"อาคม"หวังมาตรการกระตุ้นศก.4 โครงการท้ายปี ดันจีดีพีปี 64 โตเกินร้อยละ 1.3

วันนี้( 20 ต.ค.64) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้อนุมัติเพิ่มวงเงินโครงการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นช่วงเปิดประเทศวงเงินทั้งหมด 54,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินจากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 500,000 ล้านบาท 

ทั้งนี้คาดหวังว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจปลายปีกลับมาคึกคัก และทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวเกินร้อยละ 1.3 โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะมีการทบทวนประมาณการณ์เศรษฐกิจใหม่ช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าครม. อนุมัติวันนี้ ยังไม่รวมกับของขวัญปีใหม่ ซึ่งกระทรวงคลังยืนยันว่าจะมีออกมาเพิ่มเติมอย่างแน่นอน

สำหรับโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 ประชาชนจะได้เงินรวมทั้งสิ้น 4,500 บาท สามารถใช้จ่ายได้จนถึงสิ้นปี ซึ่งเป็นไปตามคำขอของภาคเอกชนที่ต้องการให้เติมเงินในโครงการคนละครึ่ง และร้านค้าต้องการให้มีการจับจ่ายใช้สอยผ่านโครงการคนละครึ่ง โดยหากใครสมัครหลังวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 จะได้รับเงินรวดเดียว 4,500 บาท

ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 ไม่เกิน 13.53 ล้านคนและโครงการเพิ่มกำลังซื้อผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษหรือกลุ่มเปราะบาง ไม่เกิน 2.30 ล้านคน ใส่เงินเติม 300 บาทต่อคนต่อเดือนเป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2564 รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 500 บาทต่อคนต่อเดือน

ส่วนโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เพิ่มเติมวงเงินรัฐร่วมจ่ายรอบที่ 3 จำนวน 1,500 บาทต่อคน ในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2564 ให้แก่ผู้ได้รับสิทธิจำนวนไม่เกิน 28 ล้านคน ขณะที่โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เพิ่มวงเงินสนับสนุนบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (อี-วอยเชอร์) จำนวน 3,000 บาทต่อคน ให้แก่ผู้ได้รับสิทธิไม่เกิน 1 ล้านคน โดยเพิ่มวงเงินอี-วอยเชอร์ จากเดิมไม่เกิน 7,000 บาท เป็น 10,000 บาทต่อคน โดยทั้ง 4 โครงการมีผู้ใช้สะสมรวม 40.04 ล้านราย ยอดใช้จ่ายสะสม114,819.9 ล้านบาท 

ข้อมูล: กระทรวงการคลัง

ภาพ : พีอาร์ กระทรวงการคลัง