TNN online (คลิป) ภาคใต้อ่วมหนัก! ฝนถล่ม เตรียมอพยพ ประกาศเขตภัยพิบัติ

TNN ONLINE

รายการ TNN

(คลิป) ภาคใต้อ่วมหนัก! ฝนถล่ม เตรียมอพยพ ประกาศเขตภัยพิบัติ

(คลิป) ภาคใต้อ่วมหนัก! ฝนถล่ม เตรียมอพยพ ประกาศเขตภัยพิบัติ

จังหวัดภาคใต้เผชิญฝนตกหนัก-น้ำท่วม-คลื่นลมแรง โดยเฉพาะจังหวัดนราธิวาสต้องประกาศเขตภัยพิบัติทั้งจังหวัด ประชาชนเดือดร้อนกว่า 1 แสนคน


จังหวัดนราธิวาสเผชิญฝนตกหนักต่อเนื่อง 3 วันติดกัน ส่งผลให้มวลน้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ 13 อำเภออย่างรวดเร็ว บางพื้นที่ระดับน้ำท่วมขังสูงสุดประมาณ 2 เมตร ถนนหลายสายในหมู่บ้านถูกตัดขาด

 

ล่าสุด นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทั้งจังหวัด ซึ่งบางอำเภอมีทั้งอุทกภัยและวาตภัย เช่น สุไหงโก-ลก และ เมืองนราธิวาส ทั้งนี้ได้สั่งการให้ทั้ง 13 อำเภอเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน


สำหรับข้อมูลจากทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส รายงานพื้นที่ประสบภัยพิบัติทั้ง 13 อำเภอ จำนวน 67 ตำบล 467 หมู่บ้าน 2 เทศบาล มีราษฎรเดือดร้อนกว่า 1 แสนคน หรือ 33,482 ครัวเรือน

       

ด้านหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมด้วย นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และผู้นำท้องถิ่น เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และให้ความช่วยเหลือประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพ น้ำดื่ม ข้าวกล่อง ยารักษาโรค ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแว้ง และ อำเภอสุไหงโกลก เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่องทำให้น้ำป่าไหลหลากและมีน้ำท่วมขัง ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 


นอกจากนี้ยังช่วยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงไปยังโรงพยาบาล เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมติดตามสถานการณ์ และจัดกำลังพลเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง โดยบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน จนกว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่จะลดลง และกลับเข้าสู่สภาวะปกติ


ส่วนสถานการณ์ที่จังหวัดยะลา มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 วันติดต่อกัน ส่งผลทำให้น้ำท่วม 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอรามัน / อำเภอยะหา /อำเภอเมืองยะลา /และอำเภอกรงปินัง ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,804 ครัวเรือน หรือ  11,044 คน ถนนได้รับความเสียหาย 10 สาย / ฝาย 2 แห่งได้รับผลกระทบ พื้นที่การเกษตรเสียหาย 1,380 ไร่ 


นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา สั่งการให้ทางอำเภอ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยทหาร ตำรวจ กำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน และ อาสาสมัครในแต่ละพื้นที่ ร่วมกันให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งการสนับสนุนเรือท้องแบน เรือพลาสติก เครื่องสูบน้ำ เร่งคลี่คลายสถานการณ์ 


ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี ช่วงเช้าที่ผ่านมามีระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง ทางเทศบาลตำบลท่าสาป อ.เมืองยะลา ออกประกาศเตือนชาวบ้านที่อาศัยอยู้ในพื้นที่ริมแม่น้ำปัตตานี ให้เตรียมพร้อมอพยพ และรับมือกับมวลน้ำที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในวันนี้ ทางด้านเทศบาลนครยะลาได้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำ ให้รีบขนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง เฝ้าระวังติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง หากต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครยะลา หมายเลขโทรศัพท์ 0-7321-2345 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


ปิดท้ายที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ล่าสุดนายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ตรวจสอบผล กระทบจากคลื่นลมแรง น้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง อำเภอหัวไทร ตั้งแต่คืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 100 ครัวเรือน เบื้องต้นให้ความช่วยเหลือด้วยการซ่อมแซมบ้านเรือน พร้อมนำเครื่องจักรมาทำแนวป้องกันน้ำกัดเซาะตลิ่งเป็นการชั่วคราว 

     

สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ทางกรมโยธาธิการและผังเมือง จะดำเนินการสร้างแนวกั้นการกัดเซาะชายฝั่งในปี 2565 ระยะทาง 350 เมตรต่อจากโครงการเดิม ในส่วนที่เหลือทางเทศบาลหน้าสตน จะเสนอแผนของบประมาณไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแนวกั้นน้ำทะเลกัดเซาะต่อไป


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง