สรุปเหตุการณ์ 1 วัน รัสเซียบุกยูเครน พร้อมเปิดภาพเครื่องบินทหารตก บ้านเรือนถูกโจมตี
สรุปเหตุการณ์ 1 วัน รัสเซียบุกยูเครน พร้อมเปิดภาพเครื่องบินทหารตก บ้านเรือนถูกโจมตี
Editor’s Pick: หลายเมืองใหญ่ในยูเครนเสียหายหนักหลังรัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเต็มรูปแบบวันนี้ เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 40 คน ผู้คนในยูเครนแห่หนีตาย อังกฤษและยุโรปรุมประณาม เตือนรัสเซียจะต้องเผชิญการลงโทษและคว่ำบาตรหนักหน่วงรุนแรงที่สุด
ภายหลังกองทัพรัสเซียเปิดฉากใช้ขีปนาวุธยิงโจมตีเมืองใหญ่ ๆ ของยูเครนและส่งทหารเข้ามายังบริเวณชายฝั่งทะเล หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์ อนุมัติให้กองทัพปฎิบัติการพิเศษทางทหารในพื้นที่ตะวันออก มีเสียงปืนและเสียงระเบิดดังทั่วกรุงเคียฟและอีกหลายเมืองใหญ่ของยูเครนตั้งแต่เช้าตรู่
รัสเซียบุกยูเครนจากทุกทิศ
กองกำลัง รถถัง และยานยนต์หุ้มเกราะของกองทัพรัสเซียบุกเข้ายูเครนจากทุกทิศทาง ทั้งข้ามพรมแดนจากเบลารุสเข้าไปทางเหนือของกรุงเคียฟ รวมถึงเข้าไปทางใต้จากภูมิภาคไครเมีย ที่รัสเซียผนวกมาเป็นดินแดนของตนเองในปี 2014 เข้าไปยังเมืองโอเดสซาและมาริอูโปล
ปฏิบัติการโจมตีอย่างหนักหน่วงสร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างทางทหาร อาคารบ้านเรือนและยวดยานจำนวนมากในเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน เมืองท่าโอเดสซา และอีกหลายเมือง
สื่อยูเครนรายงานว่ามีทหารและพลเรือนเสียชีวิตจากการโจมตีของรัสเซียแล้วอย่างน้อย 40 คน สูญหายอีกจำนวนมาก ขณะที่ทั้งเมืองคาร์คิฟเต็มไปด้วยเสียงระเบิดดังสนั่นตลอดทั้งวัน คาดจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจะเพิ่มขึ้นอีกมาก ซึ่งหลังจากผู้นำยูเครนออกมาเรียกร้อง ก็ปรากฏว่ามีชาวยูเครนจำนวนมากไปร่วมบริจาคโลหิตตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ในกรุงเคียฟกันคับคั่ง
ยูเครนสะบั้นสัมพันธ์รัสเซีย
ด้านประธานาธิบดีประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซีย พร้อมขอเรียกร้องให้พลเรือนชาวยูเครนทุกคนจับอาวุธลุกขึ้นสู้กับข้าศึกเพื่อปกป้องประเทศ รัฐบาลพร้อมจัดหาอาวุธปืนให้กับพลเรือนทุกคนที่พร้อมจะต่อสู้ร่วมกับทหาร
นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังขอให้ประชาชนช่วยกันไปบริจาคโลหิตตามโรงพยาบาลต่างๆ เนื่องจากมีทหารยูเครนจำนวนมากบาดเจ็บจากการสู้รบและต้องการเลือดในการผ่าตัด ยืนยันยูเครนจะไม่ยอมแพ้ต่อการรุกรานของรัสเซียในครั้งนี้
ชาวยูเครนหนีตายออกจากกรุงเคียฟ
ขณะที่ผู้คนจนนวนมากแห่เดินทางออกจากกรุงเคียฟของยูเครน เพื่อหลบหนีเอาชีวิตรอดเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยหลังรัสเซียบุกโจมตียูเครน ยวดยานบนถนนหลั่งไหลมุ่งไปทางทิศตะวันตก ส่วนใหญ่หวังไปยังโปแลนด์ที่ใช้เวลาขับรถนาน 3-5 ชั่วโมงก็จะถึงพรมแดน ส่งผลให้การจราจรติดขัดคับคั่งจนถึงขั้นหยุดนิ่ง
ขณะเดียวกัน ชาวยูเครนบางส่วนแห่ไปยังสนามบินกรุงเคียฟหวังเดินทางออกนอกประเทศ แต่ก็ต้องผิดหวังและติดค้างที่อาคารผู้โดยสารเพราะเที่ยวบินถูกยกเลิกและมีคำสั่งปิดน่านฟ้าเหนือเมืองหลวง จึงยังไม่แน่ชัดว่าจะสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้เมื่อใด
เบลารุสประกาศไม่ร่วมสงคราม
ส่วนประธานาธิบดีอเลกซานเดอร์ ลูกาเชนโก ผู้นำเบลารุส ระบุในขณะนี้ กองทัพเบลารุสยังไม่มีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตียูเครนของกองทัพรัสเซีย แต่ยอมรับว่ากองทัพเบลารุสอาจส่งกำลังทหารเข้าร่วมในอนาคตหากมีความจำเป็น
ทั้งนี้ รัสเซียส่งกำลังทหารจำนวนมากและยานยนต์หุ้มเกราะเข้าไปยังยูเครนทางภาคเหนือผ่านทางเบลารุส ซึ่งยินยอมให้รัสเซียใช้เส้นทางเคลื่อนทัพ ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สำคัญมาก เพราะเบลารุสเป็นประเทศเพื่อนบ้านทางเหนือของยูเครน มีพรมแดนห่างจากกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนไม่ถึง 100 กิโลเมตร
ท่าทีจากชาติตะวันตก
ส่วนท่าทีล่าสุดของฝั่งยุโรป นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ แถลงว่าสิ่งที่ประชาคมโลกกังวลที่สุดกลายเป็นจริงหลังรัสเซียบุกโจมตียูเครน พร้อมโจมตีประธานาธิบดีปูตินว่ากำลังทำลายล้างยุโรปด้วยการโจมตีประเทศเพื่อนบ้านแบบปราศจากการยั่วยุใด ๆ
อังกฤษไม่สามารถอยู่เฉยต่อไปได้ ยืนยันจะดำเนินมาตรการลงโทษรัสเซียหนักหน่วงที่สุด ซึ่งจะกระทบต่อระบบเศรษฐกิจรัสเซียอย่างรุนแรง อีกทั้งอังกฤษและประชาคมโลกจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้ยูเครนปลอดภัย
ด้าน เออร์ซูลา แวน เดอเลเยิน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป แถลงที่กรุงบรัสเซลส์พร้อมบรรดาผู้นำสหภาพยุโรป หรืออียู ระบุการที่รัสเซียส่งกำลังทหารโจมตียูเครนในวันนี้ ถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาเลวร้ายและดำมืดที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
และเตือนรัสเซียว่าจะต้องเผชิญกับมาตรการลงโทษและคว่ำบาตรอย่างรุนแรงที่สุดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ด้านเลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ ชี้รัสเซียโจมตียูเครนเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน หวังผลให้เกิดความเสียหายรุนแรง และทำให้ชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์ในยูเครนต้องตกอยู่ในอันตราย
จีนขอทุกฝ่ายอดกลั้น
ในส่วนของโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงที่กรุงปักกิ่ง สงวนท่าทีโดยไม่ระบุชัดเจนว่ารัสเซียใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน บอกเพียงว่าจีนกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายลง
อย่างไรก็ดี จีนยอมรับว่าสถานการณ์ในยูเครนขณะนี้เลวร้ายลงอย่างมาก และมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น จนมีโอกาสพัฒนาเป็นเหตุจลาจลวุ่นวาย จึงขอเตือนพลเรือนชาวจีนในยูเครนให้อยู่แต่ในบ้าน หากจำเป็นต้องขับรถออกนอกบ้าน ขอให้ติดธงชาติจีนไว้ในส่วนที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนของรถเพื่อความปลอดภัย
เกาะติดสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ได้ที่นี่
https://www.tnnthailand.com/news/ukraine-russia-war