TNN online เงินเฟ้อ ค่าครองชีพพุ่ง คนกังวลน้ำมันแพง กดดัชนีเชื่อมั่นฯดิ่งลงต่ำสุดรอบ 9 เดือน

TNN ONLINE

Wealth

เงินเฟ้อ ค่าครองชีพพุ่ง คนกังวลน้ำมันแพง กดดัชนีเชื่อมั่นฯดิ่งลงต่ำสุดรอบ 9 เดือน

เงินเฟ้อ ค่าครองชีพพุ่ง คนกังวลน้ำมันแพง กดดัชนีเชื่อมั่นฯดิ่งลงต่ำสุดรอบ 9 เดือน

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผย ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนพฤษภาคมลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และต่ำสุดในรอบ 9 เดือน เหตุคนกังวลน้ำมันแพง ค่าครองชีพพุ่ง เงินเฟ้อ กดดันเศรษฐกิจประเทศ

วันนี้( 9 มิ.ย.65) รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนพฤษภาคม 2565 พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงจากระดับ 40.7 เป็น 40.2 โดยปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 เป็นต้นมา เนื่องมาจากการที่ผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ  โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นเดือนแรก  หลังจากที่รัฐบาลยกเลิกการตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ตลอดจนปัญหาค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น  รวมทั้งกังวลสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจโลกให้ช้าลงหรือชะลอตัวลง


อีกทั้งเกรงว่าจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการส่งออกและเศรษฐกิจไทยในอนาคต แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 จะคลี่คลายลง  ขณะเดียวกันรัฐได้ทยอยผ่อนคลายมาตรการโควิด ให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาแล้วก็ตาม โดยได้สะท้อนจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันปรับตัวดีขึ้น แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคตปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ความเชื่อมั่นโดยรวมปรับตัวลดลง 


ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 34.3 37.8 และ 48.5 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนเมษายน ที่อยู่ในระดับ 34.6 38.0 และ 49.6 ตามลำดับ  ซึ่งจากการที่ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคตอย่างมาก เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันและค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น ตลอดจนยังคงกังวลในวิกฤต COVID-19 ในประเทศไทยและทั่วโลกที่ยังคงมีอยู่ ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานมีโอกาสฟื้นตัวได้ช้าในอนาคต 


ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย    ประเมินว่าจากความกังวลเศรษฐกิจ ที่จะฟื้นตัวช้าจากวิกฤต COVID-19 ในประเทศไทยและทั่วโลก รวมถึงปัญหาสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่จะซ้ำเติมและมีผลกระทบทางจิตวิทยาต่อกำลังซื้อภายในประเทศ ภาคการท่องเที่ยว ภาคการส่งออก ธุรกิจ และการจ้างงานในอนาคต รวมถึงปัญหาค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้อาจทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงต่ำกว่าเป้าหมาย โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ที่ 2.5-3.0% ในปีนี้


ข้อมูลจาก : ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  

ภาพจาก:  พีอาร์หอการ้คาไทย

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง