TNN NFT กับโอกาสในธุรกิจด้านอาหาร วิเคราะห์โดย Zipmex

TNN

คอลัมนิสต์

NFT กับโอกาสในธุรกิจด้านอาหาร วิเคราะห์โดย Zipmex

NFT กับโอกาสในธุรกิจด้านอาหาร  วิเคราะห์โดย  Zipmex

NFT กับโอกาสในธุรกิจด้านอาหาร วิเคราะห์โดย วรทย์ กีรติอาภากุล Research Specialist Zipmex

ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Non-Fungible Token หรือ NFT ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายในสังคม ซึ่งด้วยคุณสมบัติเด่นอย่างเช่น เรื่องความปลอดภัยที่มีการบันทึกข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ลงบนบล็อกเชน ทำให้สามารถระบุ และตรวจสอบความเป็นเจ้าของ NFT ที่ถูกสร้างขึ้นมาได้ เป็นต้น ซึ่งทำให้มีการนำไปประยุกต์ใช้กันอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงแรกก็จะเป็นในกลุ่มงานศิลปะ ต่อมาก็ได้มีการนำไปต่อยอดใช้กับธุรกิจเกมในส่วนของการสร้างไอเทมต่าง ๆ บนเกมที่เป็น NFT จนกระทั่งมาถึงปัจจุบันที่เริ่มมีการแตกแขนงไปสู่กลุ่มธุรกิจต่าง ๆ โดยข้อมูลที่เราจะมาแชร์กันในครั้งนี้ก็คือ ตัวอย่างจากกลุ่มธุรกิจด้านอาหารที่ได้มีการนำเอา NFT ไปปรับใช้กับธุรกิจของตนเอง ซึ่งจะมีลักษณะเป็นอย่างไรนั้นเราไปชมพร้อม ๆ กันเลยครับ

ร้านอาหาร Flyfish Club (FFC)

Flyfish Club (FFC) เป็นโปรเจกต์ร้านอาหาร Fine Dining แบบ Private Club ใน New York City ที่กำลังอยู่ในช่วงการพัฒนา และมีแพลนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการประมาณไตรมาสที่ 1-2 ในปี 2023 

ร้านอาหารแห่งนี้มีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างจากเจ้าอื่น ๆ ก็คือ มีการนำ NFT เอามาใช้ โดยออกแบบ NFT ไว้ใช้งานเปรียบเสมือนบัตรสมาชิกของทางร้าน โดยทางร้านจะเปิดรับเฉพาะกลุ่มสมาชิกที่ถือครอง NFT ของทางร้านเท่านั้น ซึ่งสมาชิกทั้งหมดจะสามารถเข้ามารับประทานอาหาร หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ภายในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่

ในส่วน NFT ของทางร้าน Flyfish นั้นถูกสร้างขึ้นบน Ethereum บล็อกเชน โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบดังนี้

Flyfish Membership 

  NFT กับโอกาสในธุรกิจด้านอาหาร  วิเคราะห์โดย  Zipmex

    NFT แบบที่หนึ่งจะเรียกว่า Flyfish Member ซึ่ง NFT จะมีลักษณะเป็น Artwork รูปปลาทูน่าครีบเหลือง (Yellowfin Tuna) มีราคาขายจากทางร้านอยู่ที่ 2.5 ETH ต่อ 1 ชิ้น โดยมีจำนวนจำกัดอยู่ทั้งหมด 2,560 ชิ้น 

    NFT หรือ Token นี้จะมีคุณสมบัติเปรียบเสมือนบัตรสมาชิกของร้านแห่งนี้ ลูกค้าที่ถือ NFT จะสามารถเข้ามารับประทานอาหาร หรือเข้ามาใช้งานยังพื้นที่ต่าง ๆ ของทางร้านได้อาทิเช่น ส่วนของห้องอาหารหลัก (Main Dining Room), Cocktail Lounge, Outdoor Lounge ตลอดจนถึงสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ ที่ทางร้านจัดขึ้น ซึ่งจะมีทั้งในแบบออนไลน์ และออฟไลน์มาบริการลูกค้า เช่น คลาสสอนทำอาหารแบบส่วนตัวจากเชฟของทางร้านผ่านโปรแกรม Zoom และกิจกรรมชิมไวน์ เป็นต้น

Flyfish Omakase Membership

  NFT กับโอกาสในธุรกิจด้านอาหาร  วิเคราะห์โดย  Zipmex


    NFT แบบที่สองจะเรียกว่า Flyfish Omakase member ซึ่ง NFT จะมีลักษณะเป็น Artwork รูปซูชิต่าง ๆ ถึง 7 แบบได้แก่ Uni, Otoro, Kinmedai, Hamachi, Hotate, Amaebi และ Ikura มีราคาขายจากทางร้านอยู่ที่ 4.25 ETH ต่อ 1 ชิ้น โดยมีจำนวนจำกัดอยู่ทั้งหมด 385 ชิ้น 

    NFTs หรือ Tokens เหล่านี้จะมีคุณสมบัติที่เหมือนกันกับ Flyfish Member แต่จะเพิ่มในส่วนของการเข้าไปรับประทานอาหารยังส่วนของห้อง Omakase ได้

นอกเหนือจากนี้ทางโปรเจต์ยังมีแผนที่จะเปิดโอกาสให้ลูกค้ายังสามารถทำการขาย หรือปล่อยเช่าตัว NFT แบบรายเดือนบน Marketplace เพื่อสร้างรายให้แก่ตนเองในลักษณะของ Passive Income ได้อีกด้วยเช่นกัน


Gourmet NFT 

Gourmet NFT เป็นแพลตฟอร์มผู้ให้บริการแก่กลุ่มเชฟ และนักทำอาหารต่าง ๆ ทั่วโลก ที่ต้องการสร้างรายได้ ด้วยการแปลงข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) ของตนเอง ซึ่งก็คือ ข้อมูลสูตรอาหาร (Recipes) ให้ไปอยู่ในรูปแบบของ NFT และนำมาวางขายเพื่อสร้างรายได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัยผ่านทางบล็อกเชน

เชฟ หรือนักอาหารที่สนใจ จะต้องเข้าไปสมัครกับทางเว็บไซต์ของ Gourmet NFT เพื่อทำรายละเอียดตามตัวอย่างขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้ 

    การทำสัญญา Agency Agreement ต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสัดส่วนแบ่งรายได้ระหว่างทางเชฟ กับตัวแพลตฟอร์ม, การทำ KYC & AML เพื่อรับทราบข้อมูลตัวตนของเชฟตามข้อกฎหมาย เป็นต้น

    หลังทำข้อตกลงเรียบร้อยแล้ว ทางแพลตฟอร์มจะส่งรายละเอียดขั้นตอนต่าง ๆ มาให้เชฟทำการกรอกข้อมูลสูตรอาหาร, อัปโหลดรูปภาพ และวิดีโอการทำ ,กำหนดราคาขายโดยอ้างอิงตาม Price Tiers ของทาง Gourmet NFT แนะนำ , ระบุจำนวน NFT ทั้งหมด และกำหนดส่วนแบ่งรายได้  หรือ ค่าลิขสิทธิ์ในแต่ละครั้งเมื่อเกิดการขาย NFT ขึ้น เป็นต้น ก่อนการแปลงข้อมูลต่าง ๆ ให้กลายเป็น NFT และจึงทำไปวางขายบนแพลตฟอร์มให้แก่ลูกค้า

NFT กับโอกาสในธุรกิจด้านอาหาร  วิเคราะห์โดย  Zipmex


อ้างอิงภาพประกอบจาก https://gourmetnft.io/recipe/anthony-serranos-the-buttery-breakfast-super-sausage-stack/

จากภาพเป็นหนึ่งในสูตรอาหารของเชฟ Anthony Serrano ผู้ที่ได้รับรางวัล World Food Champions ในสาขา World Recipe Champion เมื่อปี 2016


ตัวอย่างข้อมูลต่าง ๆ ของแพลตฟอร์ม

    Gourmet NFT ได้เลือกใช้งาน WAX บล็อกเชนมาใช้งานเพราะทาง WAX มีระบบนิเวศที่มีความครอบคลุมตามความต้องการของ Gourmet NFT ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบริการของ WAX Wallet ในการเก็บรักษา NFT, มี Marketplaces ของตนเองไว้รองรับการซื้อขาย และค่าธรรมเนียมธุรกรรมบนเชนที่ต่ำกว่าของ Ethereum

    Gourmet NFT มีการรองรับช่องทางการชำระเงินได้ 2 รูปแบบทั้งเป็นแบบเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และคริปโตผ่านทาง PayPal, Coinbase และ WAX บล็อกเชน เป็นต้น 

    Gourmet NFT พยายามรวบรวมสูตรอาหารจากเชฟชื่อดังต่าง ๆ อย่างเช่น กลุ่มเชฟที่ได้รับรางวัลดาว Michelin, รางวัล World Food Champions ในสาขาต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งเป็นเชฟที่อยู่ในรายการอาหารบนช่องทางโทรทัศน์ และ Netflix เป็นต้น


กล่าวโดยสรุป ปัจจุบัน NFT มีการพัฒนาเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยได้เริ่มมีการเพิ่มกิมมิค หรือมูลค่าบางอย่างลงไป เช่น สิทธิเข้าถึงบริการ หรือสถานที่บางอย่างให้แก่ผู้ถือครองไปใช้อรรถประโยชน์ในชีวิตจริงได้นอกเหนือจากการสะสม ตลอดจนไปถึงการนำเอาข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาของธุรกิจนั้น ๆ มาแปลงสภาพใช้ในรูปแบบ NFT เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถเข้ามาสร้างรายได้จากข้อมูลเหล่านี้กันมากยิ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของ NFT ที่อาจมองได้ว่า ไม่มีที่สิ้นสุดตราบเท่าที่เราสามารถจินตนาการเอาไว้ปรับใช้กันได้อย่างเหมาะสมกับธุรกิจของตน จึงทำให้ในอนาคตข้างนี้อาจจะมีธุรกิจอื่น ๆ นอกเหนือจากที่เราคุ้นเคยกันเข้ามาสร้าง NFT ที่สอดแทรกผลิตภัณฑ์ หรือบริการใหม่ ๆ เข้ามาอีกเป็นจำนวนมากก็เป็นไปได้




ข้อมูลจาก : วรทย์ กีรติอาภากุล Research Specialist Zipmex 

ภาพประกอบ : AFP ,Zipmex 


ข่าวแนะนำ