เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย ราคาน้ำมันพุ่ง หนุนหอการค้าไทยหั่นจีดีพีปี65 เหลือ 3.1%

วันนี้(16 มิ.ย.65) นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2565 เหลือ 3.1% จากเดิมเคยคาดการณ์ไว้ที่ 4.2% เมื่อเดือนพ.ย. 2564 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังยังมีปัจจัยลบ โดยเฉพาะราคาพลังงานโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง 

รวมถึงสมมติฐานปริมาณการค้าโลก ลดลงมาอยู่ที่ 4% ส่วน GDP โลก ลดลงเหลือ 2.9% 2. จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 6.1 ล้านคน 3. อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 34.25 บาท/ดอลลาร์ 4. ราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ยทั้งปีที่ 110 ดอลลาร์/บาร์เรล 5. อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปี ที่ระดับ 0.50-1.00%

โดยผลกระทบจากราคาพลังงานโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญ ที่กระทบเศรษฐกิจรวมถึงประเทศไทย ขณะที่ ราคาพลังงานในประเทศ เมื่อมีการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลทุก 1 บาทต่อลิตร จะมีผลกระทบต่อ GDP ลดลง 0.2% และการขึ้นราคาเบนซินทุก 1 บาทต่อลิตร มีผลกระทบต่อ GDP ลดลง 0.1% ซึ่งหากขึ้นราคาทั้งดีเซลและเบนซิน รวมกันจะมีผลต่อ GDP ลดลง 0.3% ต่อปี

ส่วนคาดการณ์แนวโน้มการส่งออกไทยปีนี้ ประเมินว่าจะขยายตัว 6.3% จากประมาณการเดิมที่ 5.4% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 6.0% จากประมาณการเดิมที่ 1.5% 

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ มองว่าจากการที่ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และเริ่มกลับมาเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ซึ่งคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยราว 5 ล้านคน  รวมทั้งการอนุญาตให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ จะมีส่วนช่วยทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ราว 2-3 แสนล้านบาท ประกอบกับมูลค่าการส่งออกปีนี้ ที่คาดว่าจะเติบโติได้ราว 6-7% ซึ่งได้อานิสงค์จากเงินบาทที่อ่อนค่า คาดว่าในช่วงครึ่งหลังปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ราว 3.8% จากในช่วงครึ่งปีแรก ที่เติบโตได้ราว 2.3%

ข้อมูลจาก : ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 

ภาพจาก : AFP