(คลิป) ศูนย์จีโนมฯ กังวล “โอมิครอน BA.2” รุนแรงเท่า “เดลตา”
นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา จากไบโอเทค กังวลโอมิครอน BA.2 ที่เริ่มเปลี่ยนหน้าตาเหมือนสายพันธุ์เดลตา และอาจอันตรายมากกว่าสายพันธุ์ลูกผสม XE และ XJ ที่เพิ่งตรวจพบ
ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับ ไวรัสโควิด-19 ว่า ในขณะที่หลายคนกำลังให้ความสนใจกับไวรัสสายพันธุ์ลูกผสม XE และ XJ ส่วนตัวผมสนใจกับไวรัส BA.2 สายพันธุ์ย่อยที่มีแนวโน้มสร้างความกังวลมากกว่า โดยไวรัส BA.2 สายพันธุ์ย่อยนี้ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ และ ไม่ใช่ตระกูล X เพราะไม่ได้เกิดจากการสลับสาย RNA ระหว่างสายพันธุ์ สายพันธุ์นี้เริ่มมีการตรวจพบครั้งแรกที่ประเทศแอฟริกาใต้ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา และ ล่าสุดมีการพบที่ประเทศเดนมาร์กเมื่อสัปดาห์ก่อน
ไวรัสสายพันธุ์นี้เป็น BA.2 ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มที่หนามสไปค์ 2 ตำแหน่ง คือ L452R และ F486V โดยตำแหน่งทั้ง 2 อยู่ในบริเวณที่ไวรัสใช้จับโปรตีนตัวรับเพื่อเข้าสู่เซลล์ (RBD) ทั้งคู่ โดยเฉพาะตำแหน่ง L452R เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็น signature ของไวรัสสายพันธุ์เดลตา เชื่อว่า เป็นตำแหน่งหนึ่งที่ทำให้เดลตามีคุณสมบัติเป็นสายพันธุ์น่ากังวล หนีภูมิ แพร่ไว และ ก่อโรครุนแรง
การที่ BA.2 มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มไปเหมือนกับเดลตา ทำให้มีคำถามว่าคุณสมบัติของ BA.2 ที่มีการเปลี่ยนแปลงนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงไปจาก BA.2 ดั้งเดิมหรือไม่ การประเมินคร่าวๆด้วยข้อมูลในปัจจุบันพบว่า BA.2-L452R-F486V อาจมีแนวโน้มที่แพร่กระจายได้ดีกว่า BA.2 ปกติ ตัวเลขที่ระบบคำนวณออกมาได้จะประมาณร้อยละ 30 ถ้ามีแค่ L452R อย่างเดียวก็จะดีกว่า BA.2 ปกติประมาณร้อยละ 20 ซึ่งอาจจะบอกได้ว่า การเปลี่ยนแปลงที่ขยับไปคล้ายเดลตามากขึ้น ช่วยให้ไวรัส Fit ขึ้น วิ่งไวขึ้น และ การเปลี่ยนแปลงของ BA.2 เกิดขึ้นไวมาก มาแบบหลายรูปแบบซึ่งแตกต่างจากโควิดรุ่นก่อนๆที่จะมาแบบสร้างตัวเด่นขึ้นมาเพียง 1 -2 รูปแบบและขึ้นมาครองพื้นที่
อาจารย์อนันต์ บอกว่า ตอนนี้ ทำอะะไรไม่ได้มาก เพราะไวรัสไม่ game over หรือ ไม่จบง่ายๆ ถ้าเราปล่อยให้ไวรัสเปลี่ยนได้ตามที่ต้องการแบบทุกวันนี้ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการตั้งรับด้วยภูมิคุ้มกันและป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด