5 เหตุผล 'เอริค เทน ฮาก' เหมาะคุมทัพ 'แมนยู'

สื่อหลายสำนัก รวมไปถึงบ่อนการพนันถูกกฎหมายของอังกฤษออกมาปรับราคาว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส คือกุนซือเต็งหนึ่งถ้าหาก โซลชา ถูกปลดออกไป แต่สำหรับแฟนบอลส่วนใหญ่รวมไปถึงตัวผมเองคิดว่า การที่จะสร้างทีมในระยะยาว โดนกุนซือที่มีความสามารถและน่าจะเหมาะกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากที่สุด คงจะหนีไม่พ้น เอริค เทน ฮาก กุนซือของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม โดยมี 5 เหตุผลหลักๆ ดังนี้

ที่มาภาพ : AFP

1. ลูกศิษย์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

หากให้หลายๆ คนคิดชื่อกุนซือระดับโลกในยุคปัจจุบัน ชื่อแรกๆ ที่ออกมาน่าจะเป็นชื่อของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดย เอริค เทน ฮาก เคยร่วมงานกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในปี 2013 อยู่ที่ “เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิค แห่งบุนเดสลีกา เยอรมนี โดยทำงานคุมทีมสำรองจนถึงปี 2015 ช่วงที่อยู่กับบาเยิร์นนี้เอง เทน ฮากได้ซึบซับความรู้อย่างเต็มที่จาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ชาวสแปนิช ที่คุมทีมชุดใหญ่ของ “เสือใต้” ในเวลานั้น โดยได้นั่งดูแผนการเล่นของทีม และศึกษาเก็บเกี่ยววิชามาโดยตลอด 2 ปี โดยปัจจุบัน ทาน ฮาก ก็ได้นำเอาปรัชญาฟุตบอลของ เป๊ป มาใช้ที่ อาแจ็กซ์ อีกด้วย

ที่มาภาพ : AFP

2. ทำบอลเกมรุก

หากใครเป็นแฟนปีศาจแดงมายาวนาน โดยเฉพาะในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทรงบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันคือบอลบุกใส่คู่ต่อสู้ ไม่ใช่การตั้งรับสวนกลับ หรือเล่นรับต่ำ มันไม่ใช่สไตล์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลย สำหรับกุนซือหลายๆ คนที่ผ่านมา รวมไปถึงยุคโซลชาอีกด้วย สำหรับ เทน ฮาก บอลของเขาชัดเจนมาก เขาเป็นกุนซือที่ทำบอลบุกไปข้างหน้าอย่างเดียว ชนิดที่เรียกว่าหากนักเตะส่งบอลคืนหลังนี่แทบมีเคืองกันเลยทีเดียว และเป็นกุนซือที่ชอบให้ลูกทีมเล่นบอลเอ็นเตอร์เทนท์แฟนบอลด้วยการโหมเกมรุกใส่คู่ต่อสู้อย่างสุดมันส์

ที่มาภาพ : AFP

3. ปั่นนักเตะเยาวชน

เทน ฮาก ถือเป็นโค้ชที่ให้โอกาสนักเตะเยาวชนของทีมเป็นอย่างมาก "เน้นสร้าง ไม่เน้นซื้อ" สำหรับนักเตะที่ผ่านมือของเทน ฮาก และโด่งดังขายได้กำไรมาก็ไม่น้อย อาทิ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ กองหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่ย้ายจาก อาแจ็กซ์ ออกไปอยู่กับยูเวนตุส ด้วยค่าตัวประมาณ 70 ล้านยูโร รวมไปถึง แฟรงกี้ เดอ ยอง กองกลางคนสำคัญที่ย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า เป็นที่เรียบร้อย โดยในยุคปัจจุบันที่เขากำลังสร้างก็คือ ไรอัน กราเวนเบิร์ช ที่กำลังถูกสโมสรยักษ์ใหญ่หลายทีมรุมจีบอยู่ ซึ่งสไตล์นี้ก็จะเหมาะกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เป็นสโมสรที่พร้อมผลักดันผู้เล่นเยาวชนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อยู่แล้ว เมือนกับตอนที่เฟอร์กี้ดันผู้เล่นยุค คลาสออฟ 92 ขึ้นมาจนเป็นแกนหลักของทีม และเป็นตำนานในปัจจุบัน

ที่มาภาพ : AFP

4.  ระบบการเล่น 4-3-3

หากมองไปที่ตัวผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มาในตอนนี้ เรียกได้ว่า เป็นผู้เล่นที่เหมาะกับแผนการเล่นนี้มาก โดยเฉพาะผู้เล่นแนวรุกริมเส้นอย่าง เจดอน ซานโช่, มาร์คัส แรชฟอร์ด, เมสัน กรีนวู้ด รวมไปถึงผู้เล่นมิดฟิล์ดพลังงานอีก 2 คนที่จะคอยยืนปักหลังตรงกลาง และมีผู้เล่นแนวรุกที่คับคั่งบัญชาเกมในแดนหน้า ถือเป็นแผนการเล่นที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ เพราะว่ายอดทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล โดย 2 กุนซือสมองเพชรก็ใช้อยู่ในตอนนี้ ซึ่งถ้าเทน ฮาก นำแผนนี้มาใช้ที่ยูไนเต็ด คาดว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่ต้องปรับตัวเยอะอะไร จะมีก็แค่เสริมกองกลางตัวรับเข้ามาในทีมเพิ่มเติมก็น่าจะเพียงพอต่อการสร้างทีมแล้ว

ที่มาภาพ : AFP

5. ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค จะกลับมาเฉิดฉายแน่นอน

หาก เทน ฮาก มาคุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จริงๆ เขาจะมาพร้อมกับคู่มือในการใช้ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค กองกลางดาวรุ่งของเนเธอร์แลนด์อย่างแน่นอนและก็ไม่ต้องค่อยนั่งดูเพื่อนๆ ลงเล่น ไม่ต้องมายืนแปะบอลให้เพื่อนซ้อมยิงประตู แถมไม่ต้องมาคอยส่งเสื้อให้กับคนที่กำลังจะลงสนามอีกแล้ว เพราะ ฟาน เดอ เบ็ค จะได้กลับมาเฉิดฉายอย่างแน่นอนในแผนการเล่นของ เทน ฮาก เพราะว่า ดอนนี่ คือดาวรุ่งที่ เทน ฮาก รักเขาที่สุด เพราะเขาช่วยทีมไว้เยอะในตอนที่เล่นให้กับอาแจ็กซ์และมีส่วนสำคัญที่พา อาแจ็กซ์ เข้ารอบรองชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2019 ซึ่งดอนนี่ สามารถเล่นในแผงมิดฟิล์ด 4-3-3 ของ เทน ฮาก ได้อย่างสบายเลยทีเดียว