มองอย่างเจี๊ยบ(ฉบับพิเศษ) : ครั้งหนึ่งเคยรับใช้ชาติพร้อมตอบคำถามแฟนขนไก่

สวัสดีครับ !!! นี่คือ "มองอย่างเจี๊ยบ" คอลัมน์กีฬาสำหรับคนรักแบดมินตันทุกท่าน เราเดินทางกันมาถึงฉบับที่ 7 แล้วนะครับ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเวลานี้ กีฬาทุกประเภทบนโลก ยุติและเลื่อนการแข่งขันออกไปเกือบทั้งหมด แบดมินตันก็เช่นกัน ตอนนี้ทั้ง โธมัส & อูเบอร์ คัพ และ โอลิมปิกเกมส์ 2020 ถูกเลื่อนออกไปเป็นปีหน้าแล้วทั้งหมด ทำให้แฟนขนไก่จะต้องเหงาไปอีกนาน

ที่สุดแล้ว เมื่อฉบับก่อนหน้านี้เราคุยกันในควันหลัง ศึก ออล อิงแลนด์ 2020 กันไปแล้วใช่ไหมครับ โดยในวันนี้ ผมได้รวบรวมคำถามจากแฟนแบดมินตันที่ส่งกันเข้ามามากมาย ไปคุยกับอาจารย์เจี๊ยบ กูรูประจำคอลัมน์ ทั้งในส่วนของประวัติอาจารย์ ที่ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะเคยรับใช้ทีมชาติไทยก่อนที่ตอนนี้จะผันตัวมาเป็นผู้บรรยาย และผู้สันทัดกรณีแบดมินตันให้กับ ทาง ทรูสปอร์ต รวมทั้งยังมีคำถามเกี่ยวกับขนไก่โลก ให้ท่านอาจารย์ได้วิเคราะห์กันอีก ว่าแล้ว....ไปติดตามกันครับ

Q : สวัสดีครับอาจารย์เจี๊ยบ! ช่วงนี้ก็เหงาหน่อยนะ วันนี้ผมขอรวบรวม 10 คำถามที่แฟนๆแบดมินตันทางทรูสปอร์ตฝากมาถาม ให้อาจารย์ได้ตอบหน่อยนะครับ ?

อ.เจี๊ยบ : ยินดีครับนิก มาเลยพร้อมแล้วครับ

Q : อยากถามคุณวิชิตว่า สมัยเป็นนักแบดทีมชาติอยากให้เล่าว่า เวลาไปรับใช้ชาติในศึกต่างๆ กับ การไปแข่งในทัวร์รายการส่วนตัว บรรยากาศต่างกันอย่างไร?

อ.เจี๊ยบ : ผมเรียนว่าสมัยที่ผมตีแบด ยังเป็นการแข่งขันแบบสมัครเล่นสำหรับทืมไทย ผมเองก็ไปเรียนหนังสือ ทำงานปกติ เย็นก็มาซ้อมแบด ด้วยการแข่งขันมันน้อย ก่อนจะแข่งทัวร์นาเม้นต์หลัก เช่น เอเชียนเกมส์ , ซีเกมส์ ก็จะมารวมตัวกันทีนึงก่อนแข่งเดือนนึง แล้วก็ยกทีมไปแข่ง ทีมงานก็ไม่ได้มีเยอะเหมือนปัจจุบัน มีเพียงนักกีฬากับโค้ช จะมี สมพล คูเกษมกิจ ที่เล่นแบบฟูลไทม์ หรือเรียกว่าอาชีพคนแรก ตีแบดอย่างเดียว ทำให้ขึ้นไปสู่ระดับโลกได้ ส่วนตัวผมเล่นทั้งเดี่ยวและคู่ เป็นชายเดี่ยวมือ 2 และชายคู่มือ 2 ขณะที่ถามว่าบรรยากาศเป็นอย่างไรระหว่างในนามทีมชาติกับส่วนตัว ต้องบอกว่าเมื่อก่อนรายการแข่งขันมันน้อยมาก ยังไม่มีทัวร์และรายการเยอะแบบสมัยนี้ ผมไปแข่งขันในนามทีมชาติ เอเชียนเกมส์ , ซีเกมส์ จะมี โธมัส คัพ บ้าง แต่สมัยก่อนเบี้ยเลี้ยงน้อยมากครับ สัปดาห์ละ 400 บาท ต้องบอกเลยว่าน่าอิจฉานักกีฬาปัจจุบันที่เพรียบพร้อมทุกด้าน ทั้ง รายการแข่ง , เงินรางวัล และวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ครบวงจรครับ

Q : ให้เล่าที่มาของการเข้ามาบรรยายแบดมินตันหน่อยครับ และการพากย์แต่ละครั้ง ต้องทำการบ้านอย่างไรในการเล่าเรื่องและเตรียมข้อมูล ?

อ.เจี๊ยบ : ผมไปเป็นอาจารย์พิเศษที่ สาธิตจุฬา ด้านกีฬาแบดมินตันโดยเฉพาะประมาณ 10 ปีครับ แล้วก็ได้รู้จักกับ อ.สุวัฒน์ กลิ่นเกษร (น้าติง) ท่านก็ได้เอาชื่อของผมไปฝากไว้ที่ทรูวิชั่นส์ จนวันนึงท่านออกจากที่นี่ไป ทางทรูฯ ก็ติดต่อผมมา ผมก็ได้บรรยายครั้งแรกคู่กับ ป๋ายาว สุริยะ กุลธำรงค์ จนวันที่ น้องเมย์ ได้แชมป์โลกผมก็บรรยายกับป๋ายาวครับ ส่วนการเตรียมตัว แน่นอนครับ ผมต้องใช้เวลาเตรียมข้อมูลก่อนแข่ง คอยดูสถิติ มันรวมถึง timing ในการพูดด้วยนะ ว่าสถิติตรงนี้ เกร็ดตรงนี้เราจะแทรกเข้าไปในจังหวะไหน อันนี้เป็นสิ่งที่ต้องฝึกและเรียนรู้จากประสบการณ์ครับ

Q : เราจะเริ่มเข้าสู่คำถามในวงการแบดมินตันโลกแล้วนะครับ เริ่มกันที่  เคนโตะ โมโมตะ นับว่าเป็นชายเดี่ยวที่ดีที่สุดของยุค แต่หากมองย้อนไป ใครที่มีสไตล์ใกล้เคียงแบบนี้บ้าง ?

อ.เจี๊ยบ : อันนี้แน่นอนครับ ถ้าในยุคนี้ในส่วนของชายเดี่ยวก็ต้อง โมโมตะ ลงแข่งรายการไหน เรียกได้ว่าเป็นเต็งหามจนคู่แข่งกระเจิงหมด ถ้ารายการไหนไม่เข้าแข่งขัน แชมป์จะเปลี่ยนหน้าไปเรื่อย ส่วนสไตล์ใกล้เคียงกัน ผมมองว่า หลิน ตัน นะ หนุ่มๆเค้าก็เล่นเร็วแบบนี้ คือเมื่อก่อน โมโมตะ จะออกอาวุธเยอะกว่านี้สมัยขึ้นมาใหม่ๆ แต่มาในยุคปัจจุบัน เจ้าตัวมีการปรับสไตล์ เติมความเหนียว เทคนิคที่แพรวพราวเข้าไปจนกลายเป็นว่าที่ เดอะคิง อีกคนไปแล้วครับ

Q : เทาฟิค ฮิดายัต จัดว่าตำนานมั้ย ตอนเล่น สไตล์เป็นอย่างไร ?

อ.เจี๊ยบ : ตำนานแน่นอนครับ เป็น 1 ใน 4 คิง คิงคนแรกคือ ปีเตอร์ เกด (เดนมาร์ก) , เทาฟิค ฮิดายัต เป็นคิงที่สอง และก็ หลิน ตัน , ลี ชองเหว่ย ตามมาเป็นคิง 3 และ 4 ถ้าสำหรับ ทาฟิค จัดเป็นสุดยอดนักแบดมินตันอีกคนครับ ส่วนสไตล์ให้มองดู เคนตะ นิชิโมโตะ ในปัจจุบัน สไตล์เหมือนกัน แต่เป็น นิชิโมโตะ ที่ลอกมาเป๊ะ ทีนี้ของลอกมันจะเหมือนต้นฉบับได้ไงใช่ไหมละ เทาฟิค มีการเล่นที่สวยงาม , เกมรับเยี่ยม ส่วนลูกทีเด็ดคือ แบ็คแฮนด์ ที่ว่ากันว่าดีที่สุดคนนึงของโลก โดยเฉพาะแบ็คแฮนด์ตบ เกียรติประวัติไม่ต้องพูดถึงครับ แชมป์โอลิมปิก , แชมป์โลก ยิ่งช่วง 2004 เจ้าของตัวสมบูรณ์แบบมาก ครบเครื่องครับ

Q : อาจารย์คิดว่าเป็นเพราะอะไร ลี ชองเว่ย จึงไม่มีวาสนาคว้าแชมป์ อลป. แม้สักครั้ง ?

อ.เจี๊ยบ : คืออย่างนี้ครับ ในวันที่ต้องเล่นแมตช์เกียรติยศศักดิ์ศรีสำคัญ จิตใจเจ้าตัวยังไม่แข็งดังหินผาเท่า หลิน ตัน ต้องบอกเลยว่า หลิน ตัน เป็นคนที่แข็งแกร่งมากๆ ถ้าใครเคยอ่านประวัติจะรู้เลย ตอนอายุ 10 ขวบ ทางสมาคมฯมองว่ามีแวว แม่เอาไปฝากไว้ที่สมาคมแล้วไม่ไปรับ ทิ้งไว้อยู่นั่นเลย แม้จะร้องไห้ฟูมฟายก็ตาม ทำให้จิตใจของ หลิน ตัน จะแข็งกว่า จึงเป็นเหตุให้แพ้ในนัดสำคัญรอบชิงฯโอลิมปิกสองสมัยติด แม้ในปี 2016 จะฝ่าน หลิน ตันไปได้ แต่ก็บดจนหมดแรง ไปพ่าย เฉิน หลง ในรอบชิงอีกครั้งอย่างน่าเสียดาย แต่ที่สุดแล้ว ชองเหว่ย เก่งมากๆ แต่เป็นรองในเรื่องจิตใจให้กับ หลิน ตัน เท่านั้น เป็นแชมป์ระดับทัวร์ที่ได้รับการการันตีว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ตอนนี้ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้แชมป์โลก และ แชมป์โอลิมปิกครับ

Q : วิว กุลวุฒิ ในสายตาอาจารย์ มีโอกาสขึ้นระดับ TOP 5 ในอนาคตมั้ย ?

อ.เจี๊ยบ : มีโอกาสครับ เพราะน้องวิวมาตามระบบ จากแชมป์เยาวชน 3 สมัยซ้อน แต่ในปีสองปีนี้อาจจะเร็วไปที่จะขึ้นพวดพราดมาเลย เพราะอย่างที่ผมบอก จากเยาวชน จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี ถึงจะขึ้นสู่ท็อป แต่น้องวิว มีแววครับ สไตล์การเล่นคล้ายกับ พี่แมน บุญศักดิ์ แต่สภาพร่างกาย ความฟิต ตอนนี้ถือว่าเต็มกว่า หากซ่อมจังหวะผิดพลาด เติมวินเนอร์หนักๆเข้าไป ก็น่าจะไปได้ไกลครับ

Q : น้องเมย์ รัชนก ถือว่าเป็นนักแบด ญ เดี่ยวที่ดีที่สุดตลอดกาลของไทยมั้ย เคยมีใครใกล้เคียงเท่านี้ไหม ?

อ.เจี๊ยบ : อันนี้แน่นอนครับ เมย์ นี่ไม่ใช่เฉพาะไทยนะครับ ได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่เล่นสวย เทคนิคดีอันดับต้นๆของโลกคนนึงเลย ดีที่สุดตลอดกาลของไทยแน่นอน เขียนหน้าประวัติศาสตร์แบดมินตันไทยเยอะมาก ทั้งเคยขึ้นมือ 1 โลก , แชมป์หญิงเดี่ยว เวิลด์ จูเนียร์ 3 สมัย , แชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุดในโลก , แชมป์รายการซูเปอร์ซีรีส์ 3 รายการติดต่อกันคนแรกของโลก ส่วนถ้าชื่อที่สองที่สาม ก็จะเป็น ตู่ สมฤทัย เจริญศิริ อันนี้ก็ดีครับ แต่โชคร้าย รายการใหญ่ๆจับเจอ ซูซี่ ซูซานติ ของอินโดฯ ตลอดเลย อีกคนก็ สุจิตรา เอกมงคลไพศาล อดีตเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ ที่ตอนนี้ก็เป็นผู้บรรยายเช่นเดียวกันครับ

Q : หวัง หลิน หายไปไหนครับ เมื่อก่อนชอบมาก เธอสวยหวานใช้ได้เลย ?

อ.เจี๊ยบ : โอ้ คนนี้สวยมากครับ อดีตแชมป์โลกหญิงเดี่ยว 1 สมัย เธอโชคร้ายประสบปัญหาบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าเข่าซ้ายฉีก เจ็บเรื้อรังจนกลับมาไม่ได้ เลิกเล่นในปี 2013 ด้วยวัยเพียง 23 ปีเท่านั้น เป็นคนที่แฟนๆชอบมากด้วยความสวย น่ารัก ตีสนุก ครับ 

Q : ทำไม ชายคู่ญี่ปุ่น มักจะคว่ำ เควิน-กีเดี้ยน ได้อยู่เสมอ แต่เวลาเจอ อาซาน - เซเทียวาน มักจะแพ้ ?

อ.เจี๊ยบ : อันดับแรกเลยนะครับ อย่างที่ผมเรียน กีเดี้ยน มาตรฐานยังสู้อาซานไม่ได้ แล้วจะเป็นเป้าให้คู่ต่อสู้รุม และวจะมีส่วนทำให้ เควิน หลุด คุมอารมณ์ไม่ได้ แต่ เควิน ก็มีข้อเสียนะครับ ในบางครั้งที่เวลาเจอคู่แข่งที่กำลังขึ้นมาใกล้กับเค้า เช่น รอบชิง ออล อิงแลนด์ฯ ก็จะไปพะวงกับ วาตานาเบะ ที่เป็นดาวรุ่ง คือพยายามจะไปข่มใส่ จนทำเกมเสีย ผิดรูปแบบแผน ซึ่งตรงนี้ เซเทียวาน ไม่มี แต่ก็ต้องชมทางญี่ปุ่นด้วย ทั้งสองคู่ เหนียวจริงๆ ผมไม่เคยเห็นใครจะเหนียวได้ขนาดนี้ เควิน-กีเดี้ยน ยังมีการคุมอารมณ์และสภาพจิตใจ ที่ต้องปรับไปให้ได้อย่าง อาซาน - เซเทียวาน ในบางครั้งที่หลุด เสีย 10 แต้มติดก็มีมาแล้ว ส่วน อาซาน-เซเทียวาน เค้านิ่ง มาตรฐานสูง สามารถเปลี่ยนจังหวะเกม แก้ไขปัญหา และเล่นภายใต้ความกดดันได้ดีเสมอ แต่ยาม พี่กับน้องมาเจอกัน ก็จะเห็นว่า สไตล์มันเหมือนกัน ซ้อมมาด้วยกัน น้องด้วยความหนุ่มกว่า สดกว่า ก็ทำให้โค่นรุ่นพี่ที่วัยกำลังจะเข้าสู้ 30 กลางได้ไม่ยากครับ

Q : แล้วในอดีตมีใครตีสไตล์ใกล้เคียงกับ เควิน-กีเดี้ยน บ้างครับ ส่วนอีกข้อ ทำไมแฟนแบดมินตันจำนวนมากถึงไม่ชอบ เควิน-กีเดี้ยน ทั้งที่เป็นระดับท็อป ?

อ.เจี๊ยบ : ก็ต้องบอกว่ามีเยอะครับ ยิ่งอินโด จะมีแบบนี้เยอะ ทั้ง โทนี่ กุเนวาน , เฮนดร้า เซเทียวาน คือเล่นเร็ว ดาดสู้ แต่กับ เควิน เหมือนแกเล่นไม่เหมือนใคร ฝืนธรรมชาติ มันไม่อยู่ในตำรา เข้าชาจลูกตบ , ตีลูกโอเวอร์เฮดแบบเตี้ยๆ ฯลฯ แต่มันไปได้ดี ส่วนเรื่องแฟนไม่ชอบ อันนี้ผมมองว่า ด้วยอุปนิสัยของเค้าเลยครับ ไม่เกี่ยวกับ กีเดี้ยนเลยนะ เควิน มีการตีที่หวือหวา แฟนชอบเยอะคนเกลียดแยะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชอบกับไม่ชอบอันไหนเยอะกว่ากัน หลักๆที่คนไม่ชอบคือ การไปข่มคู่ต่อสู้ ยั่วยุบ้าง ใช้จิตวิทยาในการแข่งขัน ตรงนี้เป็นสิ่งที่แบดมินตันเค้าไม่ชอบกัน มือหน้าเก่งๆในอดีต ทั้ง ไข่ หยุน , เซเทียวาน , อี ยองแด , กู เกียนเคียต คือพวกนี้เค้าจะนิ่ง ไม่มีการยั่วยุอะไรแบบนี้ จึงเป็นที่มาของการไม่ชอบของแฟนแบดมินตันหลายคน ถ้าจะให้มองว่าเหมือนใคร ให้นึกถึง จอห์น แม็คเอนโรลล์ ในเทนนิส น่ะครับ

Q : สุดท้ายครับ อยากให้อาจารย์ส่งกำลังใจให้กับแฟนแบดมินตันและคนไทยในการเฝ้าระวังไวรัสโควิด-19 ?

อ.เจี๊ยบ : ผมก็ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพ รักษาเนื้อรักษาตัว ทำตามความปรารถนาดีของรัฐบาลในการเฝ้าระวังนะครับ แน่นอนว่าช่วงนี้จะเหงาๆหน่อย ไม่มีอะไรให้ดู ก็ชมรีรันกีฬาทางทรูสปอร์ตกันไปก่อน เก็บตัวอยู่กับบ้าน รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ แล้วเดี๋ยวเหตุการณ์คลี่คลายกลับสู่สถานการณ์ปกติเมื่อไร เรามาสนุกกันต่อทางทรูวิชั่นส์ ครับ

นี่แหละครับ มองอย่างเจี๊ยบ ฉบับที่ 7 กับคอลัมน์สำหรับคนรักแบดมินตัน ที่เรานำมาฝากแฟนๆกันในสัปดาห์นี้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นฉบับพิเศษจริงๆ เนื่องจาก อ.เจี๊ยบ มาตอบคำถามจากแฟนๆที่ฝากผมไปถามกัน หลายๆประเด็นครับที่น่าสนใจ ส่วนฉบับหน้า จะมีอะไรมาให้ได้ติดตาม ก็อดใจรอกันนะครับ สำหรับวันนี้ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ ผมและอาจารยื์เจี๊ยบลาไปก่อน สวัสดีครับ !!!

เรียบเรียงโดย : NickyMAN