นักลงทุนทยอยกลับเข้าตลาดคริปโทฯ รายย่อยในไทยเทรด 1.2 หมื่นล้านบาท

วันนี้(21 พ.ค.65) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เผยว่า ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกมีมูลค่าตาม Market cap. หรือ มูลค่าตามราคาตลาด อยู่ที่ประมาณ 1.28 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีมูลค่าการซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ 77.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน

โดยตั้งแต่ต้นปี 2565 ผลตอบแทนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับความนิยมในไทยยังให้ผลตอบแทนติดลบ นำโดยเหรียญ Kub ให้ผลตอบแทนติดลบมากสุด -61.37% ตามด้วย XRP -48.76% อีเธอเรียม (Ethereum) -46.62% และบิตคอยน์ (Bitcoin) -35.61%  อย่างไรก็ตามถ่านหิน (Coal) ยังคงให้ผลตอบแทนสูงสุดตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 125.65% ตามด้วยน้ำมัน (Oil) 38.91% และอะลูมิเนียม (Aluminium) ที่ 14.32% ส่วนทองคำ -0.15% ส่วนดัชนีหุ้นไทย (SET) อยู่ที่ -1.08% ( ข้อมูล ณ 16 พ.ค.65)

ทั้งนี้ ในปี 2565 มูลค่าซื้อขายสะสมแยกประเภทสินทรัพย์พบว่าค่อนข้างกระจายตัว นำโดยธีเทอร์ (Tether) มีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 7.43 หมื่นล้านบาทตามด้วยบิตคอยน์ (Bitcoin) ที่ 6.48 หมื่นล้านบาท และอีเธอเรียม (Ethereum) ที่ 4.38 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ 

มูลค่าซื้อขายโดยรวมมีแนวโน้มคงที่ในไตรมาสแรก ปี 2565 ในเดือนพ.ค.มีมูลค่าซื้อขายแล้ว 7.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งมูลค่าซื้อขายส่วนใหญ่มาจากรายย่อยในประเทศถึง 4.1 หมื่นล้านบาท

ขณะที่จำนวนบัญชีที่มีการเคลื่อนไหว (Active) ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ม.ค. โดยในเดือนพ.ค.มีจำนวนบัญชีล่าสุดอยู่ 4.82 แสนบัญชี แซงหน้าเดือนเม.ย.ทั้งเดือนที่มีบัญชีซื้อขายทั้งหมด 4.59 แสนบัญชี (ข้อมูล ณ 16 พ.ค.65)  ซึ่งนิติบุคคลต่างชาติเริ่มเป็นผู้ซื้อหลักในเดือน มี.ค.และต่อเนื่องถึงเดือน พ.ค.โดยเริ่มมีปริมาณซื้อสุทธิลดลงอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท ขณะที่รายย่อยในประเทศมียอดซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท และรายย่อยต่างชาติขายสุทธิ 1.5 หมื่นล้านบาท ( ณ 16 พ.ค.65)  

สำหรับ จำนวนบัญชีซื้อขายทั้งหมดในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่จำนวนบัญชีที่เคลื่อนไหว (Active) สอดคล้องกับราคาบิตคอยน์ (Bitcoin) และมีสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนบัญีซื้อขายทั้งหมด

ข้อมูลจาก : ก.ล.ต. 

ภาพจาก: AFP