TNN online ไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2019-20 สัปดาห์ที่ 28 วัตฟอร์ด พบ ลิเวอร์พูล

TNN ONLINE

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2019-20 สัปดาห์ที่ 28 วัตฟอร์ด พบ ลิเวอร์พูล

ไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2019-20 สัปดาห์ที่ 28 วัตฟอร์ด พบ ลิเวอร์พูล

หยุดไร้พ่ายที่44นัด! วัตฟอร์ด ทีมรองบ๊วย ฟอร์มขึ้นหิ้ง เปิดบ้านถล่มโหด ลิเวอร์พูล ว่าที่แชมป์พรีเมียร์ลีก ถึง 3-0 โดย อิสไมล่า ซาร์ ทำสองประตู ในเกมนัดที่ 28 ของฤดูกาล


วันนี้ (1 มี.ค. 63) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์ที่ 28 ของฤดูกาล "แตนอาละวาด" วัตฟอร์ด เปิดสนามวิคาเรจ โร้ด รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ลงทำการแข่งขันเวลา 00.30 น.


เริ่มเกมมาได้เพียง 4 นาที เป้นทางฝั่งเจ้าถิ่นได้ลุ้นก่อนเมื่อ อดัม มาซิน่า ได้บอลทางด้านซ้ายก่อนจ่ายให้ เคราร์ เดโลเฟว ได้บอลก่อนเลี้ยงตัดเข้ากลางแล้วตัดสินใจยิงด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ แต่บอลหลุดออกข้างเสาไป 

เกมดำเนินถึงนาทีที่ 10 อับดูลาย ดูกูเร่ ได้บอลทางด้านซ้ายก่อนจ่ายให้ เคราร์ เดโลเฟว ได้จังหวะยิงในเขตโทษบอลเหินข้ามคานไปนิดเดียว 

เกมเข้าสู่นาทีที่ 15 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เลี้ยงบอลมาโดน เคราร์ เดโลเฟว ตัดบอลได้ ก่อนทำชิ่งกับ ทรอย ดีนี่ย์ แล้วได้หลุดไปสุดเส้นด้านซ้าย ก่อนจ่ายเข้ามาให้ อับดูลาย ดูกูเร่ ได้จังหวะยิง โล่งๆ แต่บอลยังไปติดบล็อคของ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ออกหลังไป

นาทีที่ 20 จากจังหวะเตะมุมของทีมเยือน กองหลังเจ้าถิ่นสะกัดออกไปได้และเป็น อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน เก็บบอลได้ก่อนยกบอลข้ามมา ก่อนเป็นโม ซาลาห์ ได้จังหวะยิงบอลไปชนข้างตาข่ายออกหลังไป

ในช่วงนาทีที่ 45+5 เจ้าถิ่นมีจังหวะได้ลุ้น จากจังหวะฟรีคิก กองหลังลิเวอร์พูลสะกัดไม่ดี และเป็น วิลล์ ฮิวจ์ส โหม่งเข้าเขตโทษ ก่อนเป็น  อลีสซง เบ็คเกอร์ รับบอลพลาดก่อนบอลไปเข้าทาง ทรอย ดีนี่ย์ พยายามพลิกบอลหาจังหวะยิงแต่ยังโดนเซฟเอาไว้ได้ ก่อนที่ ทรอย ดีนี่ย์ จะยิงซ้ำอีกทีบอลหลุดออกหลังไป

หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายต่างพยายามครองบอลเพื่อทำเกมรุกแต่ไม่ใครมีจังหวะได้ลุ้นจบสกอร์เลย หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก วัตฟอร์ด เปิดบ้านเสมอลิเวอร์พูล 0-0  


เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 46 คริสติย็อง กาบาเซเล่ วางบอลยาวขึ้นมาก่อนเป็น โรแบร์โต้ เปเรย์ร่า เอาบอลลง ก่อนจ่ายต่อให้ อิสไมล่า ซาร์ได้จังหวะหลุดเดี่ยว ก่อนตัดสินใจยิง แต่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังปัดบอลข้ามคานออกไปได้


นาทีที่ 53 เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค จ่ายบอลทะลุช่องให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้จังหวะยิงแต่ไปติดเซฟของ เบน ฟอสเตอร์ ก่อนบอลมาเข้าทาง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้จังหวะเปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ แต่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เข้าไม่ถึงบอล

หลังจากนั้นอีก 1 นาที เป็นทางเจ้าถิ่นได้บุก จากจังหวะทุ่มไกล ทรอย ดีนี่ย์ ปล่อยบอลข้ามหัว เอเตียน กาปู เข้ามาเก็บบอลได้ ก่อนจ่ายต่อให้ อิสไมล่า ซาร์ ได้จังหวะยิงโล่งๆบอลผ่านมือ อลีสซง เบ็คเกอร์ เข้าไป ช่วยให้ วัตฟอร์ด ออกนำ ลิเวอร์พูล 1-0

เกมดำเนินถึงนาทีที่ 60 ทรอย ดีนี่ย์ ตวัดจ่ายบอลผ่านหน้าทั้ง เดยัน ลอฟเรนและเฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค บอลหลุดไปถึง อิสไมล่า ซาร์ ได้จังหวะหลุดเดี่ยว ก่อนยิงบอลผ่านมือ อลีสซง เบ็คเกอร์ เข้าไปช่วยให้ วัตฟอร์ด นำห่าง ลิเวอร์พูล 2-0

นาทีที่ 64 อดัม ลัลลาน่า ถูกส่งลงสนามแทนที่ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ก่อนที่ในนาทีที่ 65 ดิว็อค โอริกี้ จะถูกส่งลงสนามแทนที่ อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน

หลังจากนั้น 2 นาที ทีมเยือนพยายามบุกอย่างหนัก วิลล์ ฮิวจ์ส โหม่งสะกัดออกมาไม่ดี บอลไปเข้าทาง อดัม ลัลลาน่า  ได้จังหวะยิงสวน แต่บอลไปชนเสาออกหลังไป

หลังจากนั้นเกมเข้าสู่นาทีที่ 72 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จ่ายบอลคืนหลังไม่ดี บอลไปเข้าทาง อิสไมล่า ซาร์ พยายามหาช่องยิง แต่สุดท้ายไหลให้ ทรอย ดีนี่ย์ ได้จังหวะยิงโล่งๆเข้าไป ช่วยให้ วัตฟอร์ด นำห่าง ลิเวอร์พูล 3-0

นาทีที่ 79 ทาคูมิ มินามิโนะ ถูกเปลี่ยนลงสนามแทนที่ โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่

นาทีที่ 81 ทรอย ดีนี่ย์ ได้บอลก่อนจ่ายบอลทะลุช่องให้ อิสไมล่า ซาร์ ได้จังหวะหลุดเดี่ยว ก่อนตัดสินใจยิงบอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว 

หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน วัตฟอร์ด เปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล 3-0  เก็บสามแต้มขยับหลุดพ้นโซนแดง ฝั่ง "หงส์แดง" แพ้เป็นเกมแรกในรอบ 44 นัด และยังนำเป้นจ่าฝูงทิ้งห่างแมนฯซิตี้ 22 แต้มตามเดิม

รายชื่อผู้เล่น11คนแรกที่ลงเป็นตัวจริง

วัตฟอร์ด (4-2-3-1) : เบน ฟอสเตอร์ -กิโก้ เฟเมเนีย, คริสติย็อง กาบาเซเล่, เคร็ก แคธคาร์ต, อดัม มาซิน่า - วิลล์ ฮิวจ์ส, เอเตียน กาปู -อิสไมล่า ซาร์, อับดูลาย ดูกูเร่, เคราร์ เดโลเฟว - ทรอย ดีนี่ย์

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์,เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง