TNN เอลนีโญกระทบลุ่มน้ำแอมะซอน แม่น้ำแห้ง-โลมาตาย-การเกษตรพัง

TNN

Earth

เอลนีโญกระทบลุ่มน้ำแอมะซอน แม่น้ำแห้ง-โลมาตาย-การเกษตรพัง

เอลนีโญกระทบลุ่มน้ำแอมะซอน  แม่น้ำแห้ง-โลมาตาย-การเกษตรพัง

“ภาวะเอลนีโญส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบลุ่มน้ำแอมะซอน ทวีปอเมริกาใต้ เผชิญกับภัยแล้งอย่างรุนแรง”

หลายพื้นที่ทางตอนเหนือของอเมริกาใต้ เช่น บราซิล กายอานา ซูรินาเม เฟรนช์เกียนา และบางส่วนของเวเนซุเอลาและโคลอมเบีย เผชิญกับฝนตกน้อย ภัยแล้งรุนแรงตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้วจนถึงต้นปีนี้ ส่งผลให้แม่น้ำแอมะซอนและแม่น้ำสาขาที่ลดลงถึงระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี ระดับน้ำในแม่น้ำแห้งเหือด เรือไม่สามารถแล่นผ่านได้ ภัยแล้งคุกคามการดำรงชีวิตของผู้คนหลายล้านคนในแถบประเทศลุ่มน้ำแอมะซอน รวมถึงสิ่งมีชีวิตอีกจำนวนมาก เช่น โลมาแม่น้ำแอมะซอนซึ่งมีสีชมพูโดดเด่นถือเป็นสัตว์น้ำจืดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและพบในแม่น้ำของอเมริกาใต้กว่าร้อยตัวตายลงเพราะอุณหภูมิน้ำที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้ผลผลิตทางการเกษตร เช่น ถั่วเหลือง ได้รับความเสียหายหนัก และผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าสิ่งเลวร้ายที่สุดอาจยังมาไม่ถึง โดยมีการคาดการณ์ว่าปีนี้ จะเกิดภัยแล้งรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยโดยพิจารณาจากอุณหภูมิมหาสมุทรที่สูงขึ้น นักวิทยาศาสตร์ยังคาดการณ์ว่า ภัยแล้งจะเริ่มบรรเทาลงในช่วงปลายปีนี้ แต่หลายพื้นที่ไม่น่าจะฟื้นตัวได้ก่อนต้นปี 2569 เพราะต้องรอฤดูฝนที่กลับมาเป็นปกติก่อน เพราะฉะนั้นแถบลุ่มน้ำแอมะซอนนี้อาจจะต้องรอการฟื้นฟูอีกอย่างน้อย 2 ปีกว่าจะกลับมาอุดมสมบูรณ์ได้ดังเดิม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนั่นเอง

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง