TNN ภาวะเหงาเฉียบพลันในผู้สูงอายุ ความรู้สึกโดดเดี่ยวที่มาพร้อมกับช่วงเทศกาล

TNN

Health

ภาวะเหงาเฉียบพลันในผู้สูงอายุ ความรู้สึกโดดเดี่ยวที่มาพร้อมกับช่วงเทศกาล

ช่วงเทศกาล ภาพความอบอุ่นของครอบครัวที่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน มักเป็นสิ่งที่หลายคนเฝ้ารอ แต่สำหรับผู้สูงอายุบางกลุ่ม เทศกาลเหล่านี้อาจกลายเป็นช่วงเวลาแห่งความเหงา เศร้า และโดดเดี่ยว รู้หรือไม่ว่า ภาวะ "เหงาเฉียบพลัน" ในผู้สูงอายุ นั้นเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และส่งผลร้ายแรงต่อทั้งสุขภาพจิตและกาย



ช่วงเทศกาล ภาพความอบอุ่นของครอบครัวที่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน มักเป็นสิ่งที่หลายคนเฝ้ารอ แต่สำหรับผู้สูงอายุบางกลุ่ม เทศกาลเหล่านี้อาจกลายเป็นช่วงเวลาแห่งความเหงา เศร้า และโดดเดี่ยว รู้หรือไม่ว่า ภาวะ "เหงาเฉียบพลัน" ในผู้สูงอายุ นั้นเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และส่งผลร้ายแรงต่อทั้งสุขภาพจิตและกาย

เหงาเฉียบพลันคืออะไร?

ภาวะเหงาเฉียบพลัน (Acute loneliness) ในผู้สูงอายุ หมายถึง ความรู้สึกโดดเดี่ยว หงุดหงิด น้อยใจ เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน มักพบในช่วงเทศกาลที่ผู้คนมักใช้เวลาร่วมกับครอบครัว แต่ผู้สูงอายุบางกลุ่มอาจไม่ได้มีโอกาสได้พบปะสังสรรค์กับลูกหลาน ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนฝูง ส่งผลต่อสุขภาพจิตและอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ในระยะยาว

สาเหตุของเหงาเฉียบพลัน

  • การสูญเสีย: ผู้สูงอายุอาจสูญเสียคู่ชีวิต ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนฝูง ทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว
  • การเปลี่ยนแปลงทางสังคม: ผู้สูงอายุบางกลุ่มอาจเกษียณอายุ ทำให้สูญเสียบทบาททางสังคมและกิจวัตรประจำวัน
  • ปัญหาสุขภาพ: ผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพอาจรู้สึกอ่อนแอ ขาดความมั่นใจ
  • การขาดโอกาสทางสังคม: ผู้สูงอายุบางกลุ่มอาจไม่มีโอกาสได้พบปะสังสรรค์กับผู้อื่น เนื่องจากข้อจำกัดทางร่างกาย หรือการเข้าถึง

สัญญาณเตือนของเหงาเฉียบพลัน

  • รู้สึกโดดเดี่ยว หงุดหงิด น้อยใจ
  • เบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร
  • รู้สึกไร้ค่า ไร้ความหมาย
  • นอนไม่หลับ
  • เบื่ออาหาร
  • รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีใคร

ผลกระทบของเหงาเฉียบพลัน

  • สุขภาพจิต: ภาวะเหงาเฉียบพลันอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล
  • สุขภาพกาย: ภาวะเหงาเฉียบพลันอาจส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ป่วยง่ายขึ้น
  • ความสัมพันธ์: ภาวะเหงาเฉียบพลันอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์กับลูกหลาน ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูง

วิธีป้องกันเหงาเฉียบพลัน

  • การสื่อสาร: สื่อสารกับลูกหลาน ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงอย่างสม่ำเสมอ
  • การเข้าร่วมกิจกรรม: เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในชุมชน เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ
  • การออกกำลังกาย: ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • การช่วยเหลือผู้อื่น: หาโอกาสช่วยเหลือผู้อื่น
  • การขอความช่วยเหลือ: หากรู้สึกเหงาหรือซึมเศร้า ควรขอความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยา หรือแพทย์

สำหรับครอบครัวและผู้ดูแล

  • ใส่ใจและสังเกต: ใส่ใจและสังเกตอาการของผู้สูงอายุ
  • ใช้เวลาร่วมกัน: ใช้เวลาร่วมกันกับผู้สูงอายุ
  • สนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีกิจกรรม: สนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีกิจกรรมต่างๆ
  • รับฟังปัญหา: รับฟังปัญหาของผู้สูงอายุ
  • ให้ความช่วยเหลือ: ให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุในกิจวัตรประจำวัน

ภาวะเหงาเฉียบพลัน เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ การป้องกันและดูแลผู้สูงอายุอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพจิตที่ดีและมีความสุขในชีวิต

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง