ข่าวดี! เอลนีโญเริ่มอ่อนลง คาดจบในเดือนพ.ค. 68 แต่ปีนี้ฝนมาช้ากว่าปกติ

วันนี้ ( 31 ม.ค. 67 )รองศาสตราจารย์สุจริต คูณธนกุลวงศ์ ประธานแผนงานวิจัยยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านการบริหารจัดการน้ำ สำนักงานวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยถึง สถานการณ์เอลนีโญที่จะส่งผลต่อภาคการเกษตรในปีนี้ว่า สถานการณ์ฝนในปีที่ 2566 ที่ผ่านมาตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ยประมาณร้อยละ 20 แต่มีฝนตกลงช่วงหลังเดือนกันยายนจึงทำให้มีน้ำเพิ่มขึ้น แต่ปัจจุบันโดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาได้มีการเพาะปลูกไปแล้ว 5 ล้านไร่ ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 3 ล้านไร่  จึงต้องระมัดระวังในการวางแผนการใช้น้ำ

สำหรับการติดตามสถานการณ์เอลนีโญ พบว่าปัจจุบันเอลนีโญค่อยๆ อ่อนกำลังลดลง คาดว่าจะหมดสิ้นในเดือนพฤษภาคมปี 2568 โดยจากนี้ไปจนถึงพฤษภาคมนี้ แนวโน้มปีนี้จะมีฝนตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและฝนจะมาล่าช้าเล็กน้อย จากนั้นจะเข้าสู่ฤดูฝนตามปกติ ทำให้โอกาสที่จะแล้งยาว 2 ปีซ้อนนั้นลดลง แต่เราก็จะต้องรักษาน้ำให้เพียงพอในปีหน้า โดยปัจจุบันมองว่าจัดการน้ำในภาคการเกษตรมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้หลายได้ ที่จะต้องเร่งเดินหน้าแก้ไขและจัดการผ่านระบบที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดความสูญเสียกับภาคเกษตรกรรม  ขณะที่เกษตรกรเองต้องปรับตัวเรื่องการทำการเกษตรให้ทันกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

นอกจากมาตรการที่รัฐบาลได้พยายามดำเนินการในการแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำภายใต้ปรากฏการณ์เอลนีโญ ก็ยังมีข้อเสนอเพิ่มเติมว่า ควรปรับการแก้ไขปัญหาแบบเฉพาะหน้า เป็นการจัดการความเสี่ยงเชิงระบบแทน ใช้ข้อมูลข่าวสารที่พยากรณ์ให้เป็นประโยชน์ ปรับการช่วยเหลือเชิงเดี่ยว เป็นการช่วยปรับตัว ยกระดับแบบเฉพาะเจาะจงและยั่งยืนมากขึ้น โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและด้อยโอกาส รวมถึงควรมีมาตรการพัฒนาศักยภาพ เพิ่มแหล่งน้ำขนาดเล็กของชุมชนเพื่อเป็นแหล่งน้ำสำรอง พัฒนาเป็นทีมงานในระดับพื้นที่ ร่วมกับองค์การปกครองท้องถิ่น ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณและทรัพยากรจากจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ภาพจาก: AFP