TNN online “รมว.คลัง”เตรียมมาตรการเพิ่ม ยันจะไม่ให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ติดลบ

TNN ONLINE

Wealth

“รมว.คลัง”เตรียมมาตรการเพิ่ม ยันจะไม่ให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ติดลบ

“รมว.คลัง”เตรียมมาตรการเพิ่ม ยันจะไม่ให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ติดลบ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง มั่นใจเศรษฐกิจไทยเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เชื่อสิ้นปีฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้คอบคลุมร้อยละ 70 ประชากรทั้งหมด และเตรียมออกมาตรการเพิ่ม กระตุ้นเศรษฐกิจปีนี้ไม่ให้ติดลบ

วันนี้( 29 ก.ย.64) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาในงานสัมนา “ธุรกิจ-สังคม สร้างภูมิคุ้มกัน ฝ่าภัยโควิด” จัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจว่า ธนาคารโลกได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 2% เหลือร้อยละ1   ต่ำกว่าที่ไทยได้คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก เนื่องจากความยืดเยื้อของโควิด19  แต่ประเทศไทยก็เริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงแล้ว โดยคาดว่าช่วงเดือนธันวาคม 64 ประชาชนจะได้รับวัคซีนป้องกันโควิดกว่าร้อยละ 70  และในช่วงสิ้นปีจะมีวัคซีนกว่า 178 ล้านโดส ซึ่งเพียงพอสำหรับการฉีดให้ประชาชนร้อยละ70 ของประชากรทั้งหมด  และในปี 2565 จะสั่งวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันเป็นเข็ม 3 อีกประมาณ 120 ล้านโดส


สำหรับกรณีที่กระทรวงการคลังจัดทำงบประมาณขาดดุล และกู้เพิ่ม เพื่อดูแลปัญหาเศรษฐกิจ และนำไปใช้เยียวยาประชาชนเพื่อลดผลกระทบจากโควิด 19  โดยในปี 2563 กู้เงินมาเพื่อแก้ปัญหาโควิด 1 ล้านล้านบาท ผ่านพ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน และในปีนี้ได้ออกพ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉินเพิ่มเติมอีก 5 แสนล้านบาท รวมเป็นยอดเงินที่จะต้องกู้กว่า 1.5  ล้านล้านบาทนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคล้งระบุว่า เป็นการกู้ในภาวะที่จำเป็นและเกือบทุกประเทศทั่วโลกดำเนินการเช่นเดียวกับไทย  ส่งผลให้หนี้สาธารณะไทยปรับเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าจะเป็นเพียงระยะสั้นๆ ประมาณ 2-3 ปี เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายในการลดการขาดดุลงบประมาณ และหากในปี 2565 จีดีพีไทยอยู่ที่ร้อยละ 3-4  และปี 2566 ไปอยู่ที่ร้อยละ 4-5  จะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ขยับลดลง  นอกจากนี้รัฐบาลมีแผนบริหารจัดการหนี้ที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดต้นทุนที่สูงเกินไป 


อย่างไรก็ดี  รัฐบาลจะไม่ทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ติดลบ ตามที่บางสำนักวิจัยเศรษฐกิจคาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะติดลบต่อเนื่องจากปีก่อน  โดยรัฐบาลจะเดินหน้าเพิ่มการใช้จ่ายให้ประชาชนและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่อง ผ่านมาตรการที่จะออกมาเพิ่มเติมในช่วง 1-2 เดือนนี้และยาวไปถึงปีใหม่เพื่อให้ประชาชนได้มีเงินในการใช้จ่าย 


 ภาพประกอบ : AFP     

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง