ประเด็นร้อนบอลไทย : "5 แข้งท็อปสตาร์อาเซียน" ไปไม่รอดบนไทยลีก

สวัสดีครับ!! คอลัมน์ ประเด็นร้อนบอลไทย กลับมาพบกันแฟนๆทุกคนอีกครั้ง เราพบกันฉบับที่ 32 แล้วนะครับ แน่นอนว่าฟุตบอลไทยยังคงไม่มีเตะยาวไปจนถึงเดือน ก.ย. อย่างที่ทุกคนทราบกัน แต่ก็พอมีข่าวสารอัพเดทมาให้ทุกท่านได้ติดตามกันอยู่เรื่อยๆ เวลานี้หลายๆคนคงจะสนใจกับตลาดนักเตะ เนื่องจากว่าสมาคมฟุตบอลฯ เปิดโอกาสให้ทุกทีมหาแข้งใหม่เข้ามาลงทะเบียนได้ ก่อนจะฟาดแข้งนัดที่ 5

ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีหลายทีม ทยอยผ่องถ่ายผู้เล่นออกจากทีมบ้างแล้ว โดยเฉพาะในรายของต่างชาติ อาจจะด้วยหลายเหตุผลทั้งวิกฤตการเงิน ที่ทำให้ต้องยกเลิกสัญญากันไป หรือจะเป็นความต้องการที่จะเปลี่ยนอยู่แล้วจากการที่นักเตะกลุ่มนี้ผลงานไม่ตอบโจทย์ในช่วง 4 นัดแรก 

วันนี้ผมจะมาขอพูดถึงนักเตะโควต้าอาเซียนกันหน่อยละกัน หลังเมื่อวานเห็นข่าว สุโขทัย ปล่อยตัว จอ โคโค ออกจากทีม ผมฉุกคิดขึ้นมาทันทีที่เห็นข่าว เนื่องจากแข้งรายนี้ผมรู้จักมานาน เห็นฟอร์มการเล่นเวลาลงสนามให้ทีมชาติเมียนมา บวกกับสรีระที่แข็งแกร่ง แต่น่าแปลกใจเป็นอย่างมากที่เจ้าตัวไม่ประสบความสำเร็จบนไทยลีก ปาเข้าไป 3 ทีมเข้าให้แล้ว ดังนั้นผมจึงขอจัด 5 แข้งท็อปสตาร์ชาวอาเซียน ที่ไม่ปังบนเวทีไทยลีก มาให้แฟนๆได้ติดตามกันครับ

จอ โคโค (เชียงราย , สมุทรปราการ , สุโขทัย)

นั่นแหละครับ อย่างที่ผมบอกไป ด้วยสรีระ สถิติการยิงประตูกับทีมชาติ และทีมในเมียนมา ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฟุตบอลแดนอาเซียน ดีกรีดีกว่า อ่อง ตู ด้วยซ้ำ เจ้าตัวตัดสินใจย้ายจาก ย่างกุ้ง ยูไนเต็ด ทีมยักษ์จากบ้านเกิด มาเล่นกับ สิงห์ เชียงรายฯ ในปี 2018 หลังไทยลีกเปิดให้มีโควต้า 3+1+1 ท่ามกลางความฮือฮาและความคาดหวังของแฟนบอล แต่ก็มาโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานยาวเกือบครึ่งปีจนไม่ได้เล่นในเลกสอง และต้องแยกทางกับทีมไป ก่อนที่เจ้าตัวจะได้โอกาสกับ สมุทรปราการ ในปี 2019 ซึ่งเขายิงประตูได้ และเริ่มปรับตัวมีบทบาทในทีม แต่หลังจากการเปลี่ยนแปลงกุนซือ จากโค้ชอั๋น มาเป็น มารุยามะ โอกาสก็หมดไป จนสุดท้ายก็ไม่ได้สัญญาถาวร กระทั่งมีโอกาสอีกครั้งในปีนี้กับ สุโขทัย อาจจะได้คอนเนคชั่นของ โค้ชอั๋น ที่ข้ามมาคุม แต่ก็ยังไม่สามารถรีดฟอร์มออกมาได้ ลงเล่นสำรอง 1 เกม ก่อนจะโดนยกเลิกสัญญาหลังผ่านการแข่งขันไป 4 แมตช์ เท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม : จอ โคโค : ซุปตาร์อาเซียนที่แจ้งเกิดไทยลีกไม่ได้

ไบฮัคกี้ ไคซาน (เอสซีจี เมืองทองฯ , อุดรธานี , ตราด , พีที ประจวบ)

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟระดับท็อปสตาร์ของอาเซียน ประสบความสำเร็จกับการค้าแข้งในลีก มาเลเซีย , อินโดนีเซีย และ สิงคโปร์ ก่อนจะอิ่มตัว และข้ามมาค้าแข้งในประเทศไทย กับ เมืองทองฯ เมื่อปี 2018 ทว่า กิเลนผยอง ไม่มีที่ให้เจ้าตัวลงเล่น จึงปล่อยยืมตัวให้กับ อุดรธานี ทีมระดับไทยลีก 2 หลังจากนั้นเขาย้ายไปเล่นให้ ตราด บนศึกไทยลีกเมื่อปี 2019 เป็นกำลังสำคัญลงสนามไป 26 นัด ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับ พีที ประจวบ ซึ่งด้วยวัย 36 ปี ทำให้โอกาสลงเล่นน้อยลงไป และแยกทางกับทีมช่วงสองสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นแข้งระดับท็อปอีกรายที่ยังไม่สามารถแจ้งเกิดบนไทยลีกได้เต็มตัวเท่าไหร่นัก

เลือง ซวน เชือง (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติเวียดนาม ย้ายจาก ฮอง อันยาลายห์ โคตรทีมแห่งวีลีก มาอยู่กับ บุรีรัมย์ ในรูปแบบยืมตัวเมื่อปี 2019 โดยแข้งรายนี้มาพร้อมชื่อเสียงอันโด่งดัง จากการเคยไปเล่นใน เคลีก เกาหลีใต้ มาถึงสองทีม กับ อิชอน ยูไนเต็ด และ กังวอน เอฟซี แต่ตลอดเลกแรกของปี 2019 เจ้าตัวต้องอยู่บนม้านั่งสำรองมากกว่าสนามหญ้า เนื่องจากไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงกับนักเตะไทยได้ ก่อนจะมีโอกาสลงเล่น 9 นัด แต่เป็นตัวสำรองเสียส่วนใหญ่ ฝากไว้ 1 ประตู จากลูกฟรีคิก แต่ก็ต้องแยกทางกับทีม และกลับวีลีกอย่างรวดเร็วเมื่อจบเลกแรก

อิร์ฟาน บัชดิม (ชลบุรี)

ตัวนี้เป็นอีกคนที่อยู่ในระดับแถวหน้าของอาเซียน เจ้าตัวสร้างความฮือฮาด้วยการมาเล่นกับ ชลบุรี ในปี 2013 เนื่องจากเขาเคยเล่นในระดับ เอเรดิวิซี่ลีก ฮอลแลนด์ กับ อูเทร็คท์ และ ฮาเล็ม ทว่าเจ้าตัวไม่สามารถแจ้งเกิดกับฉลามชลได้ เนื่องด้วยตอนนั้น ทีมมีทั้ง อดุลย์ หละโสะ , เทิดศักดิ์ ใจมั่น , คาซูโตะ คูชิดะ ทำให้แข้งรายนี้ขึ้นมาแทรกไม่ได้ โดยเจ้าตัวอยู่กับทีมได้เลกเดียว ก็ถูกปล่อยให้ ศรีราชา ยืมตัวไปใช้งาน ซึ่งทันทีที่หมดสัญญา เจ้าตัวได้โอกาสลุยเจลีก กับ เวนฟอเรท โคฟู แต่ก็ไม่มีโอกาสลงเล่นแม้แต่นัดเดียว แต่ก็ได้ย้ายไปอยู่กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ระหว่างปี 2015-2016 แต่มีโอกาสลงเล่นไม่ถึง 10 นัด ก่อนจะย้ายกลับบ้านเกิดและไม่ออกนอกประเทศอีกเลย

ฮองวู แซมสัน (บุรีรัมย์)

หัวหอกระดับเทพลูกครึ่ง ไนจีเรีย-เวียดนาม ย้ายจาก ฮานอย เอฟซี มาอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2018 หลังมีโควต้าอาเซียนเพิ่มเข้ามา เขามาพร้อมกับสถิการยิงประตูชนิดทำลายล้าง 103 ประตู จาก 145 นัด และการคว้าแชมป์วีลีก 3 สมัย แต่ก็ไม่สามารถจะขึ้นไปเบียดบรรดาแนวรุกของปราสาทสายฟ้า ที่มีทั้ง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต , เอ็ดการ์ บรูโน่ , ศุภชัย ใจเด็ด และ สุภโชค สารชาติ ได้ ทำให้ต้องย้ายออกจากทีมหลังจบเลกแรก โดยที่มีโอกาสลงไปเป็นตัวสำรอง 2 นัด เท่านั้น และไม่สามารถฝากประตูไว้ได้

นี่แหละครับ 5 ท็อปสตาร์นักเตะอาเซียน ที่ผมคัดออกมา พวกเขาไม่สามารถแจ้งเกิดกับลีกอันดับ 1 ของอาเซียนได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ตัวที่มาแล้วประสบความสำเร็จก็มีหลายคน ทั้ง อ่อง ตู (เมียนมา) , ดัง วาน ลัม (เวียนาม) , อีร์ฟาน ฟานดี้ (อินโดนีเซีย) ฯลฯ สุดท้ายแล้วต้องมาดูว่าหลังจากนี้จะมีดาวเตะชื่อดังชาวอาเซียนเข้ามาโลดแล่นบนเวทีไทยลีกอีกหรือไม่ และพวกเขาจะปังหรือพัง กันแน่ ?

                        NickyMAN