TNN online ถกแผนระบายน้ำมันยังไร้ข้อสรุป จับตา IEA ประชุมฉุกเฉินรอบใหม่

TNN ONLINE

Wealth

ถกแผนระบายน้ำมันยังไร้ข้อสรุป จับตา IEA ประชุมฉุกเฉินรอบใหม่

ถกแผนระบายน้ำมันยังไร้ข้อสรุป จับตา IEA ประชุมฉุกเฉินรอบใหม่

หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงยืนยันว่าสหรัฐฯ จะระบายน้ำมันในคลังสำรองเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และบรรเทาภาวะขาดแคลนพลังงานในสหรัฐ ในฝั่งของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ก็ได้เรียกประชุมฉุกเฉินประเทศสมาชิกเช่นกัน เพื่อหารือแนวทางในการสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน

ปัจจัยติดตาม

1. ถกแผนระบายน้ำมันยังไร้ข้อสรุป จับตา IEA ประชุมฉุกเฉินรอบใหม่

อย่างไรก็ดี ปรากฏว่าประเทศสมาชิกทั้ง 31 ประเทศของสำนักงานพลังงานสากล ไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่จะมีการระบายออกจากคลังสำรองของประเทศสมาชิก รวมทั้งกำหนดเวลาในการดำเนินการดังกล่าวได้ โดยคาดว่า IEA จะทำการหารือต่อไปในสัปดาห์นี้ 


ก่อนหน้านี้เอง สมาชิก 31 ประเทศของ IEA โดยมีสมาชิกรายใหญ่อย่าง สหรัฐ สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส แคนาดา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เคยมีมติระบายน้ำมันสำรองมาแล้วเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนี้ ประเทศสมชิก ตกลงที่จะการระบายน้ำมันจำนวน 60 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองเพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในตลาด


ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประกาศแผนระบายน้ำมันในคลังสำรองจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และบรรเทาภาวะเงินเฟ้อในประเทศ โดยทำเนียบขาวเปิดเผยแถลงการณ์ระบุว่า แผนระบายน้ำมันครั้งนี้ เมื่อครบกำหนด จะมีปริมาณน้ำมันที่ถูกระบายออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เป็นจำนวนทั้งสิ้น 180 ล้านบาร์เรล  ซึ่งการระบายน้ำมันดังกล่าวถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ โดยยังไม่มีชาติใดเคยระบายน้ำมันในคลังสำรองจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันเป็นระยะเวลานานเช่นนี้มาก่อน แต่ก็จะทำให้สหรัฐมีปริมาณน้ำมันมากเป็นประวัติการณ์ไปจนถึงสิ้นปีนี้


2."มอร์แกนสแตนลีย์"หั่นคาดการณ์จีดีพีจีน คาดโตเพียงร้อยละ 4.6

ทีมนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ซึ่งนำโดย "โรบิน ซิง" ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปี 2565 ลงเหลือร้อยละ 4.6 จากร้อยละ 5.1 พร้อมกับคาดการณ์ว่า  จีนจะยังคงใช้นโยบาย Zero-COVID ต่อไปอีกในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว


นอกจากนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า อัตราการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คนสูงอายุนั้น เป็นเหตุผลที่ทำให้ทางการจีนยังคงใช้นโยบาย Zero-COVID ต่อไปในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของปีนี้


โดยในสถานการณ์ทั่วไปนั้น ทีมนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์คาดว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน จะเกิดขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ส่วนในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนั้น คาดว่าจีนจะประวิงเวลาการยกเลิกนโยบาย Zero-COVID ไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2566 และการกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งจะส่งผลให้เกิดภาวะติดขัดด้านอุปทานอย่างรุนแรง ทางด้านนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า GDP จีนมีแนวโน้มลดลงราวร้อยละ 0.9 ในไตรมาส 2 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากรายงานล่าสุด ซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนมีนาคม ร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากโรคโควิด-19 ได้กลับมาแพร่ระบาดอย่างหนัก


3.สหรัฐฯ เผยจ้างงานนอกภาคเกษตร ต่ำกว่าคาดในเดือนมีนาคม

ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกันก่อน ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 431,000 ตำแหน่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 490,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ร้อยละ 3.6 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ร้อยละ 3.7


โดยรายละเอียดของตัวเลขจ้างงานดังกล่าว แบ่งเป็นการจ้างภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 426,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 5,000 ตำแหน่ง ในขณะที่ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ซึ่งเปิดเผยโดย "เอสแอนด์พี โกลบอล" ปรากฏว่าตัวเลขในเดือนมีนาคม ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2564 และสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 58.5 รวมถึงเพิ่มขึ้นจากระดับ 57.3 ในเดือนกุมภาพันธ์ด้วย


ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นของดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้าย ได้รับปัจจัยหนุนจากการผ่อนคลายภาวะคอขวดของห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งการพุ่งขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจพุ่งขึ้นแตะระดับสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ขณะที่ดัชนี PMI ที่ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ยังบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตของสหรัฐด้วย




#น้ำมัน #IEA #ราคาน้ำมัน #TNNWealth #TNNช่อง16 

ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์

• Line @TNNWEALTH : https://lin.ee/TQ14oAe

• Facebook : https://www.facebook.com/TNNWealth

—————————————————————————

ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่ 

• Website : https://bit.ly/TNNWealthWebsite

• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube

• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok

หรือดูรายการ Live ได้ทาง

https://www.facebook.com/TNN16LIVE/



ข่าวแนะนำ