ด่วน! กทม.ไฟเขียวคลายล็อก 8 สถานที่ 'ผับ-บาร์' ปิดต่อถึงสิ้นเดือน พ.ค.

วันนี้ (29 เม.ย.63) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ กทม.2 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เริ่มการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. ภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ครั้งที่ 9/2563 เมื่อวันที่ 28 เม.ย. เสนอผ่อนปรน 8 ประเภทสถานที่นำร่อง ให้สามารถดำเนินการได้ หลังจากวันที่ 30 เม.ย. จะสิ้นสุด ประกาศ กทม. ปิดสถานที่และกิจการเสี่ยงต่อโรคระบาดชั่วคราวรวม 34 พื้นที่ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร โดยที่ประชุมมีมติอนุมัติ ผ่อนปรน 8 ประเภทสถานที่ โดยจะเป็นการเปิดให้แบบมีเงื่อนไข มีมาตรการควบคุมโรค ส่วนจะเปิดวันใดนั้นขึ้นอยู่กับรัฐบาล แต่ยังคงมาตรการปิดสถานที่อื่นๆ ไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค.

ขณะที่ สถานที่เสียงสูงอย่าง "ผับ-บาร์" มีมติให้ปิดต่อถึง 31 พ.ค.63 ส่วน "ห้างสรรพสินค้า" อาจพิจารณาปลดล็อกในการผ่อนคลายสถานประกอบการเพิ่มเติม เนื่องจากนักวิชาการและแพทย์ยังเห็นว่ามีความเสี่ยงจากที่เคยพบผู้ติดเชื้อจากการเข้าใช้บริการในห้างสรรพสินค้า จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อน

โดย 8 สถานที่ที่เปิดให้บริการมีรายละเอียด ดังนี้

1.ร้านอาหาร

นั่งทานที่ร้านได้ โดยร้านค้าต้องทำสัญลักษณ์ห่าง แต่ต้องจัดที่นั่งห่างกัน 1.5 เมตร และห้ามมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดตามเวลาพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พนักงานในร้านต้องใส่หมวก ใส่หน้ากากอนามัย ใส่ถุงมือ หากป่วยมีไข้ให้หยุดงาน 

2.ตลาดและตลาดนัด

จำกัดให้มีทางเข้าออกเพื่อจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ โดยมีการเว้นระยะห่าง มีจุดคัดกรองผู้เข้าใช้บริการและผู้ค้าขาย จัดให้มีที่ล้างมือจุดเข้า-ออกตลาด มีการเว้นระยะห่าง 1.5 เมตรในการซื้อสินค้า ทำความสะอาดตลาด ส้วมสาธารณะ และทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในตลาด 

3.ร้านตัดผม

ร้านเสริมสวย อนุญาตเฉพาะตัด สระ ไดร์ และต้องหยุดทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกๆ 2 ชม.ให้จองคิวเข้ารับบริการ ไม่ให้มีการนั่งรอในร้าน ช่างตัดผมต้องใส่หน้ากากอนามัย และ Face Shield ที่สำคัญต้องจดบันทึกผู้ที่เข้ามาใช้บริการทุกคน ระหว่างสระผมผู้ใช้บริการต้องใส่หน้ากาก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ

4.โรงพยาบาล คลินิก และสถานพยาบาล

ซึ่งสถานที่เหล่านี้ไม่รวมคลินิกลดน้ำหนัก หรือคลินิกเสริมความงาม 

5.สนามกอล์ฟ และสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ

ให้มีจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ และจัดให้มีระยะห่าง 5 เมตรในจุดพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกัน จัดให้มีการเข้าออกทางเดียว เพื่อจำกัดจำนวนคนอย่างเหมาะสม บริการร้านอาหารหรือคลับเฮ้าส์ต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ระบุไว้ มีการนัดคิวขอรับบริการ และบันทึกรายชื่อผู้เข้าใช้บริการ รวมทั้ง ต้องมีมาตรการป้องกันสวมหน้ากากอนามัยและทำความสะอาด 

6.สถานที่ออกกำลังกาย

ให้เปิดได้ 3 ประเภท คือ สนามวิ่ง สนามเทนนิส สนามแบดมินตัน โดยต้องดูว่า ศบค.อนุมัติให้ออกกำลังกายประเภทใดเพิ่มได้บ้าง ซึ่งมาตรการต้องมีจุดคัดกรอง บันทึกรายชื่อผู้เข้ารับบริการ ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม จำกัดจำนวนผู้เล่น ไม่มีผู้รับชมในสนาม ห้ามเล่นกีฬาประเภททีม ช่น ฟุตบอล ซอฟบอลวอลเลย์บอล บาสเกตบอล กีฬาที่ต้องใกล้ชิดกัน 

7.สวนสาธารณะ

ให้เข้าใช้ออกกำลังกาย พักผ่อนได้ แต่ห้ามจับกลุ่มสังสรรค์นั่งคุย ดื่มชา หรือรับประทานอาหาร ต้องจัดให้มีจุดคัดกรอง จำกัดพื้นที่เข้าออก ต้องเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ใช่การจับกลุ่ม เช่น วิ่ง ขี่จักรยาน เดิน แบดมินตัน เป็นต้น งดเว้นการออกกำลังกายที่การจัดกลุ่ม เช่น เต้นแอโรบิก รำมวยจีน ไทเก็ก ฟุตบอล บาสเกตบอล เป็นต้น งดการเล่นเครื่องเล่นออกกำลังกายต่างๆ 

8.ร้านตัดขนสัตว์

จัดให้มีจุดคัดกรอก ยกเว้นการให้บริการสำหรับผู้ Walk In โดยให้จองคิวนัดหมาย กำหนดรอบเวลาเปิดและทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ทำบันทึกตารางเวลาเป็นหลักฐาน บันทึกชื่อการติดต่อผู้เข้ารับบริการทุกราย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กทม.จ่อคลายล็อกดาวน์ 8 สถานที่ 'ตลาด-ร้านตัดผม-ฟิตเนส-สวน'

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand