มองอย่างเจี๊ยบ 2021 : วอร์มอัพก่อนเปิดฉาก 3 ศึกใหญ่ที่เมืองไทย

สวัสดีครับ!! "มองอย่างเจี๊ยบ" คอลัมน์สำหรับคนชอบกีฬาแบดมินตัน กลับมาอีกครั้ง ต้องบอกเลยว่า เรากลับมาในปี 2021 เนื่องด้วยปีที่แล้ว การแข่งขันมีอันต้องเป็นหมันเกือบตลอดทั้งปี จากพิษไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ถือเป็นฉบับที่ 8 ที่จะได้มาพบกับแฟนๆขนไก่ ซึ่งเราเปิดศักราชกันด้วย แบดมินตัน รายการใหญ่ 3 รายการซ้อน ที่จะลงเล่นในช่วงสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป

แน่นอนครับ "อ.เจี๊ยบ" ธนัช อัศวนภากาศ รองเลขาธิการสมาคมแบดมินตัน แห่งประเทศไทยฯ และ ผู้บรรยายทางทรูสปอร์ต ยังรับหน้าที่เข้ามาเป็นกูรู ประจำคอลัมน์เช่นเคย ว่าแล้ว....เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เดี๋ยวไปคุยกับ อ.เจี๊ยบ กับหลายประเด็นที่เกิดขึ้นในวงการลูกขนไก่ในรอบปี 2020 ที่ผ่านมา รวมทั้งทิศทางในปี 2021 และความเป็นมาของสามรายการยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในบ้านเราครับ

Q : สวัสดีครับ อ.เจี๊ยบ ได้เวลากลับมาทำหน้าที่ "มองอย่างเจี๊ยบ" อีกครั้ง หลังจากที่เราไม่ได้คุยกันถึง 8 เดือนเต็มๆ นับตั้งแต่ช่วงหลังจบ "ออล อิงแลนด์" เมื่อปีที่แล้ว วันนี้คงต้องรบกวนอาจารย์อีกครั้ง เมื่อแบดมินตัน กำลังเข้าสู่ศักราชใหม่กันแล้ว

อ.เจี๊ยบ : สวัสดี เช่นกันครับ ยินดีมากครับ กลับมาครั้งนี้ยังหวังว่าข้อมูลที่ผมให้ไป จะเป็นประโยชน์ต่อแฟนๆขนไก่ และแฟนๆกีฬา ไม่มากก็น้อยครับผม

Q : ตลอดปี 2020 ที่ผ่านมา ไวรัสโควิด-19 เข้ามาสร้างปัญหาให้กับวงการกีฬามากมาย ส่วนผลกระทบกับแบดมินตันในภาพรวม มีอะไรบ้างครับ ?

อ.เจี๊ยบ :  ภาพรวมของแบดมินตัน ก็ต้องบอกว่ากระทบมากๆ เพราะการแข่งขันมีถึงแค่รายการ ออลอิงแลนด์ เมื่อเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว อาจจะมีการแข่งขันที่เดนมาร์ก เพิ่มมาอีกหนึ่งรายการ แต่ก็ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากมีแต่นักกีฬาจากยุโรปเป็นหลัก โดยที่ของฝั่งเอเชีย แทบจะไม่มีใครไปเลย นั่นหมายความว่า แบดมินตันโลก หยุดมา 9 เดือนเต็มๆ ทำให้ BWF ต้องชะงักการเก็บคะแนนสะสมโอลิมปิกไว้ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 2020 หรือหลังจบ ออลอิงแลนด์ อันดับโลก ก็จะไม่มีการขยับ สิ่งที่เสียหายอีกอย่างคือ โธมัส-อูเบอร์ คัพ ที่เดนมาร์ก เพราะชาติหลักๆถอนตัวทั้งหมด โดยที่จะเลื่อนมาจัดปีนี้ จากกำหนดการเดิมที่เดนมาร์ก ก่อนช่วงโอลิมปิก

Q : ความยากลำบากของการจัดแข่งแบดมินตัน ในปี 2021 ทิศทางมันจะเป็นอย่างไรบ้าง ?

อ.เจี๊ยบ :  ถ้าดูจากทิศทางแล้วเนี่ย แนวโน้มก็คงจะไม่เหมือนเดิมแล้วแหละครับ หลักๆก็จากปัญหาไวรัส คงจะเป็นแบบสัปดาห์นี้เล่นประเทศนี้ อีกสัปดาห์เล่นอีกประเทศ คงจะยากแล้ว เพราะแต่ละประเทศ ก็มีมาตรการในการเข้า-ออก และการกักตัวตรวจหาเชื้อที่ไม่เหมือนกัน ผมคิดว่ามันคงจะอยู่ที่ประเทศใดประเทศหนึ่งหรือที่มันใกล้เคียง แต่หากทางฝั่งยุโรป คงจะใช้ชาร์เตอร์ไฟลท์ หรืออาจจะเดินทางข้ามประเทศด้วยรถ เพื่อเข้า บับเบิ้ล แนวๆเนี้ยครับ นอกจากนี้ บุคลากร ทุกฝ่าย ทั้ง นักกีฬา , ทีมงานโค้ช , กรรมการ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการแข่งขัน ก็จะต้องมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปด้วยครับ อันดับแรกคือต้องมาเก็บตัวร่วมกันจนกว่าการแข่งขันจะจบ แข่งเสร็จ จะออกไปทานข้าว หรือเดินช็อปปิ้ง ก็คงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว มันกระทบชิ่งไปถึงเจ้าภาพด้วยนะ ค่าใช้จ่ายจะสูงมากๆ ล่าสุดทาง BWF ก็ได้ประกาศว่า เงินรางวัลในปี 2021 ก็จะต้องลดลงด้วยอย่างน้อยๆ 15 % ทุกรายการโดยเฉลี่ยด้วยครับ นอกจากนี้ แฟนๆกีฬา ก็จะไม่สามารถเข้าชมการแข่งขันในสนามได้ หรือหากเข้าชมได้ ก็จะมีการจำกัดจำนวนคนดูตามมาตรการของแต่ละที่

Q : เดี๋ยวเรามาวอร์มอัพ 3 รายการใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นที่ประเทศไทย ไล่ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป "โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น เวิลด์ทัวร์ 1000" 12-17 ม.ค. 64 , "โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น เวิลด์ทัวร์ 1000" 19-24 ม.ค. 64 และ "BWF เวิลด์ทัวร์ ไฟน่อลส์" 27-31 ม.ค. 64 คงต้องขออนุญาตถามถึงที่มาที่ไป ว่าเพราะเหตุใด ประเทศไทยจึงได้สิทธิ์จัดรายการใหญ่สามรายการซ้อน เพราะในอดีตเราเคยได้จัดมากที่สุดก็คือ เวิลด์ทัวร์ 500 ?

อ.เจี๊ยบ :  อันนี้เริ่มต้นจาก BWF มีความต้องการที่จะจัดการแข่งขันแบบเบ่งเลก ก็คือ ยุโรป เลก และ เอเชีย เลก ซึ่ง ยุโรป เลก เดิมทีจะจัดที่ เดนมาร์ก สามรายการซ้อน ก็คือ โธมัส-อูเบอร์ คัพ และ เดนมาร์ก 1 , เดนมาร์ก 2 แต่มันไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากนักกีฬาถอนตัวกันหมด จึงทำให้ต้องเปลี่ยนมาจัดที่เอเชีย เลก ทีนี้มี 5 ประเทศ ที่ยื่นขอจัดสามรายการติดต่อกัน ได้แก่ ไทย , จีน , อินโดนีเซีย , มาเลเซีย และ ไชนีส-ไทเป แต่เหตุที่เราได้จัด มันมาจากมูลเหตุ 3 ข้อที่เราเหนือกว่าคู่แข่ง คือ

1. ช่วงเวลานั้นที่เรายื่นขอจัด สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ถือว่าคลีนที่สุด (ราวๆ ส.ค. 63) ซึ่งช่วงเวลานั้นเราไร้ผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 

2. รัฐบาลไทย จะเป็นคนสนับสนุนการจัดการแข่งขันแบดมินตันในครั้งนี้

3. การประสานงานของคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ท่านนายกสมาคมฯ ได้มีการประสานงานไปยังทุกๆประเทศทั่วโลกแล้วว่า หากไทยจัด ขอให้มีมือท็อปๆมาลงทำการแข่งขัน ซึ่งทุกประเทศก็ตอบตกลงว่าจะมา ทำให้มีการเลื่อนจากเดือน ต.ค. 63 มาเป็น ม.ค. 64 แต่เดิมทีทาง BWF จะให้เราจัด โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น เวิลด์ทัวร์ 500 , ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส เวิลด์ทัวร์ 300 ที่หายไป รวมกับ เวิลด์ทัวร์ ไฟน่อลส์ ซึ่งผมต้องเรียนแฟนๆอีกครั้งนะครับ ว่านี่คือรายการในปี 2020 แต่ยกมาจัดในปี 2021 แต่ทีนี้ คุณหญิงฯ ท่านก็ไปคุยว่า มันมีสองรายการระดับ 1000 ที่ถูกเลื่อนไป คือที่ อินโดนีเซีย และ จีน ดังนั้นการจะรีสตาร์ทกลับมาปิดฤดูกาล ก็ต้องทำให้ยิ่งใหญ่ สมแก่การรีสตาร์ท ไทยก็เลยจะขอจัดรายการ 1000 ที่หายไป และขอจัดเวิลด์ทัวร์ไฟน่อลส์ ซึ่ง BWF ก็ต่อรองมาว่าไม่ได้ เต็มที่ก็แค่ 500 กับ 750 แต่ทางคุณหญิงฯ ก็ยืนยันคำเดิมว่าต้อง 1000 , 1000 และ เวิลด์ทัวร์ไฟน่อลส์ ที่สุดทางนั้นก็ยอมจนได้ เราก็เลยได้จัดครับ

Q : ทีนี้มีข่าวไม่ดีเล็กน้อย เนื่องจากทัพนักกีฬาจากจีน และญี่ปุ่น จะไม่ได้มาเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ?

อ.เจี๊ยบ : ก็ต้องบอกว่าตอนแรก ทางสมาคมแบดมินตันของจีน ยืนยันว่าจะมาให้ได้ เพราะแรกเริ่มคือ รัฐบาลจีน มีคำสั่งไม่ให้นักกีฬาออกไปแข่งนอกประเทศจนถึงสิ้นปี 2020 และทางสมาคมฯ ก็มั่นใจว่าเมื่อขึ้นปีใหม่ สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 น่าจะไม่มีปัญหาแล้ว ถึงขั้นจองตั๋วเครื่องบินมาเมืองไทยไว้แล้ว แต่ทีนี้สถานการณ์การระบาดไวรัส มันก็ยังไม่น่าไว้ใจ ทำให้รัฐบาล ก็ยังไม่อนุญาตให้นักกีฬาเดินทางออกนอกประเทศต่อเนื่องครับ ส่วน ญี่ปุ่น น่าเสียดายมาก เพราะทัพนักกีฬาเดินทางมาที่สนามบินนาริตะ แล้วด้วย แต่ก่อนออกเดินทางสู่ประเทศไทย มีการตรวจหาเชื้อโควิดฯ รอบสุดท้าย ซึ่งหวยไปออกที่ เคนโตะ โมโมตะ ชายเดี่ยวมือท็อปของเขามีผลเป็นบวก ดังนั้นด้วยสปิริต ก็ตัดสินใจถอนยกเซต เพื่อเป็นการไม่ทำให้ชาติอื่นๆลำบากใจ เนื่องด้วยที่เหลือก็ต้องไปตรวจเพิ่ม รวมทั้งกักตัวกันเพิ่มเติมอีกครับ เพราะทุกคนก็ซ้อมด้วยกัน พักที่เดียวกัน จึงทำให้ถอนแบบยกชุด

Q : สีสันที่จะขาดไปในการแข่งขันครั้งนี้ ?

อ.เจี๊ยบ :  ก็แน่นอนครับ จีน กับ ญี่ปุ่น ไม่มา ความสนุกตื่นเต้น มันก็จะลดน้อยหายไปบ้าง สำหรับคนที่เป็นแฟนชาวจีนและญี่ปุ่น แต่ผมว่าไม่เยอะเท่าไหร่นะ เพราะที่มาก็ถือว่าตัวอื่นๆ ยังดุเดือดแน่นอน ทั้ง แคโรไลน่า มาริน , ไต้ จูอิง , พีวี สินทุ , น้องเมย์ รักชนก ในหญิงเดี่ยว , อัน แซยอง ฯลฯ ขณะที่ชายเดี่ยว ก็ยังมี โจว เทียนเฉิน , แอนเดอร์ส แอนทอนเซ่น , วิคเตอร์ อาเซลเซ่น และ ฮาน คริสเท่น วิตติ้งฮุส ของ เดนมาร์ก รวมทั้งฝั่งอินโดฯ ก็มีทั้ง โจนาธาน คริสตี้ และ แอนโธนี่ กินติ้ง ส่วนชายคู่ เกิดอุบัติเหตุนิดเดียว คือ เควิน ซานจาย่า ซูคามูลโจ้ ติดโควิดซะงั้น จึงทำให้เราจะไม่ได้เห็น เควิน-กีเดี้ยน ในสามรายการนี้ แต่ที่เหลือก็ยังมากันครบครับ ซึ่งทั้ง 5 ประเภท ให้คิดซะว่าขาดเพียง จีน-ญี่ปุ่น เท่านั้นครับ ส่วนในสนามก็คงเป็นแฟนๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ารับชมในปีนี้ เบื้องต้นทางรัฐบาล ประกาศให้เป็นการแข่งขันแบบปิดไปก่อนทั้งสามรายการ เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสยังไม่นิ่ง แต่จะมีการเพิ่มถ่ายทอดสดมากขึ้นครับ

Q : ดังนั้นใน เวิลด์ทัวร์ไฟน่อลส์ เราก็จะไม่เห็นนักกีฬาจาก จีน-ญี่ปุ่น ที่จะลงชิงชัยใน 8 มือวางอันดับแรกใช่มั้ยครับ ?

อ.เจี๊ยบ :  แน่นอนครับ คนที่จะเข้าแข่งในเวิลด์ทัวร์ไฟน่อลส์ 2020 ได้ จะต้องลงเล่นในสองรายการแรกที่ไทย เพราะต้องอยู่ในบับเบิ้ล มิเช่นนั้น หมดสิทธิ์ทันที ปีนี้ก็คงจะเป็นปีที่อันดับโลก 10 กว่าๆ ได้เข้ามาแข่งกันเยอะครับ เพราะเมื่อตัดที่มาไม่ได้ออกไป อันดับก็จะรันลงมาเรื่อยๆนั่นเอง

Q : เจาะความพร้อมนักกีฬาไทยทั้ง 5 ประเภท ที่เตรียมสู้ศึกครั้งนี้ ?

อ.เจี๊ยบ :  ทั้ง 5 ประเภท ทีมไทยจะมีปัญหาที่ชายคู่ อย่างที่เราทราบๆกันอยู่

ชายเดี่ยว เราค่อนข้างสมบูรณ์ เพราะตัวหลักๆพร้อมลงเล่น ทั้ง "น้องกัน" กันตภณ หวังเจริญ , "น้องวิว" กุลวุฒิ วิทิตศาน หรือ "น้องโอ๊ต" สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์

- หญิงเดี่ยว อันนี้เราได้ลุ้นแน่นอน เพราะเรามีทั้ง น้องเมย์ รัชนก , น้องครีม บุษนันท์ รวมทั้ง น้องหมิว พรปวีณ์ ที่เคยเอาชนะ แคโรไลน่า มาริน ได้เมื่อปีที่แล้ว ก่อนจะหยุดไปที่สเปนด้วยครับ ส่วนน้องพิงค์ นักแบดหน้าหวานที่แฟนๆกำลังสนใจ ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันนะครับ 

- หญิงคู่และคู่ผสม เราได้ลุ้นแน่ครับ เนื่องด้วยเรามีสองคู่หลักๆ คือ น้องวิว รวินดา & น้องกิ๊ฟ จงกลพรรณ และ น้องเอิร์ท พุธิตา & ปอป้อ ทรัพย์สิรี ผมเชื่อว่าน่าเข้ารอบรองฯได้อย่างน้อยๆสัก 1 คู่ ส่วน บาส เดชาพล & ปอป้อ ทรัพย์สิรี ในประเภทคู่ผสม อันนี้สามารถมองไกลถึงแชมป์ได้เลยครับ คู่แข่งที่น่ากลัวมีเพียงแค่ อินโดฯ กับ มาเลเซีย เท่านั้น

ส่วนหากจะถามว่าความหวังสูงสุด ผมให้ไปที่ บาส-ปอป้อ น่าจะมีโอกาสทำผลงานได้ไกลที่สุด รองลงมาก็เป็นน้องเมย์ ครับ ขณะที่ชายเดี่ยว ก็คงหวังให้เข้ารอบลึกๆไปทีละรอบก่อนดีกว่าครับ เพราะยังต้องยอมรับว่ายังเป็นรองพวก โจว เทียนเฉิน , วิคเตอร์ อาเซลเซ่น , แอนเดอร์ส แอนทอนเซ่น , โจนาธาน คริสตี้ และ แอนโทนี่ กินติ้ง 

Q : หลังจบสามรายการนี้ จะเป็นศักราชใหม่ของแบดมินตัน ทาง BWF เค้าเริ่มร่างๆโปรแกรมในฤดูกาลใหม่ไว้บ้างหรือยัง ?

อ.เจี๊ยบ :  ก็เริ่มๆร่างแล้วครับ แต่ต้องบอกเลยว่าเป็นอะไรที่น่าปวดเศียรเวียนเกล้ากับการเตรียมทีม มากเลยแหละ เพราะต้องบอกว่านักกีฬายังต้องมีการกักตัวอยู่ในเวลานี้ เท่าที่ดูปฏิทินในปี 2021 เบื้องต้น นักกีฬาที่จะออกไปแข่งนอกประเทศ จะต้องอยู่ต่างประเทศนานถึง 15 สัปดาห์ด้วยกัน เพราะการเดินทางกลับประเทศ มันจะมีการกักตัว 14 วัน ออกก็ต้องกักอีก 14 วัน มันจะทำให้ไม่ได้ซ้อม หรือซ้อมได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นก็คงจะต้องซ้อมต่างประเทศ แข่ง แล้วก็เดินทางต่อๆกันไป ซึ่งเดี๋ยวตรงนี้ต้องมาวางแผนกันอีกทีว่าควรจะทำอย่างไร แต่ตอนนี้ ออลอิงแลนด์ 2021 ที่จะจัดกันในเดือน มี.ค. น่ากลัวมากครับ เพราะเนื่องด้วยสถานการณ์ไวรัสฯ จึงยังเป็นเครื่องหมาย ? อยู่ครับ ว่าจะเอายังไง

Q : สวัสดีปีใหม่ ฝากอะไรถึงแฟนๆทรูสปอร์ต ทรูวิชั่นส์ TNNSPORTS ?

อ.เจี๊ยบ : ขอสวัสดีปีใหม่ แฟนๆกีฬาทาง ทรูสปอร์ต ทรูวิชั่นส์ ทุกท่านนะครับ ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับทุกท่าน เราผ่านกันมาได้ ผมเชื่อว่าปีนี้เราจะดีขึ้นครับ ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย รวมทั้งติดตามการแข่งขันกีฬาดีๆ กันทางทรูวิชั่นส์ในปีนี้ไปพร้อมกันครับ

นี่แหละครับ มองอย่างเจี๊ยบ ฉบับที่ 8 ประเดิมศักราชใหม่ปี 2021 ที่กลับมาพบกับแฟนๆขนไก่อีกครั้ง หลังจากนี้ ผมกับอาจารย์เจี๊ยบ สัญญาว่า จะพยายามมาปั่นต้นฉบับให้ทุกคนได้อ่านกันบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ สุดท้ายนี้ ผมก็ขอกราบสวัสดีปีใหม่ แฟนๆกีฬาของทรูวิชั่นส์ และ TNNSPORTS ทุกคนเช่นกันนะครับ กลับมาพบกันในครั้งหน้าในฉบับที่ 9 แล้วก็อย่าลืมส่งใจเชียร์นักกีฬาไทยในแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ครั้งนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

สำหรับโปรแกรมการถ่ายทอดสดแบดมินตันทั้ง 3 รายการ มีดังนี้

เรียบเรียงโดย : NickyMAN (นิก ธีร์ธวัช)