“โป๊ปฟรานซิส”เสด็จฯเยือนไทยในรอบ 35 ปี สำคัญอย่างไร?
“พระสันตะปาปาฟรานซิส” ผู้แทนของพระเยซูคริสต์เจ้า ศูนย์รวมจิตใจของของศาสนิกชนคาทอลิกทั่วโลก สำคัญกับคนไทยอย่างไร
ในวันที่ 20-26 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิสจะเสด็จเยือนสองประเทศในเอเชียอย่างเป็นทางการนั่นก็คือ ประ เทศไทยและประเทศญี่ปุ่นโดยการเสด็จเยือนไทยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสครั้งนี้ ถือเป็นการเยือนไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 35 ปีของผู้นำศาสนจักรโรมันคาทอลิก หลังจากที่สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 เคยเสด็จเยือนไทยมาแล้วในปี 1984
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาเคยตรัสว่าจะเสด็จเยือนเมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงแนวคิดของพระองค์ที่ต่อต้านการผลิต, ครอบ ครอง และใช้อาวุธนิวเคลียร์ เพื่อนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติของประชาคมโลก
ในครั้งนั้น ยังไม่มีการเปิดเผยเรื่องการเยือนไทย จึงทำให้การเสด็จมาเยือนไทยครั้งนี้เป็นเรื่อง “เซอร์ไพรส์” สำหรับชาวไทยด้วย
การเสด็จเยือนไทยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสประจวบเหมาะกับวาระครบรอบ 350 ปีแห่งการสถาปนาศาสนจักรคาทอลิกขึ้นในแผ่นดินสยามและครบรอบ 50 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและนครรัฐวาติกัน
ขณะเดียวกัน สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสยังได้มีแถลงการณ์ก่อนเสด็จเยือนไทยซึ่งมีนัยยะสำคัญที่เน้นถึงการที่ประเทศไทยสนับสนุนความสามัคคีและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขทั้งในประเทศ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการสานสัมพันธ์และมิตรภาพของผู้คนต่างศาสนาด้วย
ทั้งนี้ ไม่ใช่เพียงชาวไทยเท่านั้นที่จะได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส แต่ชาวต่างชาติที่พำนักในไทย หรือแม้กระทั่งอยู่ในประเทศใกล้เคียงต่างก็รอคอยที่จะได้เข้าเฝ้าพระองค์เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้พระสันตะปาปา คือ ผู้สืบทอดตำแหน่งของนักบุญเปโตร (เซนต์ปีเตอร์) ที่ได้รับอำนาจสืบทอดมาจากพระเยซู คริสต์เจ้า ทรงเป็นผู้แทนของพระเยซูคริสต์เจ้าบนโลกนี้ นอกนั้นยังถือว่าพระสันตะปาปาคือ บิชอปแห่งกรุงโรม
ตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปา ปานั้น มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานประมาณสองพันปี โดยเริ่มต้นขึ้นเมื่อพระเยซู คริสต์เจ้าได้ทรงแต่งตั้งให้นักบุญเปโตร อัครสาวก เป็นผู้นำของบรรดาอัครสาวก จึงถือว่านักบุญเปโตรเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรก และมีผู้สืบตำแหน่งจากนักบุญเปโตรเป็นลำดับมาจนถึงปัจจุบันทั้งนี้ พระสันตะปาปายังถือว่าเป็นผู้แทนของพระเยซูคริสต์เจ้าในโลก ตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก อีกทั้งทรงดำรงตำแหน่งประมุขแห่งสันตะสำนักและนครรัฐวาติกัน อันเป็นศูนย์กลางการบริหารพันธกิจของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกทั่วโลกอีกด้วย
สำหรับศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในประเทศไทย ปรากฏหลักฐานว่ามิชชัน นารีคณะโดมินิกันได้เข้าสู่ประเทศไทยสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2054 และได้ตั้งรากฐานอย่างมั่นคงถาวร เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 9 ทรงสถาปนามิสซังสยามขึ้น (Apostolic Vicariate of Siam) เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2212 มิชชันนารีและศาสนิกชนคาทอลิกได้นำวิทยาการจากตะวันตกมาช่วยเสริมในการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ อีกทั้งยังประกอบกิจเมตตาสาธารณกุศลแก่ประชาชนโดยทั่วไป
โดยคริสตศาสนิกชนยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระมหากษัตริย์ มาตลอดระยะเวลาอันยาวนานโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากราชวงศ์จักรี ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์การเยือนระหว่างประมุขแห่งรัฐระหว่างราชอาณาจักรไทยและสันตะสำนักแห่งนครรัฐวาติกันนั้น มีขึ้นครั้งแรกเมื่อพระ บาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะ ปาปาเลโอที่ 13 ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินทวีปยุโรปเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2440
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี เสด็จพระราชดำเนินไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 11 เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2477
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินมาเข้าเฝ้านักบุญยอห์นที่ 21 พระสันตะปาปา เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมพ.ศ. 2503
ด้านความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทย และสันตะสำนักแห่งนครรัฐวาติกันนั้น การติดต่อทางพระราชไมตรีระหว่างพระมหากษัตริย์สยาม และสมเด็จพระสันตะปาปาแห่งวาติกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมาจนถึงปีพ.ศ. 2512 นักบุญเปาโลที่ 6 พระสันตะปาปาจึงทรงสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทย และสันตะสำนักแห่งนครรัฐวาติกันในระดับเอกอัครราชทูต ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-วาติกันจึงได้กระชับแน่นแฟ้นขึ้นจนถึงปัจจุบัน
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand