงินสมทบใช้จ่ายประชาชนอีกส่วนหนึ่ง ก็จะเกิดสะพัดในระบบหลายหมื่นล้านบาทถึงแสนล้านบาทได้"



ข้อมูล :  หอการค้าไทย

ภาพ: www.คนละครึ่ง.com


ข่าวแนะนำ