เอกชน กังวลคลังไม่ลดภาษีที่ดินฯ จะกระทบธุรกิจเป็นลูกโซ่

วันนี้( 18 ม.ค.65) นายอธิป พีชานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากกรณีสภาหอการค้าทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอให้ “ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง” ร้อยละ 90 อีก 2 ปี (2565-2566) เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจและการระบาดของโควิด-19 ยังไม่ทุเลา แต่กระทรวงการคลังยืนยันจะไม่ลดภาษีให้อีก เพราะกลัวกระทบรายได้ท้องถิ่นที่รัฐบาลต้องจัดงบประมาณชดเชยให้นั้น ขอให้รัฐบาลพิจารณาว่าอย่ามองแค่รายได้ โดยไม่คำนึงถึงประชาชนและภาคเอกชน ยังมีปัญหารุมเร้าจากโควิดและสภาวะเศรษฐกิจ

ทั้งนี้รัฐเข้าใจคลาดเคลื่อนว่ามีเฉพาะคนรวยได้ประโยชน์ จริงๆได้ประโยชน์ทุกกลุ่ม ทุกระดับรายได้ เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่รัฐจะผลักภาระภาษีให้ประชาชนและภาคธุรกิจ เพราะไม่มีรายได้และความพร้อมจะชำระ เมื่อมีภาระเพิ่มจะกระทบต่อสภาพคล่อง การลงทุน และกระทบถึงฐานภาษีอื่นด้วย เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้ เป็นต้น จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการปลดคนงานที่เอกชนด้วย

ส่วนผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯ คือ บ้านหลังที่ 2 บ้านพักตากอากาศ และผู้ซื้อเพื่อลงทุนและปล่อยเช่า ทั้งผู้ซื้ออยู่เดิมและจะซื้อใหม่อาจจะชะลอการตัดสินใจ เนื่องจากบ้านหลังหลักราคาไม่เกิน 50 ล้านบาทได้รับยกเว้น ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ไม่ได้รับผลกระทบเพราะได้รับการลดหย่อนภาษีใน 3 ปีแรกอยู่แล้ว โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบคือผู้ถือครองที่ดินเปล่า เจ้าของธุรกิจด้านพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม โรงงาน โรงแรม ร้านค้า และการเก็บภาษีที่ดินเต็มอัตรานั้นรัฐควรให้เศรษฐกิจฟื้นตัวก่อน

ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากกระทรวงการคลังว่าจะไม่ลดภาษีที่ดินร้อยละ 90 ทั้งนี้หากกระทรวงการคลังยืนยันจะเก็บเต็มอัตราร้อยเปอร์เซ็นต์ในปี 65 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) จะมีรายได้จากภาษีที่ดิน 42,686 ล้านบาท

ที่มา :  สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย 

ภาพประกอบ : AFP