"โรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก" เกิดจากอะไร พบได้ทุกช่วงอายุ อันตรายหรือไม่?
โรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก เกิดจากอะไร? รักษาอย่างไร หลังมดดำ เป็นโรคนี้ ส่วนใหญ่ เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาท ควรรีบพบแพทย์
หลายคนเป็นห่วงพิธิกรชื่อดัง "มดดำ คชาภา ตันเจริญ" เพราะสังเกตเห็นเวลาเจ้าตัวอ่านข่าวว่าปากเบี้ยว รวมถึงเจ้าตัวเองก็พูดในรายการว่าตอนนี้ตัวเอง มีอาการปากเบี้ยว
ล่าสุด มดดำ เผยว่า ตอนแรกคิดว่าทำฟัน แต่มันเป็นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นโรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก เป็นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม เป็นการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ เป็นผลจากเส้นประสาท ไปฝังเข็มก็ดีขึ้นมาหน่อย จะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 3 วัน หมอจะให้หยุดงาน แต่ยอมตายดีกว่า
เตือนอัมพาตหน้าครึ่งซีก โรคใกล้ตัว เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาท ควรรีบพบแพทย์
สถาบันประสาทวิทยา เผยเป็นอาการที่เกิดการอ่อนแรงของใบหน้าครึ่งซีก ทำให้ไม่สามารถขยับใบหน้าซีกนั้นได้ เป็นผลมาจากการอักเสบของเส้นประสาทใบหน้าหรือเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7
อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคเส้นประสาทใบหน้าหรือเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ หรือเบลล์พัลซี ( Bell’s palsy ) คือ ภาวะที่กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเกิดอัมพาตชั่วขณะ สามารถพบได้ทุกช่วงอายุ
สาเหตุ โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก
โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก โดยมีสาเหตุมาจาก เส้นประสาทบนใบหน้าที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อใบหน้าเกิดความผิดปกติ ส่งผลให้ใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก มักจะเป็นข้างใดข้างหนึ่ง
อาการ โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก
- หลับตาไม่สนิท มุมปากขยับได้ลดลง
- ดูดน้ำจากหลอดไม่ได้ มีน้ำรั่วที่มุมปาก
- มีอาการเลิกคิ้วไม่ได้
- การรับรสที่ปลายลิ้นผิดปกติ
- น้ำลายแห้ง น้ำตาแห้ง
- การได้ยินของหูข้างที่มีอาการลดลง หรือได้ยินเสียงก้อง
- มีอาการปวดบริเวณหลังใบหู
- บางรายเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เช่น โรคอีสุกอีไส, เชื้อเริม, งูสวัด ที่แฝงอยู่ในปมประสาท
หากร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำลงจะทำให้เกิดโรคนี้ได้ ถือเป็นปัญหาสุขภาพ ที่เกิดขึ้นทันที และมักจะเกิดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง
นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีกเป็นโรคที่สามารถค่อยๆฟื้นตัวและดีขึ้นเองได้ โดยแพทย์จะวินิจฉัยจากการซักประวัติ การตรวจร่างกายเป็นสำคัญ ร่วมกับการตรวจการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ (NCS, EMG)
การรักษาโรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก คือ รักษาตามสาเหตุที่ทำให้โรค เช่น
- ให้ยาฆ่าเชื้อไวรัสกรณีที่มีการติดเชื้อไวรัสกลุ่มเริม หรืองูสวัดร่วมด้วย
- การให้ยาสเตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบในรายที่ไม่มีการติดเชื้อ
- การทำกายภาพบำบัดใบหน้า เช่น การบริหารกล้ามเนื้อใบหน้า, การกระตุ้นเส้นประสาทด้วยกระแสไฟฟ้า หรือนวดใบหน้า ช่วยลดภาวะกล้ามเนื้อตึงเกร็ง
- การผ่าตัดในผู้ป่วยบางราย ในผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ควรปิดตาข้างที่มีอาการ หรือ ใส่แว่นกันแดด ร่วมกับใช้น้ำตาเทียม และปิดตาเวลานอนเพื่อลดอาการเคืองตา ตาแดง หรือมีแผลที่แก้วตา
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ป่วยมีอาการใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการ เพราะผลของการรักษาจะได้ผลดีถ้าได้เริ่มรักษาได้เร็ว
ข้อมูล กรมการแพทย์
ขอบคุณภาพ TRUE INSIDE