ยุโรปกลัวรับยูเครนเข้านาโต หลังรัสเซียยึดเมืองเชอร์โนบิลได้ ปูตินย้ำอีก โจมตียูเครนเพราะจำเป็น
กองทัพรัสเซียคุมพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลไว้ได้แล้ว ผู้นำรัสเซียย้ำปฏิบัติการในยูเครนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่ ผู้นำยูเครนสั่งระดมพลทั่วประเทศเพื่อสู้กับรัสเซีย พร้อมเผยว่า ผู้นำสหภาพยุโรป หรือ EU มีท่าทีหวาดกลัวที่จะรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต
---รัสเซียบุกโจมตีรอบด้าน---
รัสเซียได้บุกโจมตียูเครนทั้งทางบก ทะเล และอากาศเมื่อวานนี้ (25 กุมภาพันธ์) ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์โจมตีครั้งใหญ่ที่สุดโดยรัฐหนึ่งกับอีกรัฐหนึ่งในยุโรป นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา
ขณะที่ รายงานล่าสุด ระบุว่า ทหารรัสเซียสามารถเข้ายึดโรงงานนิวเคลียร์ในเมืองเชอร์โนบิลของยูเครนได้แล้ว
โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย อิกอร์ โคนาเชนคอฟ ประกาศว่า “กองกำลังรัสเซียปฏิบัติภารกิจทั้งหมดได้อย่างลุล่วง ถือว่าภารกิจวันแรกสำเร็จด้วยดี”
เมื่อวานนี้ (24 กุมภาพันธ์) ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศเริ่มปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครน จากแรกเริ่มที่จะส่งไปยังภูมิภาคดอนบาส ที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียสนับสนุนอยู่เท่านั้น แต่กลับกลายเป็นว่า รัสเซียส่งทหารเข้าไปจากภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ของยูเครน
การสู้รบขยายไปถึงกรุงเคียฟของยูเครนอย่างรวดเร็ว รวมถึงเมืองสำคัญอื่น ๆ ทั่วประเทศด้วย ไม่เพียงการยกทัพภาคพื้นดิน แต่รัสเซียยังใช้การโจมตีทางอากาศ พุ่งเป้าไปที่เป้าหมายทางทหารอื่น ๆ ส่งผลให้ชาวยูเครนจำนวนมากตัดสินใจหนีการสู้รบ ไปยังภาคตะวันตกของประเทศ
---สมรภูมิเชอร์โนบิล---
โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์เชอร์โนบิลของยูเครน ที่เคยเกิดโศกนาฏกรรมนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสมรภูมิที่ดุเดือดแห่งหนึ่ง
ผู้นำยูเครน ระบุว่า การโจมตีเชอร์โนบิล ซึ่งเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ แต่ถูกทิ้งร้าง หลังภัยพิบัติครั้งนั้นในปี 1986 และยังเต็มไปด้วยการปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี ถือเป็น “การประกาศสงครามกับทั่วทั้งยุโรป”
ล่าสุด ประธานาธิบดียูเครน ประกาศว่า กองทัพรัสเซียยึดเชอร์โนบิลไว้ได้แล้ว
---สมรภูมิแห่งโอเดสซา---
การสู้รบในเมืองท่าโอเดสซา ทางตอนใต้ของยูเครน ถือว่าสถานการณ์ย่ำแย่ที่สุด หลังกองทัพรัสเซียบุกโจมตีฐานทัพใกล้กับท่าเรือทะเลดำในเมือง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน
กองทัพรัสเซียเคลื่อนพลจากแคว้นไครเมีย ที่รัสเซียผนวกรวมในปี 2014 และค่อย ๆ รุกคืบขึ้นไปทางตอนเหนือ เป้าหมายแรกคือเมืองโอเดสซา เมืองท่าสำคัญและช่องทางติดต่อทางทะเลของยูเครน
ดังนั้น หากรัสเซียยึดโอเดสซาได้ก็จะถือว่า ตัดช่องทางที่ชาติพันธมิตรจะส่งกองกำลังสนับสนนุนเข้ามาช่วยยูเครนทางทะเล
ส่วนที่กรุงเคียฟเมืองหลวง เสียงไซเรนดังกังวาลทั่วเมือง และเกิดเสียงดังสนั่นทั้งวัน รัฐบาลยูเครนต้องประกาศกฎอัยการศึกและขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ พร้อมยอมรับว่ารัสเซียยึดสนามบินใกล้กรุงเคียฟได้แล้ว
ทั้งนี้ มีรายงานว่า เครื่องบินทหารยูเครนพร้อมผู้โดยสาร 14 คน ตกในพื้นที่ทางตอนใต้ของกรุงเคียฟ แต่ไม่แน่ชัดว่ามีผู้เสียชีวิตกี่คน และเครื่องบินถูกยิงตกหรือไม่
การต่อสู้ที่เข้าไปถึงกรุงเคียฟในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทำให้ชาวยูเครนพยายามอพยพหนีออกจากเมือง ไปยังทิศตะวันตกของประเทศที่อยู่ติดกับชาติยุโรปและยังคงปลอดภัย
บรรยากาศในกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน เวลา 14.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวานนี้ (24 กุมภาพันธ์) หรือตรงกลับ 18.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เต็มไปด้วยความหมองหม่น เงียบเหงา ร้านค้าต่าง ๆ ปิดประตู ผู้คนมุ่งหน้าเดินทางออกนอกเมืองจนแน่นขนัด
ส่วนประชาชนยังยืนต่อแถวยาวเพื่อถอนเงินสดจากตู้ ATM ที่ปั๊มน้ำมัน ร้านขายยา และซูเปอร์มาร์เก็ต และเห็นยานพาหนะของทหารได้ทั่วเมือง
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดที่สนามบินนานาชาติบอรีสปิล และที่อื่น ๆ ทั่วเมือง
---สงครามแห่งยุโรป---
มิคาอิล โพโดยัค ผู้ช่วยของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเปิดเผยว่า "เป็นไปไม่ได้ที่จะพูดว่า โรงงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิลมีความปลอดภัย หลังจากที่ถูกรัสเซียโจมตี นี่เป็นหนึ่งในภัยคุกคามใหญ่ที่สุดในยุโรป
ด้านประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า การยึดเชอร์โนบิล เท่ากับประกาศสงครามกับยุโรปทั้งหมด ทั้งนี้ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ตั้งอยู่บนเส้นทางที่สั้นที่สุด จากกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน ไปถึงเบลารุส ซึ่งมีกองทหารของรัสเซียประจำการอยู่ในเบลารุส
เซเลนสกี แถลงล่าสุดว่า ผู้นำยุโรปกลัวที่จะวางเส้นทางสำหรับการเป็นสมาชิกนาโต ของยูเครน หลังจากเขาได้ถามผู้นำยุโรป 27 คนไปตรง ๆ ว่ายูเครนจะได้เข้าเป็นสมาชิกนาโตหรือไม่ ทุกคนก็กลัว ไม่มีใครตอบ
ผู้นำยูเครน ระบุว่า เขาและครอบครัวยังอยู่ในยูเครน ตัวเขาเองยังอยู่ที่ทำเนียบประธานาธิบดีในเมืองหลวง ส่วนที่พักของครอบครัวนั้นบอกไม่ได้ เพราะเขาถูกชี้เป้าเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนครอบครัวตกเป็นเป้าหมายลำดับที่ 2
เซเลนสกี กล่าวว่า ชาวยูเครน 137 คนเสียชีวิตในการสู้รบ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 316 คน
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครนส่อเค้าจะยืดเยื้อ และเกิดการโจมตีต่อเนื่องมากกว่า 20 จุดแล้ว ทำให้ล่าสุดประธานาธิบดียูเครนได้ลงนามในกฤษฎีกาเรื่องการระดมพลในประเทศ 1 วันหลังรัสเซียเคลื่อนพลรุกราน
สำนักข่าว Aljazeera รายงานว่า ที่ปรึกษารัฐมนตรีมหาดไทย เผยว่า กองกำลังยูเครนได้ยิงเครื่องบินรัสเซียตกเหนือกรุงเคียฟ ซึ่งจากนั้นก็พุ่งชนอาคารที่อยู่อาศัยและเกิดไฟไหม้
ทหารรัสเซียกำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า รัสเซียยังคงส่งทหารเข้าประเทศ ส่วนสหประชาชาติระบุว่า มีชาวยูเครนประมาณ 100,000 คน หนีออกจากบ้าน
---ปูตินชี้ ไม่มีทางเลือก---
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ระบุว่า เพื่อปกป้องความมั่นคงของประเทศ รัสเซียไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครน
ท่าทีของผู้นำรัสเซียมีขึ้นในการกล่าวต่อผู้นำธุรกิจในรัสเซีย และถ่ายทอดออกอากาศทางโทรทัศน์ ไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่เขาประกาศเปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครนในวันเดียวกัน และหลังจากสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย และประเทศอื่น ๆ ที่ทยอย คว่ำบาตรหรือกำลังพิจารณาคว่ำบาตรรัสเซียกรณีบุกยูเครน
ปูติน กล่าวด้วยว่า รัสเซียเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจโลก และยังคงต้องการเป็นอยู่ และไม่เคยคิดที่จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกเลย และจะไม่สร้างความเสียหายใด ๆ ต่อระบบเศรษฐกิจโลก เพราะรัสเซียเองก็เป็นส่วนหนึ่งเช่นกัน และไม่ต้องการถูกตัดขาดจากระบบเศรษฐกิจโลกด้วย
มีรายงานว่า ขณะนี้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องของรัสเซียกำลังวิเคราะห์ ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก ที่จะรุนแรงมากกว่าปี 2014 แต่ปูตินเชื่อมั่นว่า บรรดาผู้ประกอบการซึ่งเรียนรู้และปรับตัว 8 ปีที่ผ่านมา จะสามารถฝ่าฟันวิกฤติทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ในอนาคตได้
---นานาชาติคว่ำบาตรรัสเซีย---
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการควบคุมการส่งออกสินค้าให้กับรัสเซีย เพื่อสกัดกั้นไม่ให้รัสเซียสามารถเข้าถึงสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์เชิงพาณิชย์ คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงเซมิคอนดักเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องบิน
ประธานาธิบดีไบเดน ได้ออกแถลงการณ์ที่ทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดี (24 กุมภาพันธ์) ตามเวลาท้องถิ่นว่า นอกเหนือจากการควบคุมการส่งออกสินค้าให้กับรัสเซียแล้ว มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมนี้จะพุ่งเป้าไปที่ธนาคารรายใหญ่ของรัสเซีย, การจำกัดความสามารถของรัสเซียในการทำธุรกิจด้วยสกุลเงินดอลลาร์ ยูโร ปอนด์ และเงินเยน รวมทั้งควบคุมการส่งออกสินค้าไฮเทคที่รัสเซียจำเป็นต้องใช้
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เพิ่มกำลังทหารเข้าประจำการในยุโรปทั้งทางบกและทางอากาศ รวมทั้งเพิ่มกำลังทหารที่เข้าประจำการในเยอรมนี โดยระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังทหารขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ที่มีเป้าหมายเพื่อตอบโต้การกระทำของรัสเซีย
ไบเดน ระบุว่า กองกำลังสหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ไม่ได้เข้าไปในยุโรปเพื่อต่อสู้ในยูเครน แต่จะป้องกันพันธมิตรสหรัฐฯ ในนาโต และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตรในภูมิภาคฝั่งตะวันออก
ผู้นำสหภาพยุโรป หรือ EU เห็นพ้องต้องกันที่จะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ต่อรัสเซีย โดยร่วมกับสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ในการพยายามลงโทษประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และพันธมิตรของเขาที่โจมตียูเครนอย่างเต็มรูปแบบ
EU จะแช่แข็งทรัพย์สินของรัสเซียในชาติสมาชิก และระงับการเข้าถึงตลาดการเงินยุโรปของธนาคารรัสเซีย ซึ่งโจเซฟ บอร์เรลล์ ระบุว่า เป็นมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุดที่ EU เคยใช้มา
มาตรการคว่ำบาตร ยังมุ่งเป้าไปที่ภาคพลังงานและการขนส่งของรัสเซีย และอื่น ๆ รวมถึงระงับการค้าและการผลิตด้วยการควบคุมการส่งออก
อย่างไรก็ตาม EU ยังไม่ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดที่สุด อย่างที่ยูเครนต้องการ และจับตาดูสถานการณ์ว่าจะเพิ่มมาตรการให้ไปไกลได้ขนาดไหน
นอกจากนี้ EU จะเตรียมแพคเกจความช่วยเหลือใหม่สำหรับยูเครน และมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อเบลารุส ที่กองทัพรัสเซียเดินทางผ่านเข้าไปปฏิบัติการในยูเครน
—————
แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: STR / ARMED FORCES OF UKRAINE / AFP