TNN อัปเดตเส้นทาง ‘พายุไต้ฝุ่นเอวิเนียร์’ ล่าสุดมีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปญี่ปุ่น

TNN

Earth

อัปเดตเส้นทาง ‘พายุไต้ฝุ่นเอวิเนียร์’ ล่าสุดมีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปญี่ปุ่น

อัปเดตเส้นทาง ‘พายุไต้ฝุ่นเอวิเนียร์’ ล่าสุดมีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปญี่ปุ่น

กรมอุตุฯ เผย ‘พายุไต้ฝุ่นเอวิเนียร์’ ล่าสุดมีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปญี่ปุ่น เบื้องต้นยังไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย

วันนี้ ( 28 พ.ค. 67 )กรมอุตุนิยมวิทยาเปิดข้อมูลเส้นทางพายุล่าสุดโดย ‘พายุไซโคลนริมาล’ ที่ปกคลุมบริเวณประเทศบังคลาเทศ คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในระยะต่อไป ขณะที่ ‘พายุไต้ฝุ่นเอวิเนียร์’ ที่ก่อตัวทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มการเคลื่อนตัวไปทางด้านตะวันออกของประเทศญี่ปุ่นในช่วงวันที่ 30–31 พ.ค. 67 โดยพายุทั้งสองนี้ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย


สำหรับ ‘พายุไต้ฝุ่นเอวิเนียร์’  ทางการฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่าพายุลูกดังกล่าวพัดถล่มในหลายพื้นที่ อาทิ จังหวัดเคซอน และกรุงมะนิลา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน และมีผู้เจ็บอีก 7 คน รวมทั้งบ้านเรือนหลายหลัง ได้รับความเสียหายจากพายุลูกนี้

ขณะเดียวกัน ประชาชนเกือบ 20,000 คน ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นเอวิเนียร์ และยังมีประชาชน มากกว่า 2,000 คน ที่กลายเป็นผู้พลัดถิ่น ยังคงอยู่ในศูนย์อพยพของทางการฟิลิปปินส์


ทั้งนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาแห่งชาติฟิลิปปินส์ คาดการณ์ว่า พายุไต้ฝุ่นเอวิเนียร์ อาจจะเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ ภายในช่วงบ่าย ของวันที่ 29 พฤษภาคม นี้.


ขณะที่ ‘พายุไซโคลนริมาล’ ที่เคลื่อนตัวเข้าพัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งบังกลาเทศ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ( 27 พ.ค. 67 )ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย โดยกระแสลมแรงและฝนตกหนัก ยังทำให้กระแสไฟฟ้าดับ ประชาชนนับล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในบังกลาเทศ แถลงว่า ประชาชนหลายพันครัวเรือน ฟาร์มกุ้ง และเขื่อนกั้นแม่น้ำหลายแห่ง ถูกน้ำท่วม และได้รับความเสียหาย 


ในเมืองมองลา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ ฝนตกหนักและกระแสลมแรง ยังคงสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ดังกล่าวต่อเนื่องหลายชั่วโมง หลังจากไซโคลนพัดขึ้นฝั่ง และค่อย ๆ ลดความรุนแรงลง


อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไซโคลนจะอ่อนกำลังลง แต่ฝนก็ยังตกหนักในพื้นที่ชายฝั่ง ซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย การให้บริการเรือโดยสารข้ามฟาก และเรืออื่น ๆ ยังคงงดให้บริการเมื่อวานนี้


'พายุไซโคลนริมาล' ถือเป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มบังกลาเทศ และเป็นพายุลูกแรกในปีนี้ ที่พัดถล่มพื้นที่ราบต่ำชายฝั่งของเอเชียใต้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทำให้อุณหภูมิเหนือผิวน้ำทะเลสูงขึ้น  นอกจากนี้พายุไซโคลนยังถล่มเกาะซาการ์ ในรัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดีย ด้วยความเร็วลม 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีผู้เสียชีวิต 6 ราย สร้างความเสียหายต่อกระท่อม และบ้านในพื้นที่ชายฝั่งของทั้ง 2 ประเทศ 


อารัป บิสวัส รัฐมนตรีไฟไฟในรัฐเบงกอลตะวันตก กล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้า ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เสาไฟมากกว่า 2,000 ต้นหักโค่นและสถานีไฟฟ้าย่อยหลายแห่งได้รับความเสียหาย ส่วนเมืองโกลกาตา ก็คล้ายกับพื้นที่ชายฝั่งของรัฐ ถูกถล่มด้วยฝนตกหนักเช่นกัน 


เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ทั้งอินเดียและบังกลาเทศ อพยพประชาชนเกือบ 1 ล้านคนไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยประมาณ 800,000 คนในบังกลาเทศ และประมาณ 110,000 คนในอินเดีย  พายุลูกนี้ คาดว่าจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ และค่อย ๆ อ่อนกำลังลงเรื่อย ๆ เป็นดีเปรสชั่นในช่วงบ่าย แต่ก็ยังจะทำให้ฝนตกมากขึ้นในหลายรัฐ 


พายุไซโคลนริมาล ถือเป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มบังกลาเทศ และเป็นพายุลูกแรกในปีนี้ ที่พัดถล่มพื้นที่ราบต่ำชายฝั่งของเอเชียใต้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทำให้อุณหภูมิเหนือผิวน้ำทะเลสูงขึ้น


ภาพจาก: AFP 

ข่าวแนะนำ