ทอท.ลุ้นจีนเปิดประเทศดันผู้โดยสารปีเสือทะลุเป้า
ทอท.กางแผนปรับกลยุทธ์รับมือโอมิครอน เน้นพึ่งพาตัวเองปั๊มรายได้จาก Non Aero เพิ่มขึ้น หลังเจอพิษโควิดอ่วมถล่มหนักขาดทุนบักโบรก หวังจีนเปิดประเทศดันยอดผู้โดยสารทะลุเป้า
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า ก่อนเกิดการระบาดโควิด–19 สนามบินทั้ง 6 แห่งของทอท.ในปี 62 มีผู้โดยสารมาใช้บริการ 142 ล้านคนต่อปี ขณะที่ประเมินปีงบประมาณ 65 ว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารรวมอยู่ที่ประมาณ 62 ล้านคน และในปี 66 อยู่ที่ 110-120 ล้านคน หรือประมาณ 70% ของผู้โดยสารในปี 62
แต่ปัญหาตอนนี้คือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังไม่เพิ่มขึ้นมากนัก และที่สำคัญตลาดจีนที่เป็นตลาดใหญ่รัฐบาลยังไม่เปิดประเทศเมื่อดีมานด์ไม่มีการฟื้นตัวก็ยาก ดังนั้นทอท.จะดีขึ้นก็ต่อเมื่อจำนวนผู้โดยสารกลัมมาที่ระดับ 50% จึงจะคุ้มทุนสำหรับสายการบิน จุดคุ้มทุน ที่Load Factor ประมาณ 60-70%
ขณะที่ผู้ประกอบการสายการบินที่ผ่านมาได้รับผลกระทบกันหนัก แต่ที่อยู่ได้เพราะยังไม่ได้เปิดทำการบิน แต่ถ้าเปิดทำการบินก็จะมีต้นทุนเพิ่ม ซึ่งต้องใช้เงินลงทุน และถ้าสถาน การณ์โควิดยังไม่ดีขึ้นอาจจะแย่ลงอีก ดังนั้นสายการบินก็อาจจะต้องรอดูสถานการณ์ก่อน
โดยที่ผ่านมาทอท.ได้ช่วยเหลือผ่อนผันสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด โดยการลด/ยกเว้น ค่าบริการขึ้นลงของอากาศยาน (Landing Charges) และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charges) ค่าเช่าสำนักงาน และค่าบริการต่าง ๆ ซึ่ง AOT ได้มีการขยายระยะเวลาของมาตรการช่วยเหลือฯ จากเดิมที่สิ้นสุดเดือนมี.ค.65 ก็ได้ขยายไปจนถึง มี.ค. 66
สำหรับในปี 65 ถือเป็นปีท้าทายของอุตสาหกรรมการบิน เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนไปหลังจากเกิดโควิดทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวใหม่จะยืมจมูกคนอื่นหายใจเหมือนเดิมไม่ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทอท.จะมีรายได้จากการให้เช่าจากกิจการการบิน ซึ่งประกอบด้วยค่าธรรมเนียมในการขึ้น ลงของอากาศยาน (Landing Charge) ค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยาน (Par king Charge) ค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน (Passenger Service Charge) และค่าเครื่องอำนวยความสะดวก(Aircraft Service Charge)
นอกจากนี้ยังมีรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน ซึ่งประกอบด้วยรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ ค่าเช่าสำนักงานและค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ และ รายได้จากการให้บริการ รถลีมูซีน บริการที่จอดรถ และสิ่งอำนวยความสะดวกประเภทต่าง ๆ โดยผู้ประกอบการต่าง ๆ เหล่านี้ จะต้องชำระค่าตอบแทนส่วนแบ่งผลประโยชน์ ค่าเช่าพื้นที่และค่าบริการ(Service Charges) ให้กับทอท.แต่หลังจากเกิดโควิดรายได้ที่ได้รับจากธุรกิจดังกล่าวไม่มีเลย เนื่องจากร้านค้าต่าง ๆที่เช่าพื้นที่ของทอท.บางรายทนแบกรับภาวะก็ต้องเลิกกิจการ จากเดิมสัญญาการเช่าพื้นทำธุรกิจของผู้ประกอบการและสายการบินที่มีมากถึง 2,500 สัญญา แต่ขณะนี้เลิกสัญญาไปแล้ว 900 สัญญา
โดยในส่วนของพื้นที่เชิงพาณิชย์ พบว่าปัจจุบันทั้ง 6 สนามบินมีพื้นที่รวมกว่า 430,000 ตารางเมตร เป็นพื้นที่ว่างไม่มีผู้เช่า 113,765 ตารางเมตร (26.41%) พื้นที่ผู้ประกอบการขอหยุดกิจการชั่วคราวจากสถานการณ์โควิด-19 จำนวน 115,614 ตารางเมตร (26.84%) ส่งผลให้มีผู้ประกอบการอยู่เพียง 46.76% ของพื้นที่ทำให้ทอท.ต้องยื่นขอกู้วงเงิน 25,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในการทำธุรกิจ
แต่วงเงินขอกู้อาจไม่ทั้งหมด ซึ่งขอรอดูสถานการณ์ด้านการบินหลังจากที่รัฐเปิดประเทศ1 พ.ย.ที่ผ่านมา และนับจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ก็มีความกังวลเรื่องโควิดโอมิครอนที่กำลังแพร่ระบาดในหลายประเทศที่ยุโรป และจีน โดยระหว่างนี้รอองค์การอนามัยโลก หรือ WHOศึกษาว่าเชื้อโอไมครอนระบาดรุนแรงเหมือนเดลต้าหรือไม่ หากรุนแรงทุกอย่างที่ดีขึ้นก็อาจจะกลับมาแย่ลง แต่ในทางตรงกันข้ามหากWHO ประกาศว่าไม่น่ากังวล ภาพรวมการเดินทาง การท่องเที่ยว และธุรกิจการบินก็จะเริ่มกลับคืนมา
ส่วนสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) ที่ประเมินว่าธุรกิจการบินจะฟื้นและดีมานจะกลับมาในปี 67 แต่เชื่อว่าการทำธุรกิจจะไม่เหมือนเดิม เพราะโลกไม่เหมือนในอดีตจากที่ไม่เคยเจอโควิดก็มาเจอโควิด ซึ่งต้องปรับตัว โดยจะเน้นพึ่งพาตัวเองโดยหารายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่การบิน (Non Aero) เพิ่มขึ้น ซึ่งในอนาคตจะดัน AOT Digital Platform รุกตลาด E-Commerce ไปยังต่างประเทศ ซึ่งกำลังหารือกับพันธมิตร เช่น จีน และฮ่องกง โดยจะทำให้ทอท.มีรายได้เพิ่มขึ้น
สำหรับAOT Digital Platform ขณะนี้มีผู้ดาวน์โหลดใช้บริการแล้ว 6 แสนรายซึ่งแพลตฟรอ์มแบ่งเป็น 4 ระบบด้านบริการและเชิงพาณิชย์( AOT Airports Application)แสดงข้อมูลท่าอากาศยานแบบ Real-time ซึ่งช่วยวางแผนการเดินทางล่วงหน้าความแออัดในท่าอากาศยานและพัฒนาธุรกิจใหม่
ด้านการปฏิบัติการในท่าอากาศยาน ( AOT Digital Operation Dashboard) บูรณาการข้อมูลและแสดงผลผ่านทาง Dash board สำหรัมการบริหารจัดการสนามบินแสดงข้อมูลเรียลไทม์เพื่อใช้ตัดสินใจ วิเคราะห์ข้อมูลและทำนายถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นลดกระบวกการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรต่างๆ
ด้านการทำงานในสำนักงาน (AOT Digital Office) ช่วยส่วนตัวผนวกการใช้งานระบบสำหรับบุคคลและอื่นๆติดตามสถานะการทำงานและแจ้งเตือนเหตุการณ์ต่างๆให้พนักงานเพิ่มประสิทธิภาพจากการลดขั้นตอนและเวลาที่ใช้ในการทำงาน
ด้านการจัดการเขตปลอดอากร(AOT Digital Cargo)บูรณาการข้อมูล เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการเขตปลอดอากรเพื่อความปลอดภัยในการขอเข้าพื้นที่เขตปลอดอากรในรูปแบบการยืนยันตัวตนผ่านสองขั้นตอนเชื่อมโยงการจัดการและติดตามสถานะการขนสินค้าลดระยะเวลากระบวนการทำงานและเพิ่มความปลอดภัยขั้นสูง
ทั้งนี้ทอท.ก็กำลังเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารให้แล้วเสร็จในกลางปีหน้า เช่น ในอนาคตสามารถเช็กได้ว่าเที่ยวบินจะออกเวลาไหน หากผู้โดยสารจะรับประทานอาหารจะทันกับเวลาขึ้นเครื่องหรือไม่ หรือมีเสียงแจ้งเตือนกรณีที่จะรับกระเป๋าว่าตอนนี้อยู่ตรงจุดไหนแล้วก่อนที่จะมาถึงสายพาน หรือสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ถนนข้าวสารมีตรงไหนบ้าง เป็นต้น
ที่มา นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด
ภาพประกอบ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด