ทำไมชาวจีนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์

วันนี้ ( 25 ต.ค. 62 )สถาบันนโยบายการย้ายถิ่นฐาน หรือ เอ็มพีไอ รายงานว่า แต่ละปี มีผู้พยายามย้ายถิ่นฐานราว 258 ล้านคน ในจำนวนนั้นเป็นชาวจีนเกือบสิบล้านคน จึงทำใช้ชาวจีนกลายเป็นชาติที่ย้ายถิ่นฐานไปต่างประเทศมากที่สุดเป็นอันดับสี่ของโลก

ในจำนวนนี้เกือบ 2.5 ล้านคนพำนักอยู่ในสหรัฐฯ / 712,000 คนในแคนาดา และอีก 473,000 คนย้ายไปออสเตรเลีย

เอ็มพีไอระบุว่า มักมีการสันนิษฐานว่า กลุ่มคนที่อพยพออกนอกประเทศมากที่สุด มักจะเป็นคนยากไร้ที่สุดของสังคม มีทักษะแรงงานต่ำ หรือไม่ก็หลบหนีความสงครามและความขัดแย้งภายในประเทศตน แต่นี่ไม่ใช่กรณีสำหรับผู้อพยพชาวจีน เพราะกลุ่มชาวจีนที่อพยพออกนอกประเทศมีทั้งผู้ที่มีทักษะสูง ทักษะกลาง ไปจนถึงแรงงานไร้ฝีมือ

ในกรณีของชาวจีนที่ลักลอบเข้ายุโรปหรือสหรัฐฯนั้น ก็ไม่ใช่กลุ่มคนจีนที่ยากจนที่สุดของสังคม เพราะการเดินทางจากจีนไปยุโรปต้องใช้ทรัพยากรจำนวนหนึ่งไม่ว่าจะย้ายเข้าเมืองถูกหรือผิดกฎหมายก็ตาม

เอ็มพีไอระบุว่า หากเดินทางตามช่องทางปกติ ผู้อพยพก็ต้องมีหนังสือเดินทางและต้องจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่า หรือหากลักลอบเข้าเมือง นายหน้าก็มักเรียกค่าใช้จ่ายสูง กรณีของผู้อพยพชาวจีนจึงมักเป็นการย้ายถิ่นฐานเพื่อแสวงหาโอกาส และต้องผ่านเครือข่ายช่วยเหลือ ซึ่งมักเกิดขึ้นกับครอบครัวที่มีคนเคยย้ายถิ่นฐานไปได้แล้ว จึงมีแนวโน้มที่จะมีสมาชิกครอบครัวรายอื่นๆหรือคนรู้จักย้ายตามไป

การย้ายถิ่นฐานของชาวจีนก็มีหลายรูปแบบ เช่น หากเป็นผู้มีทักษะด้านวิชาการ เช่นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มักจะได้ไปสหรัฐฯและประเทศที่มีรายได้สูงอื่นๆ แต่ก็มีชาวจีนจำนวนมากที่ไปทำงานในภาคการก่อสร้างในแอฟริกาและยุโรปตะวันออก

ทั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษเคยเปิดเผยรายงานประจำปีในปี 2561 ว่าด้วยการค้าทาสสมัยใหม่ว่า จีนเป็นชาติที่พลเมืองตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในอังกฤษมากเป็นอันดับที่สี่ ตามหลัง อัลบาเนีย เวียดนาม และอังกฤษเอง

โดยในปี 2560 รัฐบาลอังกฤษพบชาวจีนเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ถึง 293 คน แต่ก็ยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับเหยื่อค้ามนุษย์ชาวจีนที่พบในประเทศติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอย่างสเปนและอิตาลี

สำหรับอิตาลีนั้น ถือเป็นจุดหมายปลายทางใหญ่สุดประเทศหนึ่ง เพราะมีอุตสาหกรรมทอผ้า ซึ่งชาวจีนยินดีที่จะทำงานด้วยค่าแรงที่ต่ำในช่วงที่เศรษบกิจอิตาลีอยู่ในภาวะขาลง จึงทำให้ตอนนี้อิตาลีกลายเป็นประเทศที่มีผู้อพยพยจากจีนและตะวันออกกลางอยู่มาก

ขณะที่สหรัฐฯ ในปี 2561 มีการจับกุมชาวจีนที่ลักลอบเข้าเมืองได้ถึง 1077 คนเลยทีเดียว

ทั้งนี้ สถานีข่าวซีเอ็นเอ็นระบุว่า ในจีน มีการย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่จากชนบทสู่เมืองในช่วงที่เศรษฐกิจจีนกำลังเติบโต และมีการปฏิรูประบบบำนาญที่ทำให้ชาวจีนจำนวนมากหลุดพ้นจากความยากจน แต่การที่เศรษฐกิจพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ก็ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาลเช่นจีนมากขึ้น คนในสังคมไม่ได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกัน เราจะเห็นทั้งคนที่ก้าวหน้ามากที่สุด ไปจนถึงคนที่ตกอยู่ในภาวะที่สิ้นหวังที่สุด

สถาบันเอ็มพีไอระบุว่า การย้ายถิ่นฐานของชาวจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีหลายเหตุผล ตั้งแต่ประเด็นทางการเมือง นโยบายลูกคนเดียว ไปจนถึงการอยากย้ายไปศึกษาต่อต่างประเทศ หรือทำงานในต่างประเทศ แต่โอกาสที่จะย้ายถิ่นฐานของประชากรนั้นแตกต่างกัน เราจึงเห็นชางจีนบางส่วนต้องลักลอบเข้าเมืองและตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์นั่นเอง

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand