เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ชี้ราคาทองเริ่มเป็นขาลง มองขยับลงไม่ลึกประมาณ 200 ดอลลาร์สหรัฐ

วันนี้( 9 ก.ย.64)  ในงานเสวนาออนไลน์ในหัวข้อ “สุขภาพการลงทุนไทย เขียว เหลือง หรือแดง”  ซึ่งจัดโดยสำนักข่าว TNN ช่อง 16    นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ  ประธานฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า  ทองคำในปีที่ผ่านมาปรับตัวดีขึ้นมาก  โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  ทองคำเป็นสินทรัพย์มั่นคงหรือสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเคยปรับขึ้นมาถึง 30,000 บาท/บาททองคำ  เนื่องจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจหรือการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)พิมพ์ธนบัตรออกมาจำนวนมาก เพราะต้องการอัดฉีดเม็ดเงินให้กับประชาชน  ทำให้ราคาทองพุ่งขึ้น โดยปีนี้ทำจุดสูงสุดที่  1,920 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์  หรือประมาณ  29,000 บาท ทั้งจากปัจจัยต่างประเทศและค่าเงินบาทด้วย ที่ช่วงต้นปีขึ้นมา 30 บาทต่อเดอลลาร์สหรัฐ  และขยับขึ้นมาอยู่ที่ 33.3 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ   ปรับขึ้นมาเกือบ 10% แน่นอนว่าดีต่อการส่งออก

ส่วนในบ้านเราเมื่อราคาทองต่างประเทศขึ้น ประกอบกับเงินบาทอ่อนค่า ก็ส่งผลให้ทองไทยปรับตัวขึ้นมาก และขณะนี้ทรงตัวที่ 27,000-28,000 บาทต่อบาททองคำ  ดังนั้นทองคำจึงยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงวิกฤตโควิด-19  

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีข่าวเฟดจะมีการปรับมาตรการคิวอี ราคาทองก็เริ่มปรับตัวลงมา ซึ่งมองวาจะขยับลงไม่ลึกประมาณ 200 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคาดจะปรับลงมาทดสอบที่ 1,600-1,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เป็นจุดที่น่าเข้าซื้อ เพราะใกล้จุด Low ที่ทองคำจะเริ่มปรับฐาน  

ขณะที่ทองคำไทยจะดูเป็นขาขึ้น แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าสถานการณ์โควิดจะเป็นอย่างไร  โดยปกติตลาดทองคำส่วนใหญ่จะปรับลงเพราะคิวอี ดังนั้นจึงเห็นราคาทองลงก่อนสินทรัพย์อื่นๆในตลาด  หากในด้านการลงทุน มองว่า ถ้าทองลงควรรอให้พักฐานย่อตัวลงก่อน จึงจะเป็นจังหวะเหมาะในการเข้าซื้อ  เพราะยังอยู่ในช่วงเริ่มเป็นขาลง หรือระยะสั้น-ระยะกลางยังมองว่าเป็นขาลงอยู่  โดยจุดที่น่าเข้าซื้อคาดว่าจะอยู่ระหว่าช่วง 25,000 -26,000 บาท

ทั้งนี้หากมีการกระจายวัคซีนครบทั้งประเทศ สามารถคุมสถานการณ์ได้ จนสามารถเปิดประเทศได้ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจฟื้นตัว  รวมทั้งค่าเงินบาทแข็งค่า ก็จะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลง โดย เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ให้กรอบราคาทองคำไว้ที่ 27,000-28,000 บาท/บาททองคำ