TNN online ต้นแบบฟุตบอลยุคใหม่ 'เกเก้น คล็อปป์' VS 'ติกี้ กวาร์ดิโอล่า'

TNN ONLINE

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ต้นแบบฟุตบอลยุคใหม่ 'เกเก้น คล็อปป์' VS 'ติกี้ กวาร์ดิโอล่า'

ต้นแบบฟุตบอลยุคใหม่ 'เกเก้น คล็อปป์' VS 'ติกี้ กวาร์ดิโอล่า'

นับว่าเป็นเกมที่สู้กันได้สมศักดิ์ศรี​ เป็นเกมที่ใช้ทุกอย่างที่เป็นศาสตร์​ระดับสูง​เข้าห้ำหั่นกัน สุดท้ายเกมนี้ ติกี้ ตาก้า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ยังกิน เกเก้นเพรสซิ่ง ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ลง ทั้งในแง่ของผลการแข่งขัน รวมไปถึงสถิติการพบกัน ระหว่างกุนซือชาวเยอรมัน กับ กุนซือชาวสเปน

บิ๊กแมตช์ ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง โคจรมาพบกับรองจ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล ที่มีแต้มตามหลังเพียง 1 แต้มซึ่งเหล่าบรรดากูรู จากหลากหลายสื่อมองว่าจะมีโอกาสเป็นเกมที่ตัดสินทิศทางของแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้ ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยสกอร์ 2-2 ท่ามกลางความระห่ำ เร้าใจ สนุกสุดมัน แทบทุกนาทีของเกม


นี่คือเกมแรกในฤดูกาลนี้ที่ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่ง หลังจบ 45 นาทีแรก การลุ้นแชมป์ยังเปิดกว้างต่อไป โดยต่อไปนี้ใครพลาดก็หมายถึงเสียแชมป์ในทันที


สำหรับสถิติการพบกันของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับ เยอร์เกน คล็อปป์ ดวลกันมาแล้วทั้งหมด 23 ครั้ง โดยต่างก็มีผลงานเท่ากันจากชัยชนะ 9 นัด เสมอ 5 นัด และแพ้ 9 นัด 


ต้นแบบฟุตบอลยุคใหม่ 'เกเก้น คล็อปป์' VS 'ติกี้ กวาร์ดิโอล่า'

ที่มาภาพ : AFP


หลังจบเกม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กล่าวถึงการพลาด 3 แต้มในเกมกับลิเวอร์พูล


 "เยอร์เก้น คล็อปป์ รู้ว่าผมเคารพเขามากแค่ไหน เขาทำให้ผมเป็นผู้จัดการทีมที่ดีขึ้น เราไม่ใช่เพื่อนกัน เราไม่กินมื้อกลางวันด้วยกัน ผมมีเบอร์โทรศัพท์ของเขา แต่ผมไม่ได้โทรหาเขา"


"โชคร้ายที่เราไม่ชนะ ลิเวอร์พูลเล่นได้อย่างน่าดูในทุกๆจังหวะที่พวกเขาบุกขึ้นมา เราโชว์ฟอร์มได้ดี และผมภูมิใจในทีมของผม ทั้งสองทีมรู้ว่ามีอีกเจ็ดเกมเหลืออยู่ที่ต้องเอาชนะให้ได้ทั้งหมด เราพร้อมที่จะลงเล่นแล้ว"


"ผมไม่เสียใจอะไร นักเตะสามารถพลาดกันได้ นี่คือฟุตบอล และมันเกิดขึ้นได้ ผมกับ คล็อปป์ มีความเคารพซึ่งกันและกัน เขารู้ดีว่าวันเสาร์หน้าผมจะพยายามเอาชนะเขาให้ได้"


ต้นแบบฟุตบอลยุคใหม่ 'เกเก้น คล็อปป์' VS 'ติกี้ กวาร์ดิโอล่า'

ที่มาภาพ : AFP


ในขณะที่นายใหญ่ หงส์แดง ก็ออกมาแสดงความพอใจกับ 1 แต้มที่ได้จากรังของเรือใบสีฟ้าว่า


"มันเป็นเกมที่น่าตื่นเต้น ซิตี้ เริ่มเกมได้ดีกว่า แต่ครึ่งหลังเราเริ่มต้นได้เหนือกว่า เราคอนโทรลเกมได้ และผ่านบอลได้ เราก็สร้างความอันตรายให้กับพวกเขาได้ และมันทำให้เราได้ประตู"


"ซิตี้ พยายามอาศัยการวิ่งที่ฉลาด พวกเขากดดันด้วยการผ่านบอลทะลุแนวรับของเรา เราสามารถเล่นกันได้ดีกว่านี้ แต่เราทำได้ดีแล้วในหลายๆจังหวะ"


"เราโชคดีที่พวกเขาได้ประตู แต่มันเป็นลูกล้ำหน้า มันเป็นเกมที่ดี และเป็นผลลัพธ์ที่เราต้องยอมรับ มันเป็นเกมที่น่าเครียดมาก เราจะเจอกันอีกในอีกหกวันข้างหน้า มันเป็นเกมที่สนุก ที่ผมหลงรักมัน"


เกมนี้ทั้งสองทีมใช้งานผู้เล่นในตำแหน่งแบ็คที่ว่ากันว่าดีที่สุดในโลก ณ ชั่วโมงนี้ลงมาเจอกัน โดย ซิตี้ ใช้ ชูเอา กานเซโล่ และ ไคล์ วอล์รเกอร์ ส่วน ลิเวอร์พูล มี เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน 


โดยเฉพาะในรายของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ ที่ทำอีก 1 แอสซิสต์ ในเกมนี้ เพราะถึงตอนนี้ เทรนท์ แอสซิสต์  ไปแล้ว 17 ครั้ง ทำสถิติเป็นผู้เล่นที่ แอสซิสต์ มากที่สุดต่อหนึ่งฤดูกาลแซงหน้า สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่เคยทำเอาไว้มากที่สุด 16 ครั้ง


นอกจากนี้ยังมีสถิติอีกมากมายที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ประตูของ ดิโอโก้ โชต้า ที่ทำให้เขา ยิงประตูติดต่อกันเป็นเกมที่ 5 แล้ว


แม้ว่า กาเบรียล เชซุส จะหลุดเป็นตัวสำรองบ่อยครั้งในระยะหลัง แต่สำหรับผลงานในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม เจ้าตัวถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมลงเล่ม 13 เกม เป็นตัวจริง 8 นัดยิง 5 ประตู 4 แอสซิสต์


ในขณะที่ โม ซาลาห์ ที่ ที่แม้จะยิงไม่ได้ในระยะหลัง แถมถูก ซน ฮึง มิน ยิงลดช่องว่างเหลือเพียง 3 ประตู แต่เกมใหญ่มัก กตะเป็นของโปรดของ บังโม เสมอ เกมนี้เก็บได้อีก 1 แอสซิสต์ เท่ากับว่าเจ้าตัว มีสถิติมรส่วนร่วมกับ 35 ประตู จาก 47 เกมที่พบกับ 6 ทีมบิ๊กซิก โดยแยกเป็น 26 ประตู 9 แอสซิสต์


รวมแล้ว ซาลาห์ มีส่วนร่วมกับ 159 ประตูของลิเวอร์พูล ทำสถิติแซงหน้าตำนานอย่าง ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ที่มีส่วนร่วมกับ 158 ประตูของ หงส์แดง ขณะที่อันดับ 1 ตลอดกาลได้แก่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่มีส่วนร่วมกับประตูของ ลิเวอร์พูล ที่ 212 ประตู


ต้นแบบฟุตบอลยุคใหม่ 'เกเก้น คล็อปป์' VS 'ติกี้ กวาร์ดิโอล่า'

ที่มาภาพ : AFP


ในขณะที่คู่หูอย่าง ซาดิโอ มาเน่ คนยิงประตูตีเสมอ 2-2 กลายเป็นนักเตะที่ถูกโฉลกกับการยิง เรือใบสีฟ้า ไปแล้วโดย มาเน่ ยิง ซิตี้ มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของตัวเอง เท่ากับ แอสตัน วิลล่า เชลซี และ อาร์เซนอล ด้วยจำนวน 8 ประตู ในขณะที่ทีมที่ มาเน่ชอบยิงประตูใส่มากที่สุดคือ คริสตัล พาเลซ โดยโดน มาเน่ ยิงไปแล้วถึง 13 ประตู


กองหน้าของทั้งสองทีมที่มีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ด อย่าง กาเบรียล เชซุส ของ ซิตี้ และ ดิโอโก้ โชต้า ของ ลิเวอร์พูล ต่างพร้อมใจกันรักษาสถิติไร้พ่าย เมื่อตัวเองยิงได้ต่อไป โดยใช้ เชซุส ครองสถิตินี้มายาวนาน 44 เกม ในขณะที่ โชต้า 33 เกม 


จากการบุกเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่งผลให้ หงส์แดง ยุติสถิติอันสวยงาม นั่นก็คือหยุดชัยชนะติดต่อกันในเกมลีกไว้เพียงแค่ 10 นัดและยังหยุดสถิติชนะ ในเกมเยือนติดต่อกันไว้ที่ 9 นัด


จนถึงตอนนี้สถานการณ์การลุ้นแชมป์ ยิ่งน่าสนใจเป็นทวีคูณเนื่องจากทั้งคู่ยังไม่มีใครพลาดพลั้ง เสมอกันทั้งเหย้าและเยือน แถมสถิติของตัวกุนซืออย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ยังเสมอกันอีก 


แถมหากมองไปที่ สถิติกุนซือการเก็บแต้มมากที่สุด พี่ยังทำหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นำ เจอร์เก้น คล็อปป์ อยู่เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น


เป๊ป กวาร์ดิโอล่า 339 แต้ม 

เยอร์เก้น คล็อปป์ 338 แต้ม


ดังนั้นเกมที่เหลือทุกเกมของทั้งสองทีมต่อจากนี้ ล้วนมีความหมาย และส่งผลกับเส้นทางลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ที่ใครพลาดอาจต้องน้ำตาตก


ก่อนหน้านี้ก็คงไม่มีใครคาดคิดเหมือนกันว่า การลุ้นแชทป์ปีนี้ มันจะสนุกตื่นเต้น บ้าระห่ำ จนถึงช่วงท้ายฤดูกาลแบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล ตามหลัง ซิตี้ ไกลสุดกู่ถึง 14 แต้มเลยทีเดียว 


สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโปรแกรมโคจรกลับมาพบกับ ลิเวอร์พูล อีกครั้ง ในสัปดาห์หน้า โดยเป็นเกมรอบรองชนะเลิศศึก เอฟเอ คัพ ณ สนามเวมบลีย์ วันที่ 16 เมษายน นี้

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง