TNN online อนาคตยุโรปจะใช้ไฟฟ้าจากแดดถูกกว่าก๊าซ 10 เท่า !

TNN ONLINE

Tech

อนาคตยุโรปจะใช้ไฟฟ้าจากแดดถูกกว่าก๊าซ 10 เท่า !

อนาคตยุโรปจะใช้ไฟฟ้าจากแดดถูกกว่าก๊าซ 10 เท่า !

ผลสำรวจวิจัยใหม่ระบุว่าอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ พลังงานแสงอาทิตย์จะมีต้นทุนต่ำกว่าก๊าซธรรมชาติถึง 10 เท่า

ปัญหาความขัดแย้งระหว่างยุโรปกับรัสเซียส่งผลอย่างรุนแรงต่อราคาค่าไฟฟ้าในทวีป ในช่วงปกติ ค่าไฟฟ้าต่อ 1 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) จะอยู่ที่ 46 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,600 บาท แต่ความขัดแย้งทำให้ต้นทุนพุ่งเป็น 4,600 บาทต่อเมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) และล่าสุดในฤดูหนาวของยุโรป ราคาค่าไฟฟ้าก็ก้าวกระโดดเป็น 11,400 บาท ต่อเมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) แต่สถานการณ์ทั้งหมดนี้อาจจะเปลี่ยนไป เมื่อสถาบันวิจัยเอกชนหนึ่งในนอร์เวย์ประกาศว่าอนาคต พลังงานจากแสงอาทิตย์จะมีต้นทุนการผลิตน้อยกว่าก๊าซธรรมชาติกว่า 10 เท่า 


ข้อมูลดังกล่าวมาจากสถาบันวิจัยด้านพลังงานที่มีชื่อว่าริสตัด เอเนอร์จี (Rystad Energy) ที่มีสำนักงานในกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลสถานการณ์ด้านกำลังการผลิตและราคาต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของแหล่งต่าง ๆ เปรียบเทียบกัน ตลอดจนจัดทำรายงานเพื่อนำเสนอทิศทางการผลิตและราคาในอนาคต โดยในรายงานที่เป็นข่าวนี้ได้เน้นการเปรียบเทียบระหว่างพลังงานแสงอาทิตย์กับเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลัก


ยุโรปกำลังตกที่นั่งลำบากเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวความต้องการใช้ไฟฟ้าเพื่อทำความร้อนเพิ่มขึ้น แต่ในรายงานคาดว่าปัญหานี้จะบรรเทาลงได้ โดยในฝรั่งเศสจะกลับมาเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ให้กำลังการผลิต 30 กิกะวัตต์ (GW) ในปีหน้า ส่วนพลังงานทดแทนโดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะเริ่มใช้งานในช่วงเวลาเดียวกันจะเติมไฟฟ้าให้อีก 50 กิกะวัตต์ (GW) ซึ่งจะลดระดับราคาต่อเมกะวัตต์ชั่วโมง (Cost per MWh) ลงไปบ้าง


อย่างไรก็ตาม เมื่อจบทศวรรษนี้ หรือราว ๆ ปลายปี 2030 คาดการณ์ว่าระดับต้นทุนการผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยจะอยู่ที่ 150 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 5,200 บาท แต่ถ้าต้องการแข่งกับการผลิตไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์ ราคาต้นทุนเฉลี่ยของโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติต้องอยู่ที่ 17 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมกะวัตต์ชั่วโมง (USD/MWh) หรือราว ๆ 600 บาท ซึ่งห่างกันเกือบ 10 เท่า ทำให้บริษัทระบุว่า “เป็นไปไม่ได้” ด้วยเงื่อนไขปัจจุบันนี้ 


ดังนั้น ผู้มีอำนาจในยุโรปจำเป็นต้องส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าในทวีปด้วยพลังงานแสงอาทิตย์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อกดต้นทุนการผลิตเฉลี่ยให้ต่ำกว่า 1.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัตต์ (USD/Watt) หรือราว ๆ 45 บาท ซึ่งถ้าทำสำเร็จ ทั้งทวีปยุโรปก็จะพ้นจากความยากลำบากด้านพลังงานอย่างถาวรในอนาคต



ที่มาข้อมูล Interesting Engineering

ที่มารูปภาพ Unsplash

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง