นักวิชาการเผยแพร่ข้อมูลปฏิทินรับมือ ‘โลกเดือด’ ปลายปีอาจเจอ ‘ลานีญา’

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ค แจ้งเตือนเตรียมรับสภาพอากาศร้อน ซึ่งมาเร็วจากปรากฏการณ์เอลนีโญ และปัญหาฝุ่น PM 2.5 

ทั้งนี้ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรณ์ ได้เผยข้อมูล ‘สภาพอากาศร้อน’ เป็นรายเดือนตลอดปี 2567 โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

เดือนกุมภาพันธ์  ตั้งแต่ต้นเดือน หน้าหนาวหมดแล้ว สำหรับคนกรุงเทพฯและเป็นโอกาสสุดท้ายในการไปภาคเหนือ เพื่อรับความเย็นนิดหน่อย โดยปัญหาฝุ่นยังมีไม่มาก ส่วนปลายเดือนจะเข้าสู่ฤดูร้อน และร้อนเร็วกว่าปีก่อน ๆ สำหรับเอลนีโญยังไม่จบ ดังนั้นต้องเตรียมรับความร้อน สำหรับสถานการณ์ฝุ่น จะมามากหรือมาน้อยแล้วแต่วัน

ส่วนในเดือนมีนาคม ต้นเดือนถึงกลางเดือน เอลนีโญอ่อนลงนิดหนึ่ง แต่ความร้อนจะสูงขึ้นเพราะเป็นหน้าร้อน  หากมีฝนตกลงมาบ้าง จะช่วยลดปัญหาฝุ่นในบางวัน 

เดือนเมษายนเอลนีโญใกล้จบแล้ว แต่จะทิ้งความร้อนไว้ และอาจทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้น ถือเป็นเดือนที่ต้องเตรียมตัวไว้สำหรับรับมือโลกเดือดในอนาคต 

จากนั้น ในเดือนพฤษภาคม เอลนีโญ น่าจะใกล้หมดแรง และคาดว่าจะมีฝนมาบ้าง ต่อมาที่เดือนมิถุนายน หากรอดจากฤดูโลกเดือดมาได้ เอลนีโญคงจบ และเข้าสู่ภาวะปกติ ฝนน่าจะเริ่มตกลงมา 

สำหรับ เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปโลกจะอยู่ในภาวะปกติสัก 3 - 4 เดือน จากนั้นต้องลุ้นกันว่าจะเปลี่ยนเป็นปรากฎการณ์ ‘ลานีญา’ หรือไม่ หากใช่จะทำให้ฝนจะตก และเกิดน้ำจะท่วมเป็นจุด ๆ 

สำหรับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาอยู่นั้น เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าเตรียมหารือทางโทรศัพท์ กับ พลเอก ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา อีกรอบ เพราะเรื่องฝุ่นเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง หากดูจากแผนที่ความร้อนของประเทศไทย มีน้อยมาก แต่จะมีมากในฝั่งกัมพูชา และมีลมพัดจากฝั่งตะวันออกมาตะวันตก 

ด้านศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM.2.5 อำเภอดอยสะเก็ด รายงานผลการดำเนินงานประจำวันนี้ ช่วงเช้า ตรวจพบ จุดความร้อน (Hotspot) จำนวน 1 จุด ในพื้นที่ตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด 

ขณะที่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าจังหวัดเชียงใหม่ จะลุยแก้ปัญหาฝุ่นต่อ และยกการ์ดให้สูง โดยที่ผ่านมาได้ทำอย่างดี และจะทำต่อไป ทั้งนี้หากเปรียบเทียบสถิติ ห้วงเดือนมกราคม ปี 2566 ถึง ปี 2567  พบว่าจุดความร้อน Hotspots ลดลงร้อยละ 83 ส่วนคุณภาพอากาศ AQI ดีขึ้นร้อยละ 95

ภาพจาก: TNN ONLINE