TNN online เอาชนะโควิด! ผู้ว่าฯชัยภูมิ "ยันไม่มีผู้ป่วย-ไม่ปิดเมือง"

TNN ONLINE

ภูมิภาค

เอาชนะโควิด! ผู้ว่าฯชัยภูมิ "ยันไม่มีผู้ป่วย-ไม่ปิดเมือง"

เอาชนะโควิด! ผู้ว่าฯชัยภูมิ ยันไม่มีผู้ป่วย-ไม่ปิดเมือง

ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ตั้งโต๊ะเปิดแถลงแก้ข่าว ชัยภูมิยังเป็นสีขาว แม้ถูกล้อมด้วยสีแดง พร้อมสู้ทุกรูปแบบ เพื่อเอาชนะโควิด วอนชาวชัยภูมิมาจับมือกันสร้างกำแพงป้องกัน

วันที่ 21 มีนาคม 2563 นายณรงค์ วุ่นซิ่ว ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ตัดสินใจฝ่ากระแสวิจารณ์ หลังโลกโซเซียลกระหน่ำหนัก สนับสนุนให้ปิดเมือง ป้องกันโรคโควิด-19 โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สสจ.,ตำรวจ,และองค์การบริหารส่วนจังหวัด เปิดแถลงโต้กรณี ที่สำนักข่าวบางสำนัก ออกมานำเสนอข่าวว่าชัยภูมิ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว และกลายเป็นพื้นที่สีแดงเป็นที่เรียบร้อย โดยยืนยันว่า เป็นการนำเสนอข่าวคลาดเคลื่อน ไม่เป็นความจริง ซึ่งการนำเสนอข่าวคลาดเคลื่อน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นหลายเรื่อง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และที่สำคัญด้านความรู้สึก โดยเปิดแถลงข่าวที่ห้องประชุมภูแลนคา ศาลากลางชั้น3 มีผู้สื่อข่าว จากทุกสำนักมร่วมรับฟังการแถลงข่าวครั้งนี้ 

เอาชนะโควิด! ผู้ว่าฯชัยภูมิ ยันไม่มีผู้ป่วย-ไม่ปิดเมือง

นายณรงค์ วุ่นซิ่ว ได้ชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ โรคโควิด-19 ที่กำลังเป็นปัญหาทั่วโลก โดยเฉพาะชัยภูมิที่ยังคงเป็นจังหวัดที่ตกอยู่ในวงล้อม ของโรคโควิด-19 เนื่องจากจังหวัดที่อยู่รอบๆชัยภูมิ กลายเป็นพื้นที่สีแดง พบผู้ติดเชื้อแล้ว แต่สถานการณ์ของจังหวัดชัยภูมิขณะนี้ยอมรับว่า อยู่ในสภาพที่ต้องเฝ้าระวังอย่างหนัก จังหวัดได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ติดตามข้อมูลข่าวสาร และสร้างเครือข่ายตาสับปะรด เพื่อรายงานกรณีที่พบผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และมีอาการไข้ และขอความร่วมมือจากทุกคนช่วยกันปฎิบัติตน ตามคำแนะนำของบุคลคลากรทางการแพทย์ อย่างเคร่งครัด

เอาชนะโควิด! ผู้ว่าฯชัยภูมิ ยันไม่มีผู้ป่วย-ไม่ปิดเมือง


นายณรงค์ ยอมรับว่าสถานการณ์เวลานี้ ไม่เป็นที่ไว้วางใจ เพราะแนวโน้ม การกระแพร่กระจายเชื้อโรค ทั้งจังหวัดใกล้เคียง และชัยภูมิ สูงขึ้นและที่สำคัญชัยภูมิ ถูกล้อมกรอบไว้ทุกด้าน แต่เรายังสามารถควบคุมการแพร่เชื้อได้ดี ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดได้ว่า ชาวชัยภูมิ มีวินัยปฎิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด วันนี้ผมในฐานะพ่อเมือง มีความตั้งใจอย่างสูงสุดที่จะเอาชนะโรคนี้ ไปพร้อมกับพี่น้องประชาชนให้ได้ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการลงไปยังอำเภอต่างๆ ให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และต้องเข้าไปให้ถึงพื้นที่ให้เร็วที่สุด หากพบว่ามีการแจ้งข้อมูลจากทั้ง อสม.และชาวบ้าน และที่สำคัญที่สุดคือสื่อมวลชน ทุกเครือข่าย อยากจะขอความกรุณานำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา โดยให้ติดต่อขอข้อมูลโดยตรงได้ตลอดเวลา จากผวจ.,สสจ,หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง