มองอย่างเจี๊ยบ 2021 : 'บาส-ปอป้อ & กิ๊ฟ-วิว' สร้างประวัติศาสตร์ในรายการ 1000

สวัสดีครับ!! มองอย่างเจี๊ยบ คอลัมน์สำหรับคนรักแบดมินตัน กลับมาพบกับแฟนๆอีกครั้งในฉบับที่ 9 เชื่อว่าฉบับนี้คงเป็นการปั่นต้นฉบับที่ค่อนข้างจะยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างแน่นอน เพราะระหว่างที่ผมโทรไปสัมภาษณ์ อ.เจี๊ยบ กูรูของคอลัมน์นี้ ก็เป็นไปด้วยอารมณ์ที่เบิกบานแจ่มใส จากความสำเร็จของนักแบดมินตันไทย ที่คว้าแชมป์คู่ผสม และ รองแชมป์หญิงคู่ ในรายการ "โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020" เวิลด์ทัวร์ระดับ 1000 มาได้

แน่นอนครับ ฉบับนี้ เราคงจะพูดถึงการแข่งขันรายการ "โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020" ที่เพิ่งทำการแข่งขันจบลงไปเมื่อค่ำวานที่ผ่านมา ซึ่งมีควันหลงหลายอย่างที่น่าสนใจ ตั้งแต่การจัดการแข่งขันที่ทุกคนต้องไปอยู่ภายในบับเบิ้ล ตลอดเดือนนี้ทั้งเดือนในช่วง 2 หรือ 3 รายการ (หากเข้าไปแข่ง เวิลด์ ทัวร์ ไฟน่อลส์) 

นอกจากนี้ยังมีผลงานของนักกีฬาไทย ที่ อ.เจี๊ยบ จะมาวิเคราะห์ให้ได้ติดตามกันอย่างจุใจแน่นอน รวมถึงแชมป์ทั้ง 5 ประเภท มีความเซอไพรส์หรือพลิกล็อคอย่างไรบ้าง ? รวมทั้งกระแสตอบรับจากทั่วโลก กับการแข่งขันครั้งนี้ เป็นอย่างไร ? ว่าแล้ว .... ไปคุยกับ อ.เจี๊ยบ กันเลยครับ

Q : สวัสดีครับ อ.เจี๊ยบ จบลงไปแล้วกับรายการแรกที่บ้านเรา แฟนๆได้ฟังเสียงบรรยายของคัมภีร์แบดมินตันเมืองไทยอีกครั้ง ข้อแรกคงต้องถามก่อนเลยครับว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้ ที่ได้รับการจับตามองจากทั่วโลก ที่สุดแล้ว สามารถเป็นโมเดลให้ประเทศอื่นๆนำไปปรับใช้ได้บ้างมั้ย ?

อ.เจี๊ยบ : การแข่งขันในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลกแบดมินตัน อย่างที่เราทราบกัน 3 รายการใหญ่ ใน 3 สัปดาห์ ในประเทศเดียว ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งการแข่งขันได้รับการจับตามองจากนานาชาติทั่วโลก , โธมัส บาร์ค ประธานกรรมการโอลิมปิกสากล และ คณะกรรมการโอลิมปิกของญี่ปุ่น พวกเขามีการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาอยู่ในบับเบิ้ล เพื่อดูแบบแผนการจัดการแข่งกีฬาในสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แบบนี้ ทำให้ผมมองว่า แนวโน้มของการจัดแข่งที่ยุโรป น่าจะทำคล้ายๆแบบเรา ในช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อ Qualify สู่โอลิมปิก เพราะการจะบินจากประเทศนี้ไปอีกประเทศ มันคงเป็นอะไรที่ยากแล้วครับ

Q : อยากให้ลองเล่าถึงการใช้ชีวิตและการแข่งขันในบับเบิ้ล เชื่อว่าหลายคนน่าจะอยากรู้ ?

อ.เจี๊ยบ : ความหมายของ บับเบิ้ล ก็คือ ลูกโป่ง ให้แฟนๆทำความเข้าใจว่าทุกคนเข้ามาอยู่รวมกันในลูกโป่งที่ปลอดจากโควิดฯ อันดับแรกทุกคนต้องเข้ารับการตรวจโควิดฯ ก่อนเข้าสู่บับเบิ้ล สำหรับนักกีฬาไทย ส่วนนักกีฬาต่างชาติ ต้องตรวจก่อนขึ้นเครื่องบินภายใน 72 ชั่วโมง ต้องมีผลตรวจที่ชัดเจนที่ปลอดเชื้อ พอมาถึงประเทศไทย เราก็จะจัดเตรียมรถบัสไว้รอที่สนามบิน เพื่อมาสู่ที่พัก ชาติละคัน ไม่ปะปนกัน มีการ Social Distancing บนรถบัส หลังจากนั้นเข้าโรงแรม ทุกคนจะตรวจโควิดฯ แล้วก็ไปอยู่ในห้อง ห้องละ 1 คน ยังออกจากห้องไม่ได้จนกว่าผลตรวจโควิดฯจะออก อาหารการกิน ต้องสั่งภายในบับเบิ้ล จะมีคนเอากล่องอาหารมาวางไว้ให้ทาน พอผลตรวจออกแล้ว จึงสามารถออกมาฝึกซ้อมได้ โดยจะแบ่งเป็นสองโซน คือโซนสนามแบดมินตัน กับ ฟิตเนส ซึ่งการซ้อมในสนามทุกชาติจะซ้อมได้ไม่เกินวันละ 1 ชม. ซ้อมเสร็จจะมีการทำความสะอาดพื้นทุกครั้ง , การตรวจเชื้อโควิดฯ จะมีการตรวจทุก 4 วัน , ที่พัก ถูกแบ่งออกเป็นสองโซน ต่างชาติพัก โนโวเทล คนไทยพัก ไอบิส แต่การเดินทางจากทีพักจะไปสนามซ้อมหรือสนามแข่ง ใกล้กันไม่กี่เมตร จะเดินไปไม่ได้นะครับ ต้องขึ้นรถที่เราจัดเตรียมไว้ให้ แข่งขันเสร็จ จะไปเดินช็อปปิ้ง ไม่ได้! สั่งอาหารจากข้างนอกมากินก็ไม่ได้! ส่วนอุปกรณ์แรคเก็ต ที่เอ็นขาด ก็ต้องฝากเจ้าหน้าที่ไปขึ้นเอ็นในบับเบิ้ล ต้องมีการอบโอโซนฆ่าเชื้อทั้งก่อนขึ้น และขึ้นเอ็นเสร็จแล้ว 

Q : กระแสตอบรับของนักกีฬาและแฟนๆขนไก่ชาวไทย เท่าที่สัมผัสได้ เป็นอย่างไรบ้าง ?

อ.เจี๊ยบ : ภาพรวม ต้องบอกว่านักกีฬาทั่วโลกโพสต์ลงอินสตาแกรม ชื่นชมประเทศไทยและฝ่ายจัดฯเป็นอย่างมากมาย เพราะมันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมากกับการจัดการแข่งขันออกมาได้ ทุกคนดีใจที่การแข่งขันกลับมาอีกครั้ง ส่วนการตอบรับจากแฟนๆก็ต้องบอกว่ายอดเยี่ยม เพราะแฟนๆชาวไทยจำนวนมากบนสื่อโซเชี่ยล ก็พูดถึงการแข่งขันกันเยอะ น่าเสียดายจริงๆที่เข้าไปชมในสนามกันไม่ได้ แต่ก็ต้องบอกว่า ทรูวิชั่นส์ , ทรูสปอร์ต ก็จัดเต็มไม่ให้แฟนๆเหงา เป็นการถ่ายทอดสดที่อิ่มหนำสำราญ จุใจแฟนๆมากๆครับ

Q : ขอสอบถามประเด็นข่าวนิดนึง ไซน่า เนวาล สรุปแล้วติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ก็กลับมาแข่งขันได้ นี่เป็นอย่างไรบ้างครับ ?

อ.เจี๊ยบ : คืออย่างนี้ครับ ไซน่า เนวาล กับ พรานนอย นักแบดอินเดีย ไปตรวจเชื้อแล้วมีผลเป็น Positive + ก็จะถูกนำออกไปที่โรงพยาบาล ซึ่งพอไปตรวจที่โรงพยาบาล ดันเป็นลบ ก็เลยตรวจแอนติบอดี้ซ้ำสอง พอตรวจแอนติบอดี้แล้วเป็นบวก นั่นหมายความว่า คนเหล่านี้เคยเป็นโควิดฯ มาแล้ว แต่มันมีซากเชื้อ ซึ่งซากเชื้อตรงนี้ไม่มีการกระจาย และติดต่อได้ นั่นทำให้ เนวาล ที่ walk over ในวันอังคาร (12 ม.ค. 64) ไปแล้ว ได้กลับมาแข่งอีกครั้งในวันพุธ (13 ม.ค. 64) ซึ่งเป็นรอบ 32 คนสุดท้ายในวันที่สอง

Q : การคว้าแชมป์คู่ผสมของ บาส-ปอป้อ และการได้รองแชมป์หญิงคู่ของ กิ๊ฟ-วิว ถือว่าทัพนักกีฬาไทยประสบความสำเร็จมั้ย ? ทางด้านนายกสมาคมพอใจมั้ย ?

อ.เจี๊ยบ : ตรงนี้ก็ต้องบอกว่า ประสบความสำเร็จแน่นอน เพราะเป็นครั้งแรกของทั้งสองคน บาส-ปอป้อ ไม่เคยได้แชมป์ระดับ 1000 ก็ทำได้สำเร็จ , วิว-กิ๊ฟ ไม่เคยเข้าชิงระดับ 1000 ก็ทำได้ในครั้งนี้ ซึ่งทาง คุณหญิงปัทมา ก็ชื่นชมในความสำเร็จครั้งนี้ นอกจากนี้อีกหลายๆคน ก็ทำผลงานได้ดี ทั้ง กุลวุฒิ , กันตภณ ในชายเดี่ยว หรือ เบญญาภา ที่สู้กับ ไต้ ชื่อหยิง ได้สนุกครับ

Q : หญิงเดี่ยวของเราพลาดท่าไปหมดตั้งแต่จบรอบ 8 คนสุดท้าย ส่วนชายเดี่ยว ก็ไม่รอดในรอบ 16 คนสุดท้าย อยากให้ลองพูดถึงฟอร์มนักกีฬาแบบรายคน ?

อ.เจี๊ยบ : ได้เลยครับ เอาหญิงเดี่ยวก่อนนะ

- เมย์ รัชนก ผมมองว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ของน้องเมย์ ในวันนั้น อาจจะมีความตั้งใจมากเกินไป จึงทำให้เกิดอาการเกร็ง ไม่ได้เล่นตามเกมแพลนที่เตรียมมาไว้ น่าเสียดายที่เกมแรก น้องเมย์ ออกตัวได้ดี แต่จังหวะที่ถูก อัน แซยอง ไล่ขึ้นมา น้องเมย์ดันเร่งบุกที่จะฆ่าคู่ต่อสู้ให้ตาย มีความอารมณ์ร้อนด้วย ทำให้หลุดออกจาเกม ยิ่งแพ้เกมแรก เลยยิ่งออกทะเล แต่ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้นะ เพราะดาวรุ่งเกาหลีใต้คนนี้ ก็เอาชนะมาหมดแล้วทั้ง มาริน , ไต้ ซื่อหยิง

