TNN online แผลเป็นไม่มีวันหาย! โอเว่นรับสุดช้ำใจแฟนลิเวอร์พูลเกลียด-เผยสาเหตุ

TNN ONLINE

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

แผลเป็นไม่มีวันหาย! โอเว่นรับสุดช้ำใจแฟนลิเวอร์พูลเกลียด-เผยสาเหตุ

แผลเป็นไม่มีวันหาย! โอเว่นรับสุดช้ำใจแฟนลิเวอร์พูลเกลียด-เผยสาเหตุ

ไมเคิ่ล โอเว่น อดีตหัวหอกระดับตำนานทีมชาติอังกฤษยอมรับว่ารู้สึกเจ็บปวดมากๆที่ "เดอะ ค็อป" โห่ใส่ตอนเล่นกับนิวคาสเซิลเกมเยือนลิเวอร์พูล พร้อมบอกแผลนี้ไม่มีวันจางหายไปแน่ๆ

ไมเคิ่ล โอเว่น อดีตกองหน้าลิเวอร์พูลยอมรับว่ายังรู้สึกเจ็บปวดมาจนถึงตอนนี้กัหลัง"เดอะ ค็อป" เกลียดชังอย่างหนักนับตั้งแต่ย้ายออกจากถิ่นแอนฟิลด์เมื่อปี 2004

โอเว่น เป็นเด็ดปั้นของ"หงส์แดง" และเป็นขวัญใจของเหล่า "เดอะ ค็อป" มาตลอดนับตั้งแต่ขึ้นสู้ทีมชุดใหญ่ในปี 1996 แต่กลับมีปัญหากับ ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" จนย้ายไปซบ เรอัล มาดริด เมื่อปี 2004 ทำให้มีแฟนบอลลิเวอร์พูล บางส่วนไม่พอใจในตัวเขาและกลับถึงขั้นเกลียดชังหนักเมื่อย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2009

โอเว่น เปิดเผยว่า "การกลับไปที่ แอนฟิลด์ ในตอนที่เล่นให้ นิวคาสเซิ่ล แล้วโดนแฟนบอลโห่ใส่มันถือเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดมากๆ ผมร้องไห้ในเลาจ์และหวังว่าจะไม่มีใครเห็น"

"จริงอยู่ว่าการที่คาร์ราเกอร์ ออกมาปกป้องผมอย่างตรงไปตรงมามันช่วยได้บ้าง แต่มันเป็นช่วงเวลาอันเจ็บปวดที่ยาวนานสุดๆ อารมณ์มันเหมือนกับว่าต้องเลิกกับภรรยาเลยทีเดียว"

"ผมทำได้เพียงโทษตัวเองเท่านั้นที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาหลังตอบตกลงที่ย้ายไป เรอัล มาดริด ผมยังรัก ลิเวอร์พูล เต็มเปี่ยม แต่สถานการณ์มันแตกต่างกับคาร์ร่าสิ้นดี เขายังเป็นไอดอลของสโมสรจนถึงทุกวันนี้ ส่วนตัวผมเคยอยู่ในสถานะนั้นแต่แล้วความคิดเห็นของแฟนบอลก็แบ่งเป็น 2 ฝ่าย ด้วยสาเหตุที่ว่าคิดจะย้ายออกจากทีมอยู่ประมาณ 1 ปีได้ แล้วจู่ๆ ทุกอย่างก็พังทลาย"

"ถ้าผมเดินไปเจอ เดอะ ค็อป พวกเขาก็จะตะโกนใส่ว่า แกมันเป็นไอ้พวกแมงค์ (หมายถึงคนเมืองแมนเชสเตอร์) หรืออะไรทำนองนั้น ซึ่งผมทำได้เพียงอดทนยอมรับมัน และมันเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดมากๆ มันเป็นสิ่งที่ฆ่าผมทั้งเป็นมาตลอด และแผลมันก็จะไม่มีวันจางหายไปด้วย"

"ผมทำอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นในใจตัวเองไม่ได้ ที่จริงถ้าผมลืมมันได้จะเป็นเรื่องดี คงจะมีชีวิตที่แสนสุขสันต์ ถ้าเกิดบอกว่า "ฉันไม่แคร์หรอกโว้ย" แต่ปัญหาคือผมแคร์กับมันมากๆ ผมรู้ว่าสโมสรที่แท้จริงของผมนคือทีมไหน แต่ผมไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่ตัวเองทำลงไปได้ ผมได้ทำการตัดสินใจไปแล้ว และก็ไม่โทษใครทั้งนั้น นอกจากตัวเอง"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เจ๋งจริง! เปิดสถิติ25นัดลิเวอร์พูลเหนือแมนยู-อาร์เซน่อลชุดยอดแชมป์

ช่างกล้าพูด!อดีตโค้ชแมนยูยกลินการ์ดเหมือนตำนานบาร์ซ่า

เตะน้อยอย่างแปลกใจ! พรีเมียร์ลีกเบรกหนีหนาวแบ่งฟาดแข้ง2ช่วง

เกาะติดข่าวที่นี่ 

website: www.TNNThailand.com  
facebook : TNNThailand 
twitter : @TNNThailand 
Line : @TNNThailand 
Youtube Official : TNNThailand


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง