TNN online หมอน้ำตาซึม เผยเรื่องราวหนูน้อยต้องห่างแม่อยู่รพ.สนามลำพัง

TNN ONLINE

Social Talk

หมอน้ำตาซึม เผยเรื่องราวหนูน้อยต้องห่างแม่อยู่รพ.สนามลำพัง

หมอน้ำตาซึม เผยเรื่องราวหนูน้อยต้องห่างแม่อยู่รพ.สนามลำพัง

หมอเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ โพสต์เล่าเรื่องราวน่ารัก จากโรงพยาบาลสนาม เมื่อหนูน้อยต้องห่างครอบครัวมาอยู่คนเดียว

วันนี้( 29 เม.ย.64) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Thanet Santirojanakul ซึ่งเป็นคุณหมอ ได้โพสต์ข้อความว่า "#เรื่องน่ารักๆในโรงพยาบาลสนาม (วันนี้ยาวนิดนึงครับ) ... ความผูกพันของพ่อแม่ลูกเป็นเรื่องที่ซับซ้อนละเอียดอ่อน จนบางทีผมเองที่ยังไม่มีโอกาสเป็นพ่อคน อาจไม่เข้าใจ จนกระทั่งหัวค่ำคืนนึง ราวๆ 1 ทุ่ม มีโทรศัพท์จากหอผู้ป่วยโควิดที่ถูกเนรมิตจากห้องประชุม เพื่อรองรับคนไข้เกือบ 50 เตียง "คุณหมอคะ น้อง...ไม่ยอมทานข้าว อาละวาด ขว้างปาข้าวของใหญ่เลยค่ะ" ผมรีบถาม"เกิดอะไรขึ้นครับ" พยาบาลรีบตอบสวนมาโดยไม่ทันรอผมเอ่ยคำถามจนจบ "น้องคิดถึงคุณแม่ค่ะ" เอาหล่ะสิ กะไว้แล้ว น้องเข้ามานอนโรงพยาบาลสนามเพียงลำพัง โดยคุณพ่อคุณแม่เป็นเพียงกลุ่มเสี่ยงสูงที่ตรวจไม่พบเชื้อ เอาไงดีหล่ะ ... ผมว่าคุณแม่เองก็คงคิดถึงน้องมากๆๆๆ ไม่แพ้กันแน่ๆ หลังจากผมและทีมตัดสินใจอะไรบางอย่าง ผมก็รีบโทรปรึกษาผู้ใหญ่และพี่ทีมจิตเวช ได้ข้อสรุปเห็นพ้องต้องกัน จึงรีบให้ทีมโทรตามคุณแม่มาที่โรงพยาบาลทันที ...

ผมมาถึงโรงพยาบาลสนาม คุยวางแผนกับทีมเล็กน้อย เพียงไม่ถึง 15 นาที คุณแม่ก็มาถึงเร็วเกินคาด แต่คงนานมากสำหรับหัวใจของแม่คนนึง ผมตัดสินใจสวมชุดหมี PPE cover all ก่อน และสอนคุณแม่ใส่ชุด PPE cover all เช่นกัน ระหว่างนั้นก็แอบทำข้อตกลงกันเล็กน้อย จากนั้นเราสองคนเปิดประตูก้าวเข้าสู่โถงห้องประชุม มุ่งหน้าตรงไปที่เตียงของน้อง... รอยยิ้มแบบเก็กๆกลัวเสียฟอร์มของเด็กชายคนหนึ่ง แต่ไม่อาจหลบสายตาที่มองผ่านเฟซชิลด์ของผมได้ "น้อง...ครับ หมอพาคุณแม่มาหา แต่เราต้องมีข้อตกลงกันก่อนนะครับ" เด็กน้อยพยักหน้าตามทันที "วันนี้หมอพาคุณแม่มาเยี่ยมได้แค่วันเดียวนะ เพราะถ้าคุณแม่เข้ามาหาบ่อยๆ คุณแม่จะอันตราย น้อง...ไม่อยากให้คุณแม่เป็นอันตรายใช่ไหมครับ" เด็กน้อยพยักหน้าตลอดจนผมไม่แน่ใจว่าเข้าใจผมพูดหรือเปล่า แต่เอาน่า ... ลุยต่อ "เดี๋ยวหมอให้อยู่กับคุณแม่แป๊บนึงนะ แต่ต้องสัญญาว่าหลังจากนี้ น้อง...จะเข้มแข็ง อีก 12 วันก็ได้เจอกันแล้ว ค่อยโทรคุยกับคุณแม่ทุกวัน ตกลงไหมครับ" คุณแม่ก็หันไปยิ้ม พร้อมให้กำลังลูก 

นาทีนี้ผมนับถือหัวใจคุณแม่มากๆครับ ผมรู้ว่าคุณแม่เองก็ไม่ไหว แต่ต้องกลั้นน้ำตา ทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าลูกไว้ ผมปล่อยให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันสักพัก แอบมองตอนเขากอดกัน น้ำตาซึมไปด้วยเลยครับ พอได้เวลาสักพัก ผมจึงเข้าไปคุยขอตัวคุณแม่ออกมา กอดสุดท้ายก่อนออกจากห้อง เล่นเอาผมเกือบร้องตาม จากนั้นผมพาคุณแม่ออกมา คุมกำกับการถอดชุดหมี ทีละชิ้นอย่างระมัดระวังที่สุด สุดท้ายคุณแม่บอกกับทีมว่า ขอบคุณมากๆ และเข้าใจความลำบากของแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคนแล้ว ว่าการใส่ชุดหมีทำงาน ทั้งเหนื่อย ร้อน หายใจลำบากแค่ไหน เขาใส่แค่แป๊บเดียวก็เกือบไม่ไหวแล้ว ... 

ก่อนจากกันคุณแม่และพวกเรา ต่างฝ่ายต่างให้กำลังใจกันและกัน แบบใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะ 2 เมตร social distancing จบคืนนี้ด้วยรอยยิ้ม ลุ้นวันต่อไปว่าน้องจะงอแงอีกไหม 555 สุดท้ายน้องเข้มแข็งขึ้น เริ่มเล่นกับเพื่อน หายห่วงแล้วลุงหมอ 555 ... 

ป.ล. ตอนนี้รพ.สนามเรา กลายสภาพเป็นเนอสเซอรี่สนาม รองรับเด็กน้อย กว่า 20 ชีวิต (เยอะพอๆกับคนไข้ผู้ใหญ่) วุ่นวายพอสมควร แต่มีรอยยิ้มได้ทุกวัน  ลุงหมอ ทีม และเพื่อนๆ ต้องช่วยกันจัดหาขนม นมกล่องมาให้ทุกวัน หากใครสนใจมาบริจาคร่วมกันได้นะ แจ้งมาที่ผมได้เลยครับ ดูแลลูกๆหลานๆชาวปากช่องเราด้วยกันนะครับ #fightcovid19 #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อคนที่คุณรัก #รักชาวปากช่อง"


ข่าวที่เกี่ยวข้อง