"เอฟ นครนายก" กับวันเวลาที่เปลี่ยนไป By plug

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา "เทพไชยา อุ่นหนู" หรือว่า "เอฟ นครนายก" เจ้าของฉายา "เอฟวัน" นักสอยคิวขวัญใจชาวไทย ถือเป็นนักกีฬาคนหนึ่งที่ถูกรพูดถึงมากที่สุดจากแฟนกีฬา หลังจากที่ เจ้าตัว ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการลงเเข่งขัน(หลายรายการ) รวมทั้งยังมีแมตช์ประทับใจที่สามารถล้มคู่เเข่งอันดับโลกสูงกว่าได้บ่อยๆ

เอฟ นครนายก เกิดมาในครอบครัวที่ฐานะไม่ร่ำรวย เขาจึงต้องหารายได้พิเศษจากการทำอะไรสักอย่าง บางคนหาของมาขายเวลาว่าง บางคนไปทำงานพาร์ทไทม์ตามร้าน บางคนใช้เเรงงานเพื่อเเลกเงิน เเต่ทว่า "เอฟวัน" กลับมีเเนวทางที่ชัดเจนเเละเเน่วเเน่ตั้งเเต่เด็กๆ เขาเลือกจะเล่น "สนุ้กเกอร์" เพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเอง ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเค้าถึงเป็นคนที่เเทงเร็วเเละถนัด 6 แดง จากการใช้ "สนุ้กเกอร์" สร้างรายได้ในวัยเด็ก ต่อยอดมาเป็น "อาชีพ" ที่เลี้ยงตัวเองเเละครอบครัวในวันนี้ แน่นอนมันอาจจะไม่ยั่งยืนเเละถาวรตลอดไป เพราะว่าสุดท้ายทุกคนก็ต้องเลิกเล่นเมื่อถึงเวลาที่สมควร เเต่มันก็เพียงพอที่ทำให้ เอฟ นครนายก เดินอยู่บนเส้นทางสายนี้มาเเล้วมากกว่า 10 ปี 

ความจริงเเล้ว เอฟ นครนายก เดินทางมาเล่นอาชีพในต่างประเทศเป็นเวลาหลายปีเเล้ว แต่ผลงานที่ออกมายังไม่ค่อยเเน่นอนเท่าไหร่ บางรายการทำได้เกินความคาดหมาย เเต่บางรายการก็ตกเป็นฝ่ายพ่ายเเพ้ไปแบบน่าผิดหวัง ส่งผลให้ เจ้าตัว ยืนระยะไม่ได้เเละอันดับโลกขยับขึ้นๆลงๆมาเกือบตลอด จนกระทั่งล่าสุดในปี 2019 "เอฟวัน" ระเบิดฟอร์มเก่งได้อย่างต่อเนื่องจนก้าวกระโดดขึ้นมาเป็น "มืออันดับ 22 ของโลก" ซึ่งสูงที่สุดในชีวิต

ผลงานอันโดดเด่นของ "เอฟ นครนายก" ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะว่าจริงๆเเล้ว เจ้าตัว เป็นคนที่เแทงได้เเม่นยำมากพอสมควร เพียงเเต่ว่าในระดับโลกมันไม่ได้ตัดสินกันที่ความเเม่นอย่างเดียว หลักๆเเล้วที่เเต่ละคนควรจะมีคือ 1. เกมรุก, 2. เกมรับ เเละ 3. ความมั่นใจ อย่างน้อยที่สุดถ้ามาสัก 2 จาก 3 ข้อข้างต้น วันนั้นได้ลุ้นยาวๆเเน่นอน

ความเเม่นยำของ "เอฟ นครนายก" เปรียบได้กับเกมรุกนรกแตกของ "หงส์แเดง" ลิเวอร์พูล ที่เข้าฟอร์มเข้าฝักเมื่อไหร่ก้มเป็นลงทุกลูกเเน่ๆ แต่ทว่าเกมรับของ เอฟ ไม่ได้เเข็งเเกร่งปานภูผาเหมือน เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ทำให้เวลาโดนสวนมาเเต่ละหมัดมีทรุดมีเซเกือบตลอด เเละยิ่งวันไหนที่เกมรุกไม่ทำงานด้วยเเล้วละก็ เชื่อขนมกินได้เลยว่า เเพ้ มากกว่า ชนะ

ส่วนข้อที่ 3 คือปัญหาสำคัญที่ เอฟ เจอมาเกือบตลอดคือ "ความมั่นใจ" ที่หลายๆครั้งยังดูไม่ค่อยดีนัก ไม่ใช่ว่าเอฟไม่สู้ ไม่ใช่ว่าเอฟกลัว หรือภาษาชาวบ้านคือ "เอฟป๊อด" เเต่มันมีเรื่องให้เขาต้องคิดมากกว่าเเค่ในสนาม ไหนจะเรื่องครอบครัวที่เคยอยู่ห่างกัน ไหนจะเรื่องสปอนเซอร์ที่สนับสนุนไปอยู่ต่างประเทศ ไหนจะเรื่องของผลการเเข่งขันที่อยากจะชนะๆๆๆ พอมันรวมตัวกันจนระเบิด "บึ้ม" เเน่นอนครับว่า "พัง"

เอฟ จัดการเเก้ปัญหาต่างๆได้ดีพอสมควร เเละกลายเป็นว่าเเต่ละปัญหามันส่งผลซึ่งกันเเละกันโดยตรง เอฟ ตัดปัญหาใหญ่เรื่องครอบครัวออกไปก่อนเลยทันที โดยย้ายครอบครัวตามไปอยู่ด้วยกันที่ต่างประเทศ อย่างน้อยก็ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง เวลาเหงาหรือท้อเเท้ก็มีคนให้กำลังใจรออยู่ข้างๆตลอดเวลา โดยไม่ต้องใช้ "วิดิโอคอลล์" เหมือนสมัยที่ครอบครัวอยู่เมืองไทย

ใครจะไปคิดว่าแก้เรื่องเดียวเเต่ได้ผลเกือบ 3 เรื่อง พอไม่มีปัญหาเรื่องคิดถึงบ้านเเละครอบครัว เอฟ นครนายก กลับมาทำผลงานได้ดีขึ้นอีกครั้ง เล่นได้เเน่นอนเเละจบอันดับสูงๆหลายรายการ เงินรางวัลก็เริ่มไหลเข้ากระเป๋ามากขึ้นพอสมควร ส่งผลให้ เจ้าตัว พอจะใช้ชีวิตได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมากนัก เเละสามารถวางแผนระยะยาวได้ว่าด้วยเงินรางวัลเท่านี้จะสามารถเล่นต่อไปได้อีกสักกี่เดือน(โดยไม่ต้องนึกถึงผลรายการอื่น) ส่วนเรื่องของสปอนเซอร์อาจยังเคลียร์ไม่ได้ซะทีเดียว เพราะทุกอย่างล้วนอยู่ที่การตัดสินใจของ "เจ้าของเงิน" สุดท้ายต่อให้ติด "ท็อปเท็น" ก็ใช่ว่าจะมีใครเข้ามาสนับสนุนอยู่ดี 

มาถึงตรงนี้สรุปคือ เอฟ นครนายก มีในสิ่งที่ควรจะมีเเล้ว 2 จาก 3 ข้อ. ก็ไม่น่าแปลกใจที่ผลงานของ เจ้าตัว จะดีวันดีคืน เเละเชื่อว่าถ้ายังทำได้แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ "เอฟวัน" จะก้าวเข้ามาอยู่ในใจเเฟนกีฬาชาวไทยทุกคนอย่างเเน่นอน ตามรอยของรุ่นพี่อย่าง "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" อดีตนักแทงมือ 3 ของโลก ส่วนอนาคตข้างหน้า "เอฟวัน" จะขึ้นไปถึงระดับเดียวกับ "ไทยทอร์นาโด" ได้หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่คงตอบไม่ได้ เเต่สเต็ปต่อไปขอให้ขยับมาติด 16 อันดับเเรกของโลกให้ได้ก่อน เพราะจะทำให้โอกาสของ "เอฟวัน" มีมากขึ้นกว่าในปัจจุบันอีกพอสมควร