TNN online แหล่งปลูกข้าวโพดหลักของโลกล้ม จากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรงในปี 2100

TNN ONLINE

Tech

แหล่งปลูกข้าวโพดหลักของโลกล้ม จากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรงในปี 2100

แหล่งปลูกข้าวโพดหลักของโลกล้ม จากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรงในปี 2100

ภายในปี 2100 แหล่งปลูกข้าวโพดหลักของโลก 3 ใน 6 จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบในด้านอื่น ๆ ร่วมกันเป็นโดมิโน่

นักวิจัยสภาพภูมิอากาศจากนาซา (NASA) เผยว่า ภายในปี 2100 แหล่งปลูกข้าวโพดหลักของโลก 3 จาก 6 จะได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง เช่น คลื่นความร้อน ความแห้งแล้ง และปริมาณน้ำฝนที่มากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนผลผลิตลดลงและส่งผลกระทบต่อในด้านเศรษฐกิจของโลก งานวิจัยดังกล่าวถูกตีพิมพ์ลงบนจดหมายวิจัยสิ่งแวดล้อม (Environmental Research Letters) โดยระบุเพิ่มเติมว่า เขตมิดเวสต์ของสหรัฐฯ มีความเสี่ยงสูงสุดที่จะเป็นพื้นที่ที่ล้มเหลวในการเพาะปลูก


ทีมวิจัยได้ใช้แบบจำลองสภาพภูมิอากาศที่มีชื่อเสียงของเยอรมันที่เรียกว่า Max Planck Institute Grand Ensemble (แมกซ์ แพลงค์ อินสติจูด แกรนด์ เอนเซมเบิล) เพื่อสร้างแบบจำลองในอนาคตถึงปี 2100 โดยใช้ข้อมูลจากปี 1991 ถึงปัจจุบัน อธิบายง่าย ๆ ก็คือการคาดเดาอนาคตจากประสบการณ์ในอดีต ซึ่งแบบจำลองแสดงให้เห็นว่าภายในปี 2100 จะเกิดคลื่นความร้อนสูงทั่วโลกติดกันเป็นเวลา 3 วัน และจะเกิดขึ้นบ่อยเป็น 2-4 เท่า ของปัจจุบัน และฝนจะตกหนักถี่ขึ้น 10-50 เปอร์เซ็นต์


หลังจากนั้นนักวิจัยได้นำผลจากแบบจำลองไปหาความสัมพันธ์กับพืชผลชนิดต่าง ๆ พบว่าสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงจะส่งผลกระทบต่อแหล่งปลูกข้าวโพดรายใหญ่ของโลก ทั้งนี้ ข้าวโพด เป็นธัญพืชเศรษฐกิจที่สำคัญที่ใช้เป็นอาหารของมนุษย์และสัตว์ ดังนั้นอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมผลิตเนื้อสัตว์ อุตสาหกรรมอาหารมนุษย์ ทั้งหมดจะได้รับผลกระทบเรียงต่อกันเป็นโดมิโน่


ไม่เพียงเท่านั้น นักวิจัยยังพบว่าความเสี่ยงในการเกิดไฟป่ายังเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อป่าไม้ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์ป่าและยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์


"สิ่งต่าง ๆ เชื่อมโยงถึงกันในลักษณะที่เราไม่ค่อยชื่นชมจนถึงจุดนี้ ไม่ใช่แค่คลื่นความร้อน ไม่ใช่แค่ความร้อนและความแห้งแล้งเท่านั้น การเชื่อมโยงถึงกันทั้งหมดเหล่านี้อธิบายผลกระทบร้ายแรงที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดได้ดีที่สุดเมื่อเราพยายามป้องกันภัยพิบัติครั้งใหญ่”- คอลิน เรย์มอนด์ (Colin Raymond) หัวหน้านักวิจัยกล่าว


ข้อมูลและภาพจาก www.nasa.gov

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง