TNN online นายกฯ เรียกถกด่วนพลังงาน-พาณิชย์ เร่งคลอดมาตรการดูแลสินค้า-พลังงานแพง

TNN ONLINE

Wealth

นายกฯ เรียกถกด่วนพลังงาน-พาณิชย์ เร่งคลอดมาตรการดูแลสินค้า-พลังงานแพง

นายกฯ เรียกถกด่วนพลังงาน-พาณิชย์ เร่งคลอดมาตรการดูแลสินค้า-พลังงานแพง

นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหน่วยงานเศรษฐกิจด่วน เตรียมพร้อมมาตรการช่วยบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพประชาชน พร้อมสั่งตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท ก๊าซหุงต้มที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ถึง 31 มี.ค. 2565

วันนี้(20 ม.ค.65)  พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เรียกหัวหน้าหน่วยงานด้านเศรษฐกิจประชุมเพื่อหารือถึงการดูแลสถานการณ์ค่าครองชีพและบริหารสถานการณ์ด้านราคาพลังงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัญหาด้านราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยมอบหมายให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน อธิบดีกรมการค้าภายในและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมแผนรองรับและบริหารจัดการและดูแลบรรเทผลกระทบด้านค่าครองชีพของประชาชน

โดย กระทรวงพลังงาน ยังติดตามสถานการณ์ด้านพลังงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งยังคงนโยบายเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับประชาชน ได้แก่ การตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท โดยใช้กลไกเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อไม่ให้ภาคธุรกิจและภาคขนส่งได้รับผลกระทบ ซึ่งจะส่งผลต่อราคาสินค้าและบริการ และหากราคาน้ำมันยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ได้เตรียมความพร้อมในการเสริมสภาพคล่องเพื่อรองรับสถานการณ์ โดยในเบื้องต้นจะตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท ส่วนของราคาก๊าซหุงต้ม ยังคงตรึงราคาไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (ไม่รวมค่าขนส่ง) เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั้งครัวเรือนและร้านอาหาร ไปจนถึง 31 มี.ค.65

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังได้ติดตามในเรื่องของค่าไฟฟ้า โดยได้สั่งการให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการในส่วนของเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าให้มีต้นทุนที่ต่ำที่สุด เพื่อให้สามารถลดภาระค่าเอฟที ให้ได้มากที่สุด รวมทั้งได้มีพิจารณาในเรื่องของการรักษาความมั่นคงด้านพลังงาน โดยเฉพาะด้านก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนผ่านของผู้รับสัมปทานในแหล่งเอราวัณ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมจัดหาก๊าซธรรมชาติได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการเพิ่มการผลิตภายในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับการนำเข้าให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ

ขณะเดียวกันได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลเรื่องน้ำมันปาล์มสำหรับบริโภคให้มีราคาที่เหมาะสม เนื่องจากน้ำมันปาล์มเป็นต้นทุนในการประกอบอาหาร และยังส่งผลกระทบกับประชาชนโดยตรง 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปบริหารจัดการในส่วนของน้ำมันปาล์มที่นำมาผลิตไบโอดีเซลให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ให้ส่งผลกระทบกับทั้งเกษตรกรและภาคขนส่ง และเตรียมความพร้อมในการจัดหาพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. เป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าชุมชน รวมทั้ง ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในการจำหน่ายสินค้าราคาอุปโภคบริโภคในราคาประหยัด


ที่มา : สำนักโฆษกรัฐบาล

ภาพประกอบ : เว็บไซต์ ทำเนียบรัฐบาล 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง