ซาอุฯโชว์ซากโดรนหลักฐานมัดตัว "อิหร่าน"

วันนี้ ( 19 ก.ย. 62 )กระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย โชว์ซากโดรนและชิ้นส่วนขีปนาวุธร่อน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นข้อเท็จจริงว่า อิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันเสาร์ที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา โดยโดรน 18 ลำ และขีปนาวุธร่อนอีก 7 ลูก ถูกยิงมาจากอีกทิศทางที่ไม่ใช่เยเมนอย่างที่กบฏฮูตีในเยเมน ที่มีอิหร่านหนุนหลัง ออกมากล่าวอ้างว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ และอิหร่านก็ปฏิเสธความเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเตือนว่า จะตอบโต้ต่อการโจมตีใด ๆ ต่ออิหร่าน

สหรัฐยังยืนยันข้อกล่าวหาของตนว่า อิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตี โดยนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวหลังเดินทางถึงซาอุดีอาระเบียเมื่อวันพุธว่า มันเป็น “การทำสงคราม”

ทั้งนี้ หลักฐานที่กระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบียนำออกแสดงต่อผู้สื่อข่าวนั้น เป็นซากโดรน ยูเอวี และขีปนาวุธ ซึ่งโฆษกของกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย พันเองเตอร์กี อัล-มัลกี กล่าวว่า หลักฐานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการโจมตีมาจากทางเหนือ และมีอิหร่านให้การสนับสนุนอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม พันเอกมัลกี บอกว่า ซาอุดีอาระเบียยังคงเดินหน้าตรวจสอบเพื่อให้รู้สถานที่จริงที่ใช้โจมตี

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ แถลงเมื่อวันพุธว่า มีทางเลือกมากมายที่ไม่ใช่สงครามในการจัดการกับอิหร่าน หลังจากซาอุดีอาระเบีย พันธมิตรสหรัฐ แสดงหลักฐานชิ้นส่วนโดรนและขีปนาวุธ ที่อ้างว่าอิหร่านใช้ในการโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน ทรัมป์ ซึ่งระบุผ่านทวิตเตอร์ก่อนหน้านี้ว่า เขาได้สั่งให้กระทรวงการคลังสหรัฐเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านให้หนักหน่วงรุนแรงยิ่งขึ้น กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การลงโทษอย่างรุนแรงด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจ จะถูกเปิดเผยภายใน 48 ชั่วโมงนี้ โดยทรัมป์ทวิตข้อความหลังย้ำคำยืนยันของสหรัฐว่า อิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และไม่กี่ชั่วโมงหลังซาอุดีอาระเบีย แถลงว่า การโจมตีครั้งนี้ ถือเป็น “บททดสอบเจตจำนงโลก”