- ครีม บุศนันทน์ น้องครีมปราบ เนวาล ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่การมาเจอกับ เมีย บลิดเฟลท์ เค้าทำการบ้านมาดีมาก ประกอบกับ น้องครีมมาพลาดลูกง่ายๆหลายลูก โดยเฉพาะลูกหยอดหน้าเน็ต แต่ภาพรวมก็ถือว่าโอเคนะ น่าจะเป็นครั้งแรกที่น้องครีม เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายในระดับ 1000 ได้ด้วยนะ

- หมิว ปรปวีณ์ น้องหมิวโชคร้ายมากๆที่จับมาเจอกับ มาริน ตั้งแต่รอบ 16 คนสุดท้าย ที่บอกว่าโชคร้าย เป็นเพราะ มาริน เธอตั้งใจมากหลังจากที่เคยแพ้น้องหมิว ในรอบชิงฯที่สเปนเมื่อปีที่แล้ว จึงทำให้เห็นเลยว่าการเล่นของกระทิงสายว๊ากในวันนั้น เธอไม่มีประมาท โชว์ฟอร์มเด็ดสุดๆ ซึ่งถ้าเธอเล่นแบบนี้ เธอชนะได้ทุกคนแหละ หลังจบเกม เธอก็ให้สัมภาษณ์ว่า รอวันนี้ วันที่จะมาล้างแค้นน้องหมิวให้ได้ที่ประเทศไทย

- เมย์ ศุภนิดา น้องเมย์ซ้าย ก็ต้องบอกว่าทำได้ดีมาก เป็นนักแบดหญิงเดี่ยวคนเดียวของไทย ที่มีสไตล์การเล่นแบบผู้ชาย คือกระโดดตีตลอด เธอเคยเป็นนักแบดมินตันความหวังเหมือนกัน เคยตีกัน ซุน หยู ถึง 3 เกม เมื่อสามปีก่อนทีประเทศไทย แต่ด้วยอาการบาดเจ็บ ทำให้ต้องพักยาวและต้องปรับจังหวะอีกสักระยะ

ส่วนชายเดี่ยว ขอพูดแบบรวมๆนะครับ ก็เป็นไปตามอันดับโลก เป็นไปตามภาพแห่งความเป็นจริง เราต้องยอมรับว่าชายเดี่ยวของเรา ยังไม่สามารถสู้กับมือบนๆของโลกได้ แต่มันก็มีสัญญาณที่ดี เพราะ เราก็เห็น กันตภณ และ กุลวุฒิ ที่ทำผลงานได้ดี ในการสู้กับเขี้ยวลากดินอย่าง วิคเตอร์ อเซลเซ่น และ แอนโทนี่ กินติ้ง ทั้งสองสู้ได้อย่างสุดมันส์ แม้จะแพ้ไป 0-2 เกม ก็ตาม 

Q : ให้พูดถึงควันหลงการคว้าแชมป์ทั้ง 5 ประเภท แบบลงรายละเอียดครับ ?

- คู่ผสม ถือว่าไม่เหนือความคาดหมาย เพราะสายการแข่งขันออกมาก็คิดว่าน่าจะเป็น บาส-ปอป้อ น่าจะชิงกับ ปราวีณ จอร์แดน-อ็อกตาเวียนติ ส่วนรายละเอียดการแข่งขันก็ถือว่าเกิดขึ้นได้ แพ้ชนะได้หมดสำหรับมือระดับท็อปของโลกทั้งคู่ เราออกตัวดีมากในเกมแรกจนเขาเกร็งไป แต่เขาก็รวมสมาธิกลับมาได้ในเกมที่สอง ซึ่งเราแก้ด้วยการรุมใส่ ปราวีณ ที่วันนี้เล่นไม่ดี ในเกมที่สามจนเขาพลาดเองและเบียดความแชมป์ประวัติศาสตร์ของทั้งคู่ไปได้

- หญิงคู่ อันนี้ตอนแรกผมรู้สึกแปลกใจที่ เกรเซีย โพลี่ ร้องไห้หนักมากหลังคว้าแชมป์ เพราะเธอเคยคว้าแชมป์ใหญ่มาแล้วมากมาย ซึ่งมาถูกเฉลยตอนให้สัมภาษณ์ว่า เธอเล่นครั้งนี้อย่างตั้งใจเพื่ออุทิศแชมป์ให้กับพี่ชายของเธอที่มีอายุห่างกัน 18 ปี ที่ดูแลเธอมาตลอด เธอบอกว่าเปรียบเสมือนพ่อของเธอ เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้ เธอจึงเล่นอย่างเต็มที่เพื่ออุทิศแชมป์ให้ ส่วนในรายละเอียดของเกม ก็ต้องบอกว่า กิ๊ฟ-วิว สู้ไม่ได้จริงๆ ทั้งความหนัก ความเร็ว และประสบการณ์ ฝั่งอินโดฯ เหนือกว่าทุกอย่างในวันนี้

- ชายคู่ ก็ต้องบอกว่า น่าเสียดาย ที่คู่ อาซาน-เซเทียวาน ชิงตกรอบไปเสียก่อน หลังไปพลาดท่าแพ้คู่เกาหลีใต้ แต่ โซ ซุงแจ ที่เล่นทั้งคู่ผสมและชายคู่ พอไปพลาดท่าแพ้ในคู่ผสม มันส่งผลไปที่สภาพจิตใจตอนเล่นชายคู่ในวันเดียวกัน จึงทำให้แพ้ หลี่ หยาง-หวังชื่อหลิน ของไชนีส-ไทเป ไปอีก ส่วนรอบชิงฯ ผลงานของไทเป ยอดเยี่ยมมาก เพราะคู่นี้แข็งแกร่ง หนักหน่วง สดกว่า มีดีกรีเข้ารอบรองฯ ในออล อิงแลนด์ ซึ่งการเอาชนะคู่เก๋าของมาเลเซีย ก็ไม่ได้ถือว่าพลิกโผอะไรครับ

- ชายเดี่ยว ก็ต้องบอกเลยว่า วิคเตอร์ อเซลเซ่น เป็นคนที่ผลงานดีที่สุดตั้งแต่รอบแรก จริงๆการเจอกับ กินติ้ง ในรอบรองฯ ควรจะเป็นคู่ชิงด้วยซ้ำ เพราะเป็นคนที่ดูสูสีกับเขาที่สุด พอเข้ารอบชิง ไปเจอกับ อึ้ง กาลอง อันกุส ก็หมดสิทธิ์ครับสำหรับนักแบด ฮ่องกง แล้วก็เป็นการตอกย้ำ ว่าคนละชั้นจริงๆ เพราะวันนี้ก็เป็นการเพิ่มสถิติแพ้ 0-9 ที่มีต่อ วิคเตอร์ โดยไม่ได้แม้แต่เกมเดียว

- หญิงเดี่ยว อันนี้รู้สึกเซอไพรส์เล็กน้อย ที่รอบชิง เกมน่าจะสูสีกว่านี้ แต่ต้องยอมรับว่า มาริน มาเต็มจริงๆ ทั้งเร็ว ทั้งหนัก ข้อผิดพลาดน้อยมาก แต่ ไต้ ซื่อหยิง ก็ดูเล่นแปลกๆไป ตามความเร็วมารินไม่ทัน แม้พยายามจะเร่งขึ้นมาในเกมที่สองแต่ก็ไม่ทันจริงๆ จึงแพ้ไป ต้องบอกว่า นี่คือฟอร์มที่ร้อนแรงสุดของมาริน ถ้าเล่นได้แบบนี้ตลอด เค้าเอาชนะได้ทุกคนครับ

Q : ผลงานนักแบดคนไหน เซอไพรส์ และผิดหวังที่สุดโดยรวม ?

อ.เจี๊ยบ : เซอไพรส์ นี่ผมยกให้เป็น ดาเนี่ยล มาร์ติน กับ ลีโอ คาร์นันโด้ ก้าวขึ้นมาจากเวิลด์จูเนียร์ และพาตัวเองมาถึงรอบรองชนะเลิศ รายการระดับ 1000 เอาชนะได้ทั้ง ฟาจาร์ อัลเฟี้ยน กับ อาร์ดิอานโต้ แล้วยังไปเขี่ย คริส แลงกริดจ์ กับ มาร์คัส เอลลิส ตกรอบอีกด้วย ถือว่าไม่ธรรมดาครับ ส่วนน่าผิดหวัง ผมให้สองคนเลย พวกมือดังๆที่ตกรอบเร็ว ทั้ง แอนเดอร์ส อันตอนเซ่น ตกรอบแรกแพ้ ดาเรน หลิว เสือเฒ่ามาเลย์  , พีวี สินธุ ในฐานะอดีตแชมป์โลก ตกรอบแรกแพ้ เมีย บลิดเฟลท์ ต้องบอกเลยว่าเร็วเกินไป

Q : มีหลายคนสงสัยที่อาจารย์บรรยาย เกี่ยวกับการแข่งขัน ฝั่งเหนือลมกับฝ่างต้านลม เป็นอย่างไร ? มีความได้เปรียบเสียเปรียบจริงมั้ย ? 

อ.เจี๊ยบ : ก็ต้องบอกว่าในฮอลล์ใหญ่ๆ ทุกการแข่งขันทั่วโลกจะมีลมเข้าอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ต้องบอกว่าลมไม่แรงเท่าไหร่นะ จะมีผลเฉพาะผู้หญิง ส่วนผู้ชายจะไม่มีผลเท่าไหร่นัก ฝั่งเหนือลมคือฝั่งหันหน้าให้ท่านผู้ชมบนจอโทรทัศน์ ส่วนฝั่งต้านลมคือหันหลังให้ท่านผู้ชม เวลาอยู่ฝั่งเหนือลม การตบ การกระแทก หรือลูกดาด มันจะเร็วขึ้น แต่มาฝั่งต้านมันจะเสียเปรียบเล็กน้อย เพราะมันจะไปไม่ถึงหลังเท่าไหร่ครับ

Q : สุดท้ายให้อาจารย์เชิญชวนแฟนๆช่วยกันเชียร์นักกีฬาไทยในรายการ โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น สัปดาห์นี้ครับ ?

อ.เจี๊ยบ : ก็อยากจะขอเชิญชวนแฟนๆแบดมินตัน นะครับ ร่วมกันให้กำลังใจทัพนักกีฬาจากไทยในรายการที่สอง นะครับ เรายังต้องลุ้นนักกีฬาไทยอีกหลายคนที่จะต้องเร่งสะสมคะแนนเพื่อเข้าแข่งในรายการ เวิลด์ทัวร์ ไฟน่อลส์ ทุกท่านยังสามารถติดตามการถ่ายทอดสดแบบเต็มอิ่มจากทางทรูวิชั่นส์ ตลอดการแข่งขัน เชียร์ให้นักกีฬาของเราประสบความสำเร็จในรายการนี้ไปด้วยกันครับฃ

และนี่คือ มองอย่างเจี๊ยบ ฉบับที่ 9 กับควันหลงศึก โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020 ซึ่งเป็นทัวร์นาเม้นต์ที่นักกีฬาไทย ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยม แต่เราก็ต้องมาให้กำลังใจกันต่อนะครับในสัปดาห์นี้ รวมถึงสัปดาห์หน้า ส่วนในฉบับหน้า อาจารย์เจี๊ยบ จะมีอะไรมาฝาก ก็อย่าลืมติดตามกันนะครับ แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ!!

เรียบเรียงโดย : NickyMAN (นิก ธีร์ธวัช)