พิษบูลลี่! เด็ก ป.5 ยังโคม่า หลังแขวนคอห้องน้ำโรงเรียน
'ปวีณา' รุดเยี่ยม 'เด็กหญิง ป.5' หลังแขวนคอในห้องน้ำโรงเรียน เหตุถูกกลั่นแกล้ง-ทำร้ายร่างกาย
วันนี้ ( 18 ธ.ค.62) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย นายชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน กระทรวงศึกษาธิการ เดินทางไปที่โรงพยาบาลนครพิงค์ เข้าเยี่ยมอาการเด็กหญิง อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู หลังคิดสั้นพยายามผูกคอตายในห้องน้ำภายในโรงเรียน แต่ครูและภารโรงพังประตูช่วยนำส่งโรงพยาบาลได้ทัน
โดยล่าสุดอาการของ เด็กหญิง อายุ 11 ปี ยังโคม่าไม่ได้สติ เนื่องจากขณะเกิดเหตุสมองขาดอากาศเป็นเวลานานถึง 16 นาที ล่าสุดในวันนี้แพทย์ต้องเจาะคอเพื่อช่วยการหายใจ สร้างความเสียใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ เรื่องเศร้านี้เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เด็กหญิง อายุ 11 ปี ได้ใช้เชือกผูกคอตัวเองในห้องน้ำหลังอาคารเรียน แต่เพื่อน ๆ ทราบเรื่อง จึงรีบแจ้งให้ครูทำให้ครูและภารโรงช่วยกันพังประตูห้องน้ำ เข้าไปช่วยเหลือในสภาพหมดสติโดยช่วยกันปั๊มหัวใจและรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลพร้าว ก่อนถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด เนื่องจากอาการสาหัส ต่อมาบิดาของเด็กหญิง อายุ 11 ปีได้ร้องทุกข์ขอความป็นธรรมมายังมูลนิธิปวีณาฯ เนื่องจากสงสัยสาหตุที่ถูกสาวทำลงไป ขอให้ทางมูลนิธิเข้ามาช่วยเหลือ โดยระบุว่าสาเหตุที่ทำให้คิดสั้นก็เพราะถูกเพื่อนรุมแกล้งและทำร้ายร่างกาย
นางปวีณา แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ ยืนยันว่าสาเหตุไม่ได้มาจากเด็กมีแฟนหรือน้อยใจเพื่อนชายรุ่นพี่ แต่ได้พูดคุยกับครอบครัวได้รับการยืนยันว่า เด็กหญิง อายุ 11 ปี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ แต่เชื่อว่าสาเหตุเป็นเพราะถูกเพื่อนชายในโรงเรียนกลั่นแกล้งมานาน ล่าสุดในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้ถูกเพื่อนชาย 3 คนทำร้ายร่างกาย โดยจับให้นอนกับพื้น ใช้เท้าเหยียบแขนทั้งสองข้างและเหยียบที่ใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ
ปัญหาที่เกิดขึ้นถือเป็นปัญหาที่จะต้องหาแนวทางแก้ไขในระดับประเทศ เพราะการถูกกลั่นแกล้งมีความเสี่ยงที่จะนำไปสู่ความสูญเสียและความรุนแรงในรูปแบบอื่นได้ ขณะที่ห้องน้ำโรงเรียนทั้งประเทศถือเป็นจุดบอดที่มักจะเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั้ง ทำร้ายร่างกาย ถูกอนาจาร และ เหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ จึงอยากให้ทุกโรงเรียนพิจารณาติดตั้งระบบไซเรนเตือนภัยที่มีปุ่มกด สามารถแจ้งเหตุให้ครูทราบทันท่วงที นอกจากนี้ยังขอให้ทุกโรงเรียนมีนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์ที่อาจเป็นครูหรือนักวิชาชีพโดยตรงอยู่ประจำทุกโรงเรียน เพื่อสามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ทั้งเด็กที่เป็นต้นเหตุและผู้ถูกกระทำ เพื่อปรับแก้พฤติกรรมก่อนนำไปสู่เหตุรุนแรงได้
ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้ ทางมูลนิธิฯ จะประสานไปยังพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ หาแนวทางช่วยหลือกรอบครัวอีกทางหนึ่ง เพราะทราบจากแพทย์ว่าหลังจากนี้เด็กหญิงหนึ่งจะต้องกลับไปรักษาตัวที่บ้านภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด โดยทางมูลนิธิฯ จะติดตามการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด
ขณะที่บิดาของ เด็กหญิง อายุ 11 ปี ยืนยันว่าลูกสาวไม่ได้ผิดหวังเรื่องความรักแต่ที่คิดสั้นเป็นเพราะถูกกลั่นแกล้ง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นแม้ครอบครัวจะเสียใจ แต่ก็ยืนยันจะไม่แจ้งความดำเนินคดีกับเด็กชาย 3 คนที่ร่วมกันทำร้ายลูกสาว เพราะเห็นแก่อนาคตและเห็นว่าเป็นลูกเป็นหลาน แต่ก็อยากให้ทางโรงเรียนพิจารณามาตรการลงโทษเพื่อไม่ให้ไปกลั่นแกล้งใครจนเกินเหตุอีก
ด้านนายนายชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน กระทรวงศึกษาธิการ เผยว่า ศธ.จะกำชับไปยังทุกโรงเรียนในสังกัด ให้สอดสองดูแลพฤติกรรมของเด็กในโรงเรียน เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย
เกาะติดข่าวที่นี่
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
