TNN online กุญแจ 9 ดอก เปิดประตูไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ

TNN ONLINE

Wealth

กุญแจ 9 ดอก เปิดประตูไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ

กุญแจ 9 ดอก เปิดประตูไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ

กุญแจสำคัญ 9 ดอก ที่จะพาไทยไปสู่จุดหมายทางเศรษฐกิจ ปลดล็อกอุปสรรค เพื่อเปิดประตูสู่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ



ท่ามกลางการแข่งขันทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน ทุกประเทศต่างต้องการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในภูมิภาค เพื่อดึงการลงทุน เช่นเดียวกับ ประเทศไทยต้องออกไปเชิญชวนทั้งนักลงทุน การย้ายฐานการผลิต และดึงดูดคนเก่ง มาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ   ซึ่งในเวลานี้ ความหวังของไทยคือ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี  ถูกวางให้เป็นแม่เหล็กดึงการลงทุน แต่การที่ประเทศไทยจะก้าวไปยังจุดหมายได้สำเร็จนั้น ยังมีเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไขอีกมาก สามารถสรุปได้เป็นกุญแจ 9 ดอก ในการปลดล็อกอุปสรรค เพื่อเปิดประตูสู่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ดังนี้


กุญแจ 9 ดอก เปิดประตูไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ


เริ่มกันที่ กุญแจปลดล็อกอุปสรรค ดอกที่ 1 แรงงานทักษะสูง และการดึงดูดคนเก่ง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการพัฒนาประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน “คนเก่ง” ถือเป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อเรามีเป้าหมายพัฒนาประเทศสู่ประเทศไทย 4.0 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี จำเป็นต้องดึงคนเก่งจากต่างประเทศเข้ามาทดแทนแรงงานทักษะสูงที่ขาดแคลนภายในประเทศ  


กุญแจ 9 ดอก เปิดประตูไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ



ปัจจุบัน ประเทศชั้นนำทั่วโลกต่างนำนโยบายดึงดูดคนเก่งมาใช้ และตัวอย่างประเทศที่ประสบความสำเร็จมากสุดในเอเชีย คือ สิงคโปร์ ได้นำวิธีดึงดูดคนเก่งระดับหัวกะทิ โดยออก  Tech.Pass  ซึ่งเป็นวีซ่ารูปแบบใหม่ที่อนุญาตให้ผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี ผู้นำองค์กร หรือผู้เชี่ยวชำญด้านเทคนิคจากต่างประเทศ เข้ามาทำงาน หรือประกอบกิจการในสิงคโปร์ ได้อย่างอิสระ  แต่การไปทำงานในสิงคโปร์ภายใต้โครงการนี้ ก็เป็นความท้าทายอย่างมาก เพราะรับเพียง 500 คน ต้องแข่งขันกับคนทั่วโลก แถมผู้สมัครจะต้องผ่านเกณฑ์อย่างน้อย 2 ใน 3   

กุญแจ 9 ดอก เปิดประตูไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ

กุญแจ 9 ดอก เปิดประตูไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ




ดังนั้น ประเทศไทยต้องออกมาตรการเชิงรุก รีบดึงดูดคนเก่งด้วยวิธีการใหม่ ๆ  ให้ดี และเร็วกว่าที่ประเทศอื่นนำเสนอ


กุญแจดอกที่ 2 กลุ่มแรงงานทักษะต่ำ และแรงงานต่างด้าว เนื่องจากประเทศไทยยังมีความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมาก จากโครงสร้างประชากรกำลังเปลี่ยนไปเป็นสังคมผู้สูงวัย แต่ปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และเชื่อมโยงสู่ปัญหาการค้ามนุษย์ ยังเป็นปัญหาที่รัฐบาลไทยต้องแก้ไข เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน  โดยรัฐบาลต้องทำงานเชิงรุกในเรื่องนี้มากขึ้น


กุญแจ 9 ดอก เปิดประตูไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ


กุญแจ 9 ดอก เปิดประตูไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ



กุญแจ 9 ดอก เปิดประตูไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ



กุญแจดอกที่ 3 สมาร์ตกริด (Smart Grid) หรือ ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ หัวใจสำคัญของระบบการส่งไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ซึ่งมุ่งเน้นการยกระดับความสามารถของระบบไฟฟ้า ทั้งคุณภาพบริการที่มีต่อผู้ใช้ไฟฟ้า และยกระดับโครงสร้างระบบไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  ทั้งนี้ ภายใต้การดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืน ที่หลายประเทศได้ให้คำมั่นในการประชุมภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26 หรือ COP 26 เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ภาคธุรกิจต้องคำนึงสิ่งแวดล้อม การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์  ดังนั้น การเข้าไปลงทุนในแต่ละประเทศของภาคธุรกิจจึงต้องมองหาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะเรื่องพลังงานสะอาด การมี Smart Grid ก็จะเป็นตัวดึงดูดนักลงทุน  ทั้งนี้ รัฐบาลไทยต้องรีบเปิดเสรีการผลิตพลังงานสะอาด และเข้าสู่ระบบ  Smart Grid  เพื่อบรรลุเป้าหมาย zero carbon




กุญแจดอกที่ 4 การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เรื่องนี้มีผลโดยตรงต่อการแข่งขันในเวทีโลก ต้องยอมรับว่า การจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรในสิ่งที่ได้มีการประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมานั้น ในประเทศไทยเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา และสร้างภาระให้กับผู้ประกอบการมาโดยตลอด   อีกทั้ง มีผลโดยตรงต่อการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก เห็นได้จากผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยสถาบัน IMD หรือ International Institute for Management Development ในปี 2563 ไทยมีอันดับการยื่นขอสิทธิบัตรภายในประเทศ อยู่อันดับที่ 54 จาก 63 ประเทศ  โดยไทยมีจำนวนคำขอจดสิทธิบัตรเพียง  2.5 คำขอต่อจำนวนประชากร 100,000 คน ยังอยู่ในระดับน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลเซีย และสิงคโปร์  ดังนั้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ ภาครัฐจึงควรปรับปรุงการให้บริการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาให้มีความคล่องตัวและรวดเร็ว ขณะเดียวกัน รัฐต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ ซอฟต์แวร์เถื่อน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอที รวมถึงซอฟต์แวร์ ที่จะเข้ามาลงทุน 




กุญแจ 9 ดอก เปิดประตูไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ




กุญแจดอกที่ 5 การให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ หรือ One Stop Service ในเรื่องการขอสิทธิประโยชน์การลงทุน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ จะต้องอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มาติดต่อราชการสามารถรับบริการ ณ ที่แห่งเดียว ลดขั้นตอน ระยะเวลาการขอส่งเสริม การอนุมัติ เพื่อประหยัดเวลา ลดต้นทุนการเดินทางให้แก่ผู้ประกอบการ ขณะเดียวกัน ควรนำระบบการบริการภาครัฐผ่านช่องทางออนไลน์มาใช้


กุญแจ 9 ดอก เปิดประตูไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ


กุญแจดอกที่ 6  การผนึกกำลังของทูตพาณิชย์ ในการเชิญชวนบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ 100 อันดับแรกของโลกมาลงทุน พร้อมออกนโยบายจูงใจที่เรียกว่า “วัดตัวตัดสูท”

โดยรัฐบาลควรจัดตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นมา โดยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดโดยตรงและรวดเร็ว ถึงเรื่องที่แต่ละบริษัทติดขัด ตัวอย่างเช่น กระทรวงต่างประเทศเดนมาร์ก จัดตั้งทีมเฉพาะกิจ และผู้เชี่ยวชาญจากด้านต่าง ๆ มาให้คำปรึกษาบริษัทที่สนใจเข้ามาลงทุน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนการพิจารณานโยบายตัดสูทพิเศษ อย่างเช่น เลบานอน ให้สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับข้อตกลงการลงทุนแบบแพกเกจ ขณะที่ อินโดนีเซีย ประกาศนโยบายภาษีแบบยืดหยุ่น และจัดทำมาตรการจัดทำโครงการชดเชยคาร์บอน เพื่อดึงดูดการลงทุน


กุญแจดอกที่ 7  การขยายผล อีอีซี สู่เขตเศรษฐกิจภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อให้นักลงทุนสามารถเลือกแหล่งการผลิตได้เหมาะสมกับประเภทของอุตสาหกรรม ซึ่งการลงทุนในเขตเศรษฐกิจเหล่านี้ มีความสำคัญต่อการเป็นส่วนหนึ่งในระบบห่วงโซ่อุปทาน  ช่วยต่อจิ๊กซอว์ให้ อีอีซี ให้มีความน่าสนใจลงทุนมากขึ้น   ขณะเดียวกัน ยังเป็นประตูสู่ประเทศเพื่อนบ้าน 



กุญแจ 9 ดอก เปิดประตูไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ


กุญแจ 9 ดอก เปิดประตูไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ




กุญแจ ดอกที่ 8 การให้วีซ่าระยะยาว long - Term Resident Visa หรือ LTR Visa ซึ่งเป็นวีซ่าใหม่ที่รัฐบาลใช้ดึงดูด 4 กลุ่มชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย โดยในจำนวนนี้ รวมถึงกลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เป็นการเปิดทางให้คนเก่งเข้ามาทำงานในไทย และเกิดการจ้างงานผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ  อย่างไรก็ดี สิ่งควรจะต้องปลดล็อกให้แก่ผู้ถือวีซ่าระยะยาวคือ ไม่ต้องรายงานตัวทุกปี ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวก และจูงใจดึงคนเก่งเข้ามาทำงานในไทย


กุญแจดอกที่ 9  รัฐบาลควรจัดตั้งกองทุนร่วมลงทุน หรือ Matching Fund ให้กับนักลงทุน ที่สนใจลงทุนใน สตาร์ตอัป รวมถึงการการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรน หรือ ซอฟต์โลน เป็น Co-Investment หรือการลงทุนโดยตรง  ซึ่งจะจูงใจให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการร่วมลงทุนกับสตาร์ตอัปมากขึ้น   ซึ่งรูปแบบการทำ Matching Fund นั้น ต้องยอมรับว่า รัฐบาลสิงคโปร์ ให้ความสำคัญอย่างมาก และถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในระบบนิเวศของสตาร์ตอัป อันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ หากรัฐบาลไทยนำมาใช้ก็จะช่วยส่งเสริมสตาร์ตอัป ไทยแข็งแกร่ง และเกิดผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่อนาคต


ทั้งหมดนี้คือ กุญแจ 9 ดอก ที่จะมาเปิดประตูให้ประเทศไทยก้าวสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจในภูมิภาค หากเราสามารถทำได้ครบทั้ง 9 ดอก นอกจากจะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศ ที่สำคัญยังได้ “คนเก่ง” จากทั่วโลกเข้ามาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ อีกด้วย

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง