นาโตวิตกถึงสงครามนิวเคลียร์ เตือนรัสเซียหยุดวาทกรรมไร้ความรับผิดชอบ
วันนี้ ที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำชาติสมาชิกนาโต โดยมีประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมด้วย ล่าสุด นาโต เตือนว่า การทำสงครามของรัสเซียในยูเครนอาจลุกลามกลายเป็นการเผชิญหน้าด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก และรัสเซียไม่มีทางชนะในสงครามนิวเคลียร์
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต แถลงข่าว ก่อนเริ่มการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศสมาชิกนาโตในกรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยียมว่า รัสเซียควรจะหยุดวาทกรรมเกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์ที่ไร้ความรับผิดชอบ และเป็นอันตราย
พร้อมระบุว่า ไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความพร้อมของนาโตในการปกป้องและป้องกันประเทศพันธมิตรต่อภัยคุกคามใด ๆ ที่จะเกิดขึ้นทุกเวลา และ รัสเซียต้องเข้าใจว่า ไม่สามารถเอาชนะได้ในสงครามนิวเคลียร์
แม้จะให้การสนับสนุนยูเครน แต่นาโตไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง และนาโตจะไม่ส่งทหารเข้าไปในยูเครน พร้อมกับย้ำว่าการสนับสนุนยูเครนเป็นสิ่งสำคัญ และนาโตกำลังดำเนินการอยู่ แต่ในขณะเดียวกันการป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนกลายเป็นเป็นสงครามเต็มรูปแบบระหว่างรัสเซียกับนาโต ก็สำคัญเช่นกัน
---เสริมกำลังรบใน 4 ประเทศ---
สโตลเตนเบิร์ก ระบุว่า พันธมิตรนาโตจะส่งเสริมกองกำลังของตนในยุโรปตะวันออก โดยส่งกองกำลังรบใหม่ 4 กลุ่ม ในบัลแกเรีย ฮังการี โรมาเนีย และสโลวาเกีย
รัสเซีย เปิดฉากบุกยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลายเป็นสงครามครั้งใหญ่สุดในยุโรป ตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีโอกาสที่ความขัดแย้งดังกล่าว จะลุกลามบานปลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ หากนาโตและชาติตะวันตกเข้าแทรกแซง
---จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ต่อเมื่อมีภัยคุกคาม---
รัสเซียระบุว่า จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ก็ต่อเมื่อเผชิญกับภัยคุกคามที่มีอยู่จริงเท่านั้น
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าว CNN ระบุว่า รัสเซียจะตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์ในบริบทของความขัดแย้งกับยูเครน ก็ต่อเมื่อเผชิญกับภัยคุกคามความมั่นคง “ที่มีอยู่จริง” เท่านั้น โดยจะเป็นไปตามแนวคิดด้านความมั่นคงของรัสเซีย ที่ได้ระบุเหตุผลทุกอย่างในกรณีที่ตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์ ที่เปิดเผยต่อสาธารณะสามารถหาอ่านได้
นอกจากนี้ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียไม่ได้มีความตั้งใจที่จะยึดครองประเทศยูเครน เป้าหมายของรัสเซียคือ ทำลายศักยภาพทางทหารของยูเครน และยืนยันว่า กองทัพรัสเซียไม่ได้กำลังโจมตีพลเรือนยูเครน
---สหรัฐฯ จับตารัสเซียใกล้ชิด---
จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวหลังเปสคอฟให้สัมภาษณ์ว่า ความเห็นของโฆษกรัฐบาลรัสเซียเกี่ยวกับจุดยืนการใช้อาวุธนิวเคลียร์นั้น เป็นความเห็นที่อันตราย และไม่ใช่วิสัยที่มหาอำนาจนิวเคลียร์ที่มีความรับผิดชอบ ควรให้ความเห็นเช่นนั้น และสหรัฐฯ กำลังจับตาความเคลื่อนไหวของรัสเซียในเรื่องนี้อยู่ทุกวัน
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หรือ 4 วันหลังจากรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครน ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้สั่งให้กองกำลังนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย เตรียมพร้อมขั้นสูง นับเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างความตกใจไปทั่วโลก
ทั้งนี้ รัสเซียเป็นประเทศที่มีคลังหัวรบนิวเคลียร์มากที่สุดในโลก
---รัสเซียเตือนกร้าวต่อสหรัฐฯ---
รัสเซียยังเตือนสหรัฐฯ และองค์การนาโตด้วยว่า หากมอบเครื่องบินขับไล่ให้แก่ยูเครน รัสเซียจะถือว่าเป็นการขยายและยกระดับสงครามในยูเครน และอาจทำให้รัสเซียต้องเผชิญหน้าโดยตรงกับประเทศตะวันตกที่เป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ด้านกลาโหมในหลายชาติตะวันตกเคยระบุว่า หลังประธานาธิบดีปูตินสั่งเตรียมพร้อมกองกำลังนิวเคลียร์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ก็ยังไม่เห็นสัญญาณการเคลื่อนไหวที่สำคัญใด ๆ ของกองกำลังนิวเคลียร์รัสเซีย ที่รวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิด ขีปนาวุธ และเรือดำน้ำที่ติดหัวรบนิวเคลียร์ได้
ผู้นำยูเครนเรียกร้องให้มีการจัดทำเขตห้ามบินมาหลายครั้ง แต่นาโตและชาติตะวันตกปฏิเสธ เพราะไม่ต้องการเผชิญหน้ากับรัสเซียโดยตรง และเกรงว่าจะทำให้สถานการณ์ลุกลามไปมากกว่าเดิม
---3 เวทีประชุมสำคัญ---
นอกจากจะมีการประชุม NATO แล้ว ยังมีการประชุม G7 และ EU ด้วย
ล่าสุด ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า ในการประชุมสุดยอดทั้งสามนี้ จะมาดูกันว่าใครคือเพื่อน ใครเป็นหุ้นส่วน และใครหักหลังและทรยศยูเครน และกล่าวว่า ชีวิตสามารถคุ้มครองได้ด้วยความสามัคคีเท่านั้น และเสรีภาพรักษาได้ด้วยกองกำลังติดอาวุธ พร้อมระบุว่าการคว่ำบาตรด้านพลังงานรัสเซียจะพิสูจน์ความแตกแยกได้
ผู้นำยูเครนระบุด้วยว่า ท้องฟ้าของยูเครนยังไม่ปลอดภัยจากขีปนาวุธและระเบิดทางอากาศของรัสเซีย เรายังไม่ได้รับเครื่องบินหรืออาวุธต่อต้านขีปนาวุธสมัยใหม่ เรายังไม่ได้รับรถถัง อาวุธต่อต้านเรือรบ กองทหารรัสเซียยังคงฆ่าคนของเราได้หลายพันคน ทำลายเมืองของเรา เพียงเพราะรัสเซียมีทหารจำนวนมาก เพียงเพราะรัสเซียได้เตรียมการสำหรับสงครามที่น่าอับอายนี้มานานหลายทศวรรษแล้ว
---จับตาภารกิจไบเดนในยุโรป---
มีรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางไปถึงกรุงบรัสเซลส์แล้ว เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด NATO, G7 และ EU ในวันนี้ (24 มีนาคม) เพื่อหารือเกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย และไบเดนจะไปเยือนกรุงวอร์ซอ เพื่อหารือกับประธานาธิบดีโปแลนด์ด้วย
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว ระบุว่า ไบเดนจะประกาศมาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียต่อบุคคลสำคัญทางการเมืองและผู้มีอำนาจในวันนี้
ขณะที่ South China Morning Post รายงานว่า ไบเดนกับผู้นำ EU น่าจะมีการหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนของจีนต่อรัสเซียในสงครามยูเครน
ชาติตะวันตกมีความกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าประธานาธิบดีปูติน จะใช้อาวุธเคมีหรือยกระดับยุทธวิธี ทั้งนี้ ไบเดนให้คำมั่นที่จะไม่มีส่วนร่วมในความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซีย แต่ให้คำมั่นว่าสหรัฐฯ จะปกป้องดินแดนของนาโตทั้งหมด และได้สั่งเพิ่มกองกำลังสหรัฐฯ ไปยังปีกตะวันออกของนาโต เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาติพันธมิตร
ระหว่างการเยือนโปแลนด์ ซึ่งเป็นสมาชิก NATO ไบเดนจะไปเยี่ยมกองกำลังสหรัฐฯ ในโปแลนด์ และพบกับผู้เชี่ยวชาญการตอบสนองด้านมนุษยธรรม เพื่อช่วยเหลือชาวยูเครนที่อพยพหนีภัยสงครามออกนอกประเทศ รวมทั้งผู้พลัดถิ่นในประเทศ
—————
ติดตามสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด
https://bit.ly/TNNRussiaInvasion
—————
แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ และ สันติ สร้างนอก
ภาพ: Energy Intelligence