TNN online นักลงทุนสถาบัน-ต่างชาติซื้อหุ้นไทยคึกคัก หนุนดัชนียืนบวก 13.51 จุด

TNN ONLINE

Wealth

นักลงทุนสถาบัน-ต่างชาติซื้อหุ้นไทยคึกคัก หนุนดัชนียืนบวก 13.51 จุด

นักลงทุนสถาบัน-ต่างชาติซื้อหุ้นไทยคึกคัก  หนุนดัชนียืนบวก 13.51 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดบวก 13.51 จุด แรงซื้อนักลงทุนสถาบัน-บัญชีบล.-ต่างชาติหนุน ขณะที่หุ้น domestic play ซื้อขายคึกคักเก็งกำไร คลายล็อกดาวน์ จับตาผลประชุมแจ็กสันโฮล เน้นธีมเปิดเมืองราคาแลกการ์ด ประเมินกรอบเคลื่อนไหวพรุ่งนี้ 1,590-1,610 จุด

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.คันทรี่กรุ๊ป  เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,600.49 จุด 

บวก 13.51 จุดหรือ 0.85  % ระหว่างวันซื้อขายสูงสุด 1,601.09  จุด และต่ำสุดที่ 1,588.37 จุด มูลค่าการซื้อขาย 92,930.84 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปิดบวกตามตลาดหุ้นในภูมิภาค ยกเว้น ฮ่องกง และญี่ปุ่นที่ปิดลบ เป็นผลมาจากจำนวนผู้รักษาหายประมาณ 21,000 คน มากกว่าผู้ติดเชื้อโควิดอยู่ที่ 18,000 คน 


ประกอบกับรัฐบาลประกาศฉีดวัคซีน 100 ล้านโดสภายในปีนี้เป็น sentiment เชิงบวกต่อตลาด  ซึ่งเห็นได้จากหุ้นdomestic play ปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น KBANK,CPALL,ADVANC 


นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากสำนักงานอาหารและยา (อย.)ของสหรัฐฯ อนุมัติการใช้งานวัคซีนไฟเซอร์-บีออ นเทคอย่างเต็มรูปแบบ หนุนหุ้นพลังงาน และปิโตรเคมีปรับตัวขึ้น เช่น PTT,PTTGC  


ด้านมูลค่าซื้อขายในวันนี้พบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 736.69 ล้านบาท บัญชีบล.ซื้อสุทธิ 1,035.59 ล้านบาท ต่างประเทศซื้อสุทธิ 3,606.64  ล้านบาทในประเทศขายสุทธิ 5,378.92 ล้านบาท 


สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับ QE tapering ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อบ้านเราจำกัดเนื่องจากข้อมูลสถิติย้อนหลังในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยไปแล้ว 7 แสนล้าน ดังนั้นหุ้นไทยที่ต่างชาติถืออยู่น่าจะจำกัด  แต่ปัจจุบันตลาดสามารถขับเคลื่อนได้ดีมาจากนักลงทุนสถาบันในประเทศและนักลงทุนรายย่อยเป็นหลัก 


นอกจากนี้ติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศ และในวันที่ 26 ส.ค.นี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดเล็กจะประชุม เพื่อทบทวนมาตรการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจในการประชุมพรุ่งนี้ ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมศบค. ชุดใหญ่ในวันศุกร์ที่ 27 ส.ค.นี้ 

 

ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่าตลาดชะลอตัวลงรอผลการประชุมเฟด ด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นแลกการ์ดธีมเปิดเมือง แนะ นำหุ้น M มีสภาพคล่องสูงถึง 7,000 ล้านบาท แม้เผชิญโควิด ปัจจุบันคนในกรุงเทพฯได้รับการฉีดวัคซีน 80% ถ้ารัฐผ่อนคลาย เปิดร้านอาหารน่าได้รับประโยชน์ และหุ้นมีอัพไซด์ถึง 15% ราคาเป้าหมาย 61 บาท 


หุ้นตัวต่อมาคือ CPALL  ได้รับผลกระทบโควิดจากการปิดร้านเร็ว และมีสาขาในกรุงเทพฯ 50% ต่างจังหวัด 50% ได้ประ โยชน์จากคลายล็อกดาวน์กำลังซื้อกลับคืนมาอัพไซด์ 11% ราคาเป้าหมาย 61.50 บาท 


หุ้นตัวสุดท้ายคือ ADVANC ราคาหุ้นในช่วงต้นปีขึ้นเพียง 4% ขณะที่ SET ขึ้น 9% หากเปิดเมืองได้ประโยชน์จากการขายอุปกรณ์มือถือ ปันผล  4%  อัพไซด์ 24% ราคาเป้าหมาย 227 บาท อย่างไรก็ตาม  ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวพรุ่งนี้ที่ 1,590-1,610 จุด 


นักลงทุนสถาบัน-ต่างชาติซื้อหุ้นไทยคึกคัก  หนุนดัชนียืนบวก 13.51 จุด


ข่าวแนะนำ