สหรัฐยอมรับโจมตีกองกำลังในอิรัก ‘แก้แค้นกองกำลัง อัล-นูจาบา’

นายพลจัตวา แพทริค ไรเดอร์ โฆษกของกระทรวงกลาโหม หรือ เพนตากอน ของสหรัฐฯ  แถลงข่าว เมื่อวานนี้ว่า กองกำลังของสหรัฐฯได้โจมตีเป้าหมายที่เป็นนายมัชทัค  จาวัด คาซิม อัล-จาวารี หรือ ที่รู้จักกันในชื่อว่า อาบู-ทัควา  เป็นแกนนำของกลุ่มฮาราคัต-อัล-นูจาบา ซึ่งเกี่ยวข้องการวางแผนและก่อเหตุโจมตีทหารสหรัฐฯในอิรักและซีเรีย เป็นการโจมตีเพื่อปกป้องตนเอง ไม่มีพลเรือนได้รับบาดเจ็บด้วยและไม่มีโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะในอิรักได้รับความเสียหาย พร้อมกล่าวปกป้องการโจมตีดังกล่าวว่า ไม่มีใครต้องการเห็นการกลับมาของกองกำลังรับอิสลาม หรือ ไอเอส

แหล่งข่าวที่เป็นตำรวจชาวอิรักและพยานที่เห็นเหตุการณ์ เผยว่า อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ยิงจรวดอย่างน้อยสองลูกโจมตีสำนักงานของกองกำลัง อัล-นูจาบา ในทางตะวันออกของกรุงแบกแดด ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย4คนรวมทั้งแกนนำระดับผู้บัญชาการ1คนที่สหรัฐฯกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันการโจมตีทหารสหรัฐฯในอิรัก

ขณะที่ล่าสุดรัฐบาลอิรัก โดยนายกรัฐมนตรีโมฮัมเหม็ด เชีย อัล-ซูดานี เปิดเผยวันนี้ว่า รัฐบาลกำลังจัดตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการถอนตัวของกองกำลังสหรัฐฯและชาติพันธมิตร ออกจากประเทศอย่างถาวร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดวันดำเนินการ  ซึ่งในคณะกรรมการจะมีตัวแทนของแนวร่วมทางการทหารอยู่ด้วย 

คำแถลงดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯได้โจมตีแกนนำของกลุ่มอัล-นูจาบา (ที่รายงานไปข้างต้น) ซึ่งเป็นกลุ่มที่เป็นพันธมิตรกับอิหร่าน ทำให้หลายฝ่ายเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดการปรากฎอยู่ของกองกำลังพันธมิตรสหรัฐฯในประเทศอย่างถาวรโดยเร็วที่สุด 

ทั้งนี้ มีกลุ่มที่อิหร่านให้การหนนุนหลังมีอำนาจค่อนข้างมากในรัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรีซูดานี ทำให้เขามีอำนาจในการควบคุมกลุ่มนี้ค่อนข้างน้อย

ทั้งนี้ สหรัฐฯ ส่งทหารประจำการในอิรัก 2,500 นาย และในซีเรีย 900 นาย เพื่อป้องกันการฟื้นคืนชีพของกลุ่ม IS ซึ่งเคยควบคุมพื้นที่ใน 2 ประเทศนี้ ก่อนพ่ายแพ้ลงในปี 2014 และนับจากการสู้รบของอิสราเอล-ฮามาส เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ทหารสหรัฐฯตกอยู่ภายใต้การถูกโจมตีอย่างน้อย 100 ครั้งในอิรักและซีเรีย

ข้อมูลจาก: รอยเตอร์ 

ภาพจาก:  รอยเตอร